อายุการเก็บรักษาและความเสถียรของสูตรเครื่องสำอางที่มีน้ำมันธรรมชาติ

การกำหนดอายุการเก็บรักษาที่แน่นอนของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำเป็นต้องอาศัยการทดสอบความเสถียร (การทดสอบเร่งสภาวะ) อย่างไรก็ตาม จากสูตรที่คุณให้มา มีข้อควรพิจารณาดังนี้ค่ะ:

1. ปัจจัยจำกัดอายุ: ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ อายุการเก็บรักษาจะถูกกำหนดโดยส่วนผสมที่เสื่อมสภาพเร็วที่สุด ในสูตรของคุณ น้ำมันธรรมชาติและบัตเตอร์ (น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, น้ำมันรำข้าว, บัตเตอร์) มีแนวโน้มที่จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (เหม็นหืน) ได้ง่ายที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยจำกัดอายุการเก็บรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีสารกันหืนที่เพียงพอ
2. น้ำมันสกัดเย็น: น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นและน้ำมันรำข้าวมีความเสถียรน้อยกว่าน้ำมันที่ผ่านการกลั่นหรือ Fractionated และมีแนวโน้มที่จะเกิดออกซิเดชันได้ง่ายกว่า
3. สารกันหืน (Antioxidants): คุณระบุว่า "ไม่มีสารกันหืน" แต่มี Vitamin E ซึ่งเป็นสารกันหืน Vitamin E สามารถช่วยชะลอการเกิดออกซิเดชันได้ แต่ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและสูตรโดยรวม หากไม่มีสารกันหืนเลย (รวมถึง Vitamin E) น้ำมันจะเหม็นหืนเร็วมาก ทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นกว่า 1 ปีมาก หากมี Vitamin E อยู่ ก็จะช่วยป้องกันได้บ้าง แต่อาจไม่เพียงพอที่จะรับประกันอายุ 1 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับน้ำมันสกัดเย็น
4. สารกันเสีย (Preservative): Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่ป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์) แต่ ไม่ ป้องกันการเกิดออกซิเดชันหรือการเหม็นหืน
5. การประมาณ 1 ปี: อายุการเก็บรักษา 1 ปี อาจจะ เป็นไปได้ภายใต้สภาวะการเก็บรักษาที่เหมาะสมที่สุด (ที่เย็นและมืด) และมีสารกันหืนช่วยป้องกันอยู่บ้าง (เช่น Vitamin E) แต่ไม่สามารถรับประกันได้หากไม่ได้ทำการทดสอบความเสถียรอย่างเหมาะสม เป็นไปได้ที่น้ำมันอาจจะเหม็นหืนเร็วกว่านั้น
6. คำแนะนำ: เพื่อกำหนดอายุการเก็บรักษาที่ถูกต้องและมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการทดสอบความเสถียร (Stability Testing) และหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ เช่น กลิ่น (การเหม็นหืน) สี และเนื้อสัมผัสเมื่อเวลาผ่านไป.