หัวน้ำหอม vs. น้ำหอมสำเร็จรูป: ความติดทน การกระจายกลิ่น และการปรุงสูตร

ถามโดย: batblast41 เมื่อ: September 24, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถามเกี่ยวกับส่วนประกอบน้ำหอมและน้ำหอมสำเร็จรูป ดังนี้ครับ:

  1. ส่วนประกอบน้ำหอมที่เขียนว่าติดทนมากๆ เช่น 100-200 ชั่วโมง ติดทนนานกว่าน้ำหอมสำเร็จรูปไหมครับ?
  2. ส่วนประกอบน้ำหอมเป็นธรรมชาติ หรือ สังเคราะห์ ครับ?
  3. อยากให้กลิ่นฟุ้งกระจายรอบตัวครับ น้ำหอมสำเร็จรูป ถ้าเทียบกับส่วนประกอบน้ำหอม จะอยู่ที่ระดับไหนครับ? Low, Medium, High?
  4. กลิ่น Champ Elysee ในน้ำหอมสำเร็จรูป กลิ่นแรงต่างจากตัวอื่นไหมครับ? เห็นโน๊ตไว้ ให้ใช้แค่ 5-15% ซึ่งกลิ่นอื่นจะแนะนำมากกว่านี้
  5. กลิ่นแนว Aquatic ต้องใช้ส่วนผสมอะไรเป็นหลักครับ?
  6. มีส่วนผสมกลิ่นของ Pink Pepper ไหมครับ?
  7. ถ้าเราใช้ส่วนประกอบน้ำหอมเฉพาะในส่วนประกอบน้ำหอม เราควรเลือกกลิ่นมารวมกันกี่ % ครับ? อยากได้หอมติดทนนาน ฟุ้งรอบตัว แบบแนว parfum เลยอะครับ

คำตอบ

ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหอม

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับส่วนประกอบน้ำหอม (หัวน้ำหอม) และน้ำหอมสำเร็จรูป:

  1. การเปรียบเทียบความติดทน: ส่วนประกอบน้ำหอม (หัวน้ำหอม) ที่ระบุว่ามีความติดทนสูงมาก (เช่น 100-200 ชั่วโมง) โดยทั่วไปจะเป็นสารให้ความหอมแบบเข้มข้น หรือเป็นเบลนด์ที่ออกแบบมาเพื่อความคงทน น้ำหอมสำเร็จรูปเป็นสูตรที่สร้างขึ้นโดยการนำส่วนประกอบเหล่านี้มาเจือจางในตัวทำละลาย ซึ่งมักจะเป็นแอลกอฮอล์ ดังนั้น ส่วนประกอบน้ำหอมแบบเข้มข้นจึงมีความติดทนยาวนานกว่าน้ำหอมสำเร็จรูปที่ทำจากส่วนประกอบเหล่านั้น เนื่องจากความติดทนของน้ำหอมสำเร็จรูปขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของส่วนประกอบน้ำหอมที่ใช้ในสูตรสุดท้าย

  2. ส่วนประกอบน้ำหอมมาจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์: ส่วนประกอบน้ำหอมสามารถมาจากทั้งธรรมชาติ (เช่น น้ำมันหอมระเหย, แอ็บโซลูท) และจากการสังเคราะห์ทางเคมี (สารอะโรมาเคมีสังเคราะห์) น้ำหอมสมัยใหม่ส่วนใหญ่ใช้ส่วนผสมทั้งจากธรรมชาติและสังเคราะห์ร่วมกัน เพื่อให้ได้กลิ่นที่ต้องการ ความติดทน และการกระจายตัวที่ดี

  3. การเปรียบเทียบการกระจายตัว (Sillage): การกระจายตัวของกลิ่น หรือ Sillage (กลิ่นที่ฟุ้งกระจายรอบตัว) ขึ้นอยู่กับความสามารถในการระเหยของสารประกอบอะโรมาติกที่ใช้ในเบลนด์น้ำหอม และความเข้มข้นโดยรวมในผลิตภัณฑ์สุดท้าย

    • ส่วนประกอบน้ำหอม: ส่วนประกอบแต่ละชนิดมีความสามารถในการระเหยต่างกัน (โน้ตยอด, โน้ตกลาง, หรือโน้ตฐาน) โน้ตยอดจะกระจายตัวได้ดีแต่ติดทนไม่นาน ส่วนโน้ตฐานจะกระจายตัวได้น้อยกว่าแต่ติดทนยาวนาน
    • น้ำหอมสำเร็จรูป: น้ำหอมสำเร็จรูปที่ได้รับการปรุงอย่างดีจะเป็นการผสมผสานส่วนประกอบเหล่านี้ เพื่อให้มีโปรไฟล์การกระจายตัวที่เฉพาะเจาะจงตลอดระยะเวลาที่ใช้งาน
    • ไม่สามารถบอกได้ว่าแบบใดมีการกระจายตัวสูงกว่าอีกแบบหนึ่งเสมอไป หากไม่ทราบส่วนประกอบและการปรุงสูตรที่เฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม การใช้ส่วนประกอบน้ำหอมที่มีการกระจายตัวสูงในความเข้มข้นที่มากขึ้น มักจะส่งผลให้มี Sillage ที่มากขึ้น
  4. ความแรงของกลิ่น Champs Elysee: คำแนะนำให้ใช้หัวน้ำหอมกลิ่น Champs Elysee (compare to Gurlain) ที่ 5-15% สำหรับน้ำหอม แสดงว่ากลิ่นนี้มีความเข้มข้นค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับหัวน้ำหอมอื่นๆ ที่อาจแนะนำให้ใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่า (เช่น 15-30% ขึ้นไปสำหรับความเข้มข้นแบบ Parfum) การแนะนำให้ใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่า แสดงว่าใช้เพียงปริมาณเล็กน้อยก็สามารถให้กลิ่นที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพได้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความแรงหรือความเข้มข้นโดยธรรมชาติของสารประกอบอะโรมาติกในหัวน้ำหอมกลิ่นนี้

  5. ส่วนผสมหลักสำหรับกลิ่นแนว Aquatic: กลิ่นแนว Aquatic มีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์กลิ่นที่ชวนให้นึกถึงทะเล ฝน หรือน้ำจืด มักจะใช้โมเลกุลสังเคราะห์ที่ให้กลิ่นสดชื่น โปร่งสบาย คล้ายทะเล หรือโอโซน สารประกอบหรือส่วนผสมบางชนิดที่นิยมใช้ ได้แก่:

    • สารประกอบอย่าง Calone (ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายทะเล โอโซน และแตงโมเล็กน้อย)
    • อัลดีไฮด์บางชนิดและกลิ่นสังเคราะห์ที่ให้เอฟเฟกต์คล้ายน้ำหรือความสดชื่น
    • บางครั้งผสมผสานกับกลิ่นเขียวๆ กลิ่นดอกไม้บางเบา หรือกลิ่นไม้ เพื่อสร้างภาพรวมของกลิ่น "Aquatic" ที่สมบูรณ์ เช่น กลิ่นที่พบในผลิตภัณฑ์อย่าง Wet Forest, Beach Garden, หรือ Ambergris (Fragrance Oil)
  6. ส่วนผสมกลิ่น Pink Pepper: จากการค้นหาของเรา เราไม่พบผลิตภัณฑ์ที่ระบุชื่อว่า "Pink Pepper" โดยตรง

  7. เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมสำหรับความเข้มข้นแบบ Parfum: หากต้องการสร้างน้ำหอมที่ติดทนและมีการกระจายตัวดีคล้ายกับ Parfum โดยใช้ส่วนประกอบน้ำหอม คุณควรตั้งเป้าหมายความเข้มข้นของหัวน้ำหอมโดยรวมไว้ที่ 15-40% ในตัวทำละลาย (โดยทั่วไปคือ Perfumer's Alcohol) เปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนในช่วงนี้ขึ้นอยู่กับความแรงของส่วนประกอบน้ำหอมที่คุณเลือกและความเข้มข้นที่คุณต้องการ เพื่อให้มั่นใจได้ทั้งความติดทนและการกระจายตัว คุณควรเลือกส่วนประกอบที่ผสมผสานกัน โดยมีสัดส่วนของโน้ตฐานที่เพียงพอ (เพื่อความติดทน) ควบคู่ไปกับโน้ตกลางและโน้ตยอด (เพื่อการกระจายตัวและความประทับใจแรก)

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Beach Garden
Beach Garden
เครื่องสำอาง
Floral Background
Floral Background
เครื่องสำอาง
Wet Forest
Wet Forest
เครื่องสำอาง
Ambergris (Fragrance Oil)
Ambergris (Fragrance Oil)
เครื่องสำอาง
Champs Elysee (compare to Gurlain)
Champs Elysee (compare to Gurlain)
เครื่องสำอาง
Poeme (compare to Lancome)
Poeme (compare to Lancome)
เครื่องสำอาง