เปรียบเทียบน้ำมันเมล็ดองุ่นเกรด Refined กับสกัดเย็น (Virgin) สำหรับผิว
คำถาม
ขอข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างน้ำมันเมล็ดองุ่นเกรด Refined และเกรดสกัดเย็น (Virgin) โดยเน้นย้ำคุณค่าของเกรดสกัดเย็นสำหรับผิวได้หรือไม่คะ? เข้าใจว่าน้ำมันเมล็ดองุ่นแบบ refined จะซึมง่าย ไม่มีกลิ่น แต่คุณค่าทางการบำรุงผิวนั้นน้อยกว่า Grape seed Extra Virgin Oil - UK Soil Association's Certified Organic เพราะน้ำมันสกัดเย็นจากเมล็ดองุ่นตัวนี้ได้จากไร่องุ่นที่ปลูกและดูแลด้วยวิธีตามธรรมชาติ และยังผ่านการรับรอง Certified Organic จาก Soil Association Certification Limited ของประเทศอังกฤษในการรับรองคุณภาพการปลูกและดูแลว่ามาจากธรรมชาติ 100% และไม่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการเพาะปลูกและผลิต น้ำมันจากเมล็ดองุ่นนี้สกัดด้วยวิธีการบีบเย็นเมล็ดองุ่นที่เหลือจากการกระบวนการผลิตไวน์ด้วยเครื่องไฮดรอลิค ปราศจากความร้อนที่จะทำลายคุณสมบัติของสารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในวัตถุดิบ ทำให้ได้น้ำมันที่มีสีเขียวเข้มและกลิ่นหอมอบอวลของไวน์องุ่นที่มีคุณค่าของสารอาหารสำคัญอย่างครบถ้วน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวลดเลือนริ้วรอยและช่วยให้ผิวพรรณสดชื่นอยู่เสมอ น้ำมันเมล็ดองุ่นแบบสกัดเย็นเป็นน้ำมันที่แทบไม่มีขายทั่วไปเนื่องจากส่วนมากจะเป็นแบบสกัดร้อนเท่านั้น ซึ่งทั้งเกรด Virgin และ Refined Grade มีข้อแตกต่างกันอย่างมาก น้ำมันเกรดสกัดเย็น หรือ Grape seed Virgin Oil จะมีสีเขียวเข้มและมีกลิ่นหอมอบอวลของไวน์องุ่นอย่างดี ส่วนน้ำมันเกรดสกัดร้อนหรือ Grape seed Refined Oil ที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด จะเป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดขั้นที่สองของเมล็ดองุ่นหลังจากน้ำมันสกัดเย็นถูกบีบออกไปหมดแล้ว มีสีเหลืองหรือเขียวอ่อน ๆ ทำให้แบบ Refined Grade มีคุณค่าสารอาหารและการบำรุงน้อยกว่าแบบ Virgin Grade แต่ว่าจะมีเนื้อน้ำมันที่ใสบางเบา ซึมลงผิวรวดเร็ว ไม่มีกลิ่น และมีราคาถูกกว่ามาก จึงได้รับความนิยมในการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ทั่วไปมากกว่า ในขณะที่น้ำมันเมล็ดองุ่น Virgin Grade มักจะถูกนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ หรือใช้ในงานเฉพาะทางที่ต้องการคุณสมบัติมากกว่า ถึงแม้ราคาสูงกว่า refined grade แต่คุณค่าการบำรุงจะเยอะกว่าและมีกลิ่นหอมไวน์ด้วยนะคะ อยากให้ทางแบรนด์พิจารณาดูค่ะ
คำตอบ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเกรดของน้ำมันเมล็ดองุ่น
ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลอันมีค่าที่คุณแบ่งปันเกี่ยวกับความแตกต่างของเกรดน้ำมันเมล็ดองุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความแตกต่างระหว่างแบบ Refined และแบบสกัดเย็น (Virgin Grade)
ดังที่คุณได้กล่าวไว้อย่างถูกต้อง น้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นยังคงคุณค่าสารอาหารตามธรรมชาติและสารประกอบที่เป็นประโยชน์ไว้ได้มากกว่าน้ำมันแบบ Refined เนื่องจากวิธีการสกัดเย็นหลีกเลี่ยงความร้อนสูง จึงช่วยรักษาสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Polyphenols ซึ่งดีต่อสุขภาพผิวอย่างยิ่ง
ประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นสำหรับผิว:
- คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
- บำรุงและให้ความชุ่มชื้น: ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม
- ฟื้นฟูผิว: สนับสนุนการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้น
- ลดปัญหาสิว: สามารถช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและเป็นประโยชน์สำหรับผิวมัน
ในขณะที่น้ำมันเมล็ดองุ่นแบบ Refined เป็นที่นิยมเนื่องจากมีเนื้อบางเบา ไม่มีกลิ่น และราคาถูกกว่า แต่น้ำมันแบบสกัดเย็นให้ประโยชน์ในการดูแลผิวที่เหนือกว่าเนื่องจากมีองค์ประกอบที่เข้มข้นกว่า
ที่ MySkinRecipes เราเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้ส่วนผสมคุณภาพสูง เรามีตัวเลือกน้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นสำหรับผู้ที่ต้องการประโยชน์สูงสุดในการปรุงสูตรของคุณ น้ำมันเมล็ดองุ่นสกัดเย็นที่เรามี ได้แก่:
- Grape Seed Oil (Cold-Pressed, Green)
- NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
ตัวเลือกเหล่านี้มีคุณสมบัติอันทรงคุณค่าที่คุณได้เน้นย้ำ ทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบำรุงและฟื้นฟูผิวค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
