เปรียบเทียบประสิทธิภาพเจลล้างหน้าทำเอง

ถามโดย: llerickll เมื่อ: December 06, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนทาง staff ช่วยเปรียบเทียบประสิทธิภาพเจลล้างหน้า 2 สูตรนี้ทีครับ ในแง่ของ:

สูตร 1

  • Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming) 25.00%
  • Mild Preserved Eco 1.00%
  • Water 74.00%

สูตร 2

  • Lauryl Glucoside 25.00%
  • Cocamidopropyl Betaine 5.00%
  • Lactic Acid 1.00%
  • Mild Preserved Eco 1.00%
  • Water 68.00%

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเหล่านี้:

  1. ประสิทธิภาพการทำความสะอาดผิวหน้า
  2. ความอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย
  3. ฟองที่เกิดขึ้น
  4. ถ้าทาครีมกันแดดอย่างเดียว ไม่ได้แต่งหน้า เช่น Anessa สีทอง เจลล้างหน้าแค่นี้ (ทั้ง 2 สูตร) เอาออกได้หมดมั้ยครับ หรือต้องใช้ Cleansing water ก่อนอยู่ดี

คำตอบ

เปรียบเทียบประสิทธิภาพเจลล้างหน้า

จากการส่วนผสมที่ให้มา นี่คือการเปรียบเทียบเจลล้างหน้าทั้งสองสูตร:

1. ประสิทธิภาพการทำความสะอาดผิวหน้า

  • สูตร 1: ใช้ Sulfate Free Shampoo Base ซึ่งเป็นเบสสำเร็จรูปสำหรับทำความสะอาด มีสารลดแรงตึงผิวชนิดอ่อนโยน เหมาะสำหรับการทำความสะอาดสิ่งสกปรก น้ำมัน และสิ่งเจือปนในชีวิตประจำวัน
  • สูตร 2: ผสมระหว่าง Lauryl Glucoside (สารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุที่อ่อนโยน) และ Cocamidopropyl Betaine (สารลดแรงตึงผิวชนิดแอมโฟเทอริกที่อ่อนโยน) Cocamidopropyl Betaine ช่วยจับกับน้ำมันและสิ่งสกปรก ในขณะที่ Lauryl Glucoside ช่วยเสริมการทำความสะอาด การผสมผสานนี้ให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดีสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน

ทั้งสองสูตรใช้ระบบสารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับการทำความสะอาดผิวหน้า ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดพื้นฐานควรใกล้เคียงกัน

2. ความอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย

  • สูตร 1: Sulfate Free Shampoo Base ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าอ่อนโยนและไม่ระคายเคือง ปราศจากซัลเฟตซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ค่า pH ของเบสอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (6.5-7.5)
  • สูตร 2: Lauryl Glucoside ถูกอธิบายว่า "อ่อนโยนสูง" และเหมาะสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย Cocamidopropyl Betaine ก็ถูกอธิบายว่าอ่อนโยนเช่นกัน การเติม Lactic Acid ในสูตร 2 ช่วยปรับค่า pH ของสูตร ซึ่งน่าจะช่วยลดค่า pH ของ Lauryl Glucoside ที่มีค่า pH สูงตามธรรมชาติ ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิวมากขึ้น (โดยทั่วไปคือ 5-6.5)

ทั้งสองสูตรถูกออกแบบมาให้มีความอ่อนโยนและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เนื่องจากเลือกใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดอ่อนโยน และมีการปรับค่า pH ในสูตร 2

3. ฟองที่เกิดขึ้น

  • สูตร 1: Sulfate Free Shampoo Base ถูกอธิบายว่าให้ "ฟองสูง หนา และคงตัว" คุณสามารถคาดหวังปริมาณฟองที่ดีและคงตัวจากสูตรนี้ได้
  • สูตร 2: Lauryl Glucoside เพียงอย่างเดียวไม่ให้ฟองมากนัก อย่างไรก็ตาม มีการเติม Cocamidopropyl Betaine เพื่อช่วยสร้างฟองโดยเฉพาะ ซึ่งจะให้ "ฟองที่เนียนละเอียด" สูตรนี้จะให้ฟอง แต่ปริมาณอาจไม่มากเท่าและอาจคงตัวน้อยกว่าสูตร 1 แต่คุณภาพของฟอง (เนียนละเอียด) อาจเป็นที่ชื่นชอบของบางคน

4. การล้างครีมกันแดด (Anessa สีทอง)

เจลล้างหน้าชนิดอ่อนโยนทั้งสองสูตรนี้ไม่น่าจะสามารถล้างครีมกันแดดที่ติดทนและกันน้ำสูงอย่าง Anessa สีทอง ออกได้หมดในขั้นตอนเดียว Anessa สีทองมักมีส่วนผสมของสารกันแดดที่ละลายในน้ำมันและสารที่ช่วยสร้างฟิล์มเคลือบผิว ซึ่งจะล้างออกได้ดีที่สุดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือคลีนซิ่งวอเตอร์/บาล์มโดยเฉพาะ

การใช้เจลล้างหน้าทั้งสองสูตรนี้หลังจากทา Anessa สีทอง อาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขั้นตอนแรก เช่น คลีนซิ่งออยล์ บาล์ม หรือคลีนซิ่งวอเตอร์ (การล้างหน้าสองขั้นตอน) เพื่อให้แน่ใจว่าคราบครีมกันแดดถูกกำจัดออกหมด การใช้เพียงเจลล้างหน้าอย่างเดียวอาจทิ้งคราบตกค้างไว้บนผิว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสิวอุดตัน หรือลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้

สรุปแล้ว ทั้งสองสูตรให้การทำความสะอาดที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและผิวแพ้ง่าย โดยสูตร 1 น่าจะให้ฟองมากกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับการล้างครีมกันแดดที่ติดทนอย่าง Anessa สีทอง แนะนำให้ใช้วิธีการล้างหน้าสองขั้นตอน โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมันก่อนใช้เจลล้างหน้าทั้งสองสูตรนี้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Cocamidopropyl Betaine
Cocamidopropyl Betaine
เครื่องสำอาง
Lauryl Glucoside
Lauryl Glucoside
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)
Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)
เครื่องสำอาง