เคล็ดลับการทำเทียนหอมให้กลิ่นฟุ้ง

เพื่อให้เทียนหอมของคุณมีกลิ่นที่ฟุ้งกระจายได้ดี (Fragrance Throw) มีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่คุณควรพิจารณาและปรับใช้ค่ะ:

• ชนิดของแวกซ์: แวกซ์แต่ละชนิดมีความสามารถในการอุ้มและปล่อยกลิ่นไม่เหมือนกัน แวกซ์พาราฟินมักให้กลิ่นฟุ้งขณะจุดได้ดี (Hot Throw) ส่วนแวกซ์ถั่วเหลืองมักให้กลิ่นขณะยังไม่จุดได้ดี (Cold Throw) การผสมแวกซ์อาจช่วยให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ เลือกใช้แวกซ์ที่เหมาะกับการทำเทียนโดยเฉพาะ
• คุณภาพและชนิดของน้ำหอม: ใช้น้ำหอมคุณภาพสูงที่ผลิตมาเพื่อใช้กับเทียนหอมโดยเฉพาะ (Candle-grade) น้ำหอมบางชนิดไม่ทนความร้อนสูง น้ำหอมบางกลิ่นก็กระจายตัวได้ดีกว่าโดยธรรมชาติ
• ปริมาณน้ำหอมที่ใช้: การใส่น้ำหอมมากเกินไปไม่ได้ทำให้กลิ่นฟุ้งขึ้นเสมอไปค่ะ แวกซ์แต่ละชนิดมีขีดจำกัดในการอุ้มน้ำหอม ปริมาณที่แนะนำทั่วไปคือ 6-10% โดยน้ำหนักของแวกซ์ ควรทดลองและทำตามคำแนะนำของผู้จำหน่าย
• อุณหภูมิในการใส่น้ำหอม: การใส่น้ำหอมในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้น้ำหอมรวมตัวกับแวกซ์ได้ดี โดยทั่วไปคือรอให้แวกซ์เย็นลงเล็กน้อยหลังละลายหมด (ประมาณ 80-85°C หรือตามคำแนะนำ) ใส่น้ำหอมแล้วคนเบาๆ ให้เข้ากัน 1-2 นาที
• ระยะเวลาในการบ่มเทียน: สำคัญมาก! หลังจากเทเทียนแล้ว ควรบ่มไว้อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ (แวกซ์ถั่วเหลืองอาจนานกว่า) การบ่มช่วยให้น้ำหอมรวมตัวกับแวกซ์อย่างสมบูรณ์ ทำให้กลิ่นฟุ้งได้ดีขึ้นเมื่อจุด
• ขนาดและชนิดของไส้เทียน: ไส้เทียนที่เหมาะสมจะช่วยให้หน้าเทียนละลายทั่วถึง (Full Melt Pool) ซึ่งเป็นบริเวณที่ปล่อยกลิ่นออกมา เลือกไส้เทียนให้เหมาะกับขนาดภาชนะและชนิดแวกซ์ และทดสอบการเผาไหม้

การทดลองปรับปัจจัยเหล่านี้ให้เข้ากับวัสดุที่คุณใช้คือกุญแจสำคัญค่ะ การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี โดยเฉพาะน้ำหอมสำหรับทำเทียนโดยเฉพาะ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ

ตัวอย่างน้ำหอมที่คุณอาจพิจารณาใช้ในการทำเทียนได้แก่ Strawberry (Fragrance Oil), Jasmine Fragrance Oil, และ Neroli Fragrance Oil

การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เทียนหอมทำมือของคุณมีกลิ่นที่ฟุ้งกระจายได้ดียิ่งขึ้นค่ะ