เนื้อสัมผัสและความคงตัวของสูตรเครื่องสำอางที่มีสารออกฤทธิ์สูง
คำถาม
ต้องการทราบวิธีปรับปรุงความเหนียวเหนอะหนะและความคงตัวของสูตรเครื่องสำอางที่มีสารให้ความชุ่มชื้นและสารออกฤทธิ์ความเข้มข้นสูง หลังจากที่สูตรเดิมที่ใช้ระบบอิมัลซิไฟเออร์คล้ายกันเคยมีปัญหาการแยกชั้น ควรปรับแก้อย่างไรเพื่อให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นและสูตรมีความคงตัว?
คำตอบ
จากการวิเคราะห์สูตรที่คุณให้มาและคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆ นี่คือข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อสัมผัสและความคงตัวของสูตรค่ะ
การวิเคราะห์สูตร: เนื้อสัมผัสและความคงตัว
สูตรของคุณเป็นสูตรที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ (active ingredients) และสารให้ความชุ่มชื้น (humectants) ในปริมาณสูง โดยใช้ Moist Cream Maker, Xanthan Gum (ชนิดเนื้อเนียนไม่ยืด) และ Sodium Stearoyl Glutamate เป็นระบบอิมัลซิไฟเออร์และสารช่วยเพิ่มความคงตัว
เนื้อสัมผัส (ความเหนียวเหนอะหนะ)
สูตรของคุณมีส่วนผสมหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในปริมาณสูง ส่วนผสมเหล่านี้ได้แก่:
- Glycerin (3%)
- Propanediol (5%)
- Natural Moisturizing Amino Acids (5%)
- TransMoist™ (2%)
- 1,2-Hexanediol (3%)
ปริมาณรวมของสารให้ความชุ่มชื้นเหล่านี้ค่อนข้างสูง (รวม 18%) แม้ว่าจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ดี แต่ปริมาณระดับนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้รู้สึกเหนียวหรือหนึบผิวหลังทาได้
นอกจากนี้ ปริมาณส่วนผสมออกฤทธิ์ต่างๆ ที่ละลายอยู่ในเฟสน้ำในปริมาณสูง ก็สามารถเพิ่มความเหนอะหนะโดยรวมของเนื้อเซรั่มได้เช่นกัน ส่วน Xanthan Gum แม้จะเป็นชนิด "เนื้อเนียนไม่ยืด" ก็ยังอาจมีส่วนทำให้รู้สึกเหนียวหรือหนืดเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบโดยรวมของสูตร
- วิธีปรับแก้ความเหนียวเหนอะหนะ:*
- พิจารณาลดปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นบางชนิดลงเล็กน้อย เช่น Glycerin, Propanediol หรือ Natural Moisturizing Amino Acids
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ LipidSoft™ Dry II (Dicaprylyl Carbonate) ในปริมาณ 8% ตามที่ระบุ เนื่องจากสารให้ความนุ่มลื่น (emollient) ชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกแห้ง ไม่เหนอะหนะ ซึ่งจะช่วยต้านความเหนียวเหนอะหนะจากสารให้ความชุ่มชื้นและสารเพิ่มความข้นได้ คุณอาจลองเพิ่มปริมาณเล็กน้อยหรือพิจารณาเพิ่มสารให้ความนุ่มลื่นชนิดอื่นที่ให้ความรู้สึกแห้ง หากเข้ากันได้กับสูตร
ความคงตัว
คุณกล่าวว่าสูตรเดิมที่ใช้ Moist Cream Maker 3% + Xanthan Gum (ชนิดธรรมดา) 0.5% มีปัญหาเนื้อเหลวขึ้นเหมือนแยกชั้น หลังจากใช้ไปสักพัก ในสูตรปัจจุบัน คุณได้เปลี่ยนชนิดของ Xanthan Gum เป็นชนิด "เนื้อเนียนไม่ยืด" และเพิ่ม Sodium Stearoyl Glutamate 0.25%
- การอิมัลซิไฟเออร์/เพิ่มความคงตัวที่ดีขึ้น: การเพิ่ม Sodium Stearoyl Glutamate เป็นกลยุทธ์ที่ดีในการปรับปรุงความคงตัว Sodium Stearoyl Glutamate เป็นโค-อิมัลซิไฟเออร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำงานได้ดีกับแฟตตี้แอลกอฮอล์ (เช่นใน Moist Cream Maker) และมักใช้เพื่อช่วยเพิ่มความคงตัวให้กับสูตรที่ทำได้ยาก โดยเฉพาะสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์ (ซึ่งสูตรของคุณมีอยู่หลายชนิดในรูปของเกลือของส่วนผสมออกฤทธิ์ต่างๆ) คำอธิบายของ Moist Cream Maker ก็แนะนำให้ใช้ Xanthan Gum ร่วมด้วยเพื่อเพิ่มความคงตัวในสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์
- ชนิดของ Xanthan Gum: การใช้ Xanthan Gum ชนิด "เนื้อเนียนไม่ยืด" อาจช่วยให้เข้ากันได้ดีขึ้นหรือให้ความหนืดที่คงที่กว่า Xanthan Gum ชนิดธรรมดา ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งของปัญหาการแยกชั้นในครั้งก่อน
- ปริมาณส่วนผสมออกฤทธิ์สูง: แม้ว่าระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่ปรับปรุงใหม่จะแข็งแรงขึ้น แต่สูตรของคุณมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลายและมีความเข้มข้นสูงมาก (มากกว่า 30% ไม่รวมส่วนประกอบพื้นฐาน เช่น น้ำ อิมัลซิไฟเออร์ สารให้ความนุ่มลื่น สารให้ความชุ่มชื้น และสารกันเสีย) ความเข้มข้นสูงของส่วนผสมออกฤทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นเกลือหรือมีผลต่อค่า pH สามารถท้าทายความคงตัวของอิมัลชันในระยะยาวได้
สูตรปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีความคงตัวดีกว่าสูตรเดิมเนื่องจากการเพิ่ม Sodium Stearoyl Glutamate และอาจเป็นเพราะชนิดของ Xanthan Gum ที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะสูตรที่ซับซ้อนและมีส่วนผสมออกฤทธิ์ปริมาณมาก การทดสอบความคงตัวอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- วิธีปรับปรุงความคงตัว:*
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระบวนการผลิตมีการให้ความร้อนเฟสน้ำมัน (ที่มี Moist Cream Maker, Sodium Stearoyl Glutamate, Sea Buckthorn Oil, LipidSoft™ Dry II, MSH White™ และ Phospholipid) และเฟสน้ำแยกกันจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 80-90°C สำหรับ Moist Cream Maker และ Sodium Stearoyl Glutamate) จากนั้นค่อยๆ เติมเฟสน้ำมันลงในเฟสน้ำพร้อมกับปั่นด้วยความเร็วสูงเพื่อให้เกิดอิมัลชันที่สมบูรณ์ ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Xanthan Gum, สารให้ความชุ่มชื้น และส่วนผสมออกฤทธิ์ ควรเติมในเฟสน้ำตามขั้นตอนที่เหมาะสม (Xanthan Gum ควรกระจายตัวก่อนแล้วจึงละลายในเฟสน้ำ ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนควรเติมในระหว่างการเย็นตัว)
- ตรวจสอบและรักษาค่า pH ที่เหมาะสมของสูตร ส่วนผสมออกฤทธิ์และอิมัลซิไฟเออร์หลายชนิดทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH ที่กำหนด (เช่น Moist Cream Maker และ Xanthan Gum ค่อนข้างยืดหยุ่น แต่ส่วนผสมออกฤทธิ์อย่าง Tranexamic Acid และ Safe-B3™ ชอบ pH ระหว่าง 3-8 โดยเฉพาะ 4-7) การเปลี่ยนแปลงค่า pH อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเวลาผ่านไปอาจส่งผลต่อความคงตัวได้
- ทำการทดสอบความคงตัวอย่างเข้มงวด รวมถึงการทดสอบแบบเร่งสภาวะ เช่น การบ่มในตู้อบ (เช่น 45°C) และการทดสอบวัฏจักรอุณหภูมิ (freeze-thaw cycles) เพื่อประเมินความคงตัวในระยะยาวของสูตรก่อนการผลิตจำนวนมาก.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Glycerin (USP/Food Grade)

Natural Moisturizing Amino Acids (e.q. Prodew 400)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)

1,2-Hexanediol (Super-Purified, Odorless)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Tranexamic Acid (Trans-White™)

4MSK (Potassium Methoxysalicylate)

Sea Buckthorn (Fruit) Oil (Virgin, CO2 Extraction)

Propanediol (1,3-Propanediol) (e.q. Zemea)

LipidSoft™ Dry II (Dicaprylyl Carbonate)

Sodium Stearoyl Glutamate (e.q. Eumulgin SG)

Skin-Barrier™ (Skin Mimic Ceramides Liposome)

TransMoist™ (PPG-24-Glycereth-24)

Moist Cream Maker™ (e.q. Emulgade PL 68/50)

Hydrogenated Lecithin (50% Phosphatidylcholine)
