เปรียบเทียบอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinal, Retinyl Acetate, Retinyl Palmitate) และ RETINAT ด้านลดริ้วรอยและการระคายเคือง
คำถาม
ต้องการเปรียบเทียบวิตามินเอ 3 ชนิดที่ใช้ในเครื่องสำอาง คือ Retinal, Retinyl Acetate, และ Retinyl Palmitate ขอข้อมูลในประเด็นต่อไปนี้ของแต่ละชนิด และเปรียบเทียบกับ RETINAT (สารสกัดจากปลาดาว) ด้วยครับ:
- ข้อจำกัดในการใช้ (เช้า/เย็น/แสงแดด)
- ผลด้านการระคายเคืองผิว
- ความยากง่ายในการผสม
- ประสิทธิภาพด้านการลดริ้วรอย
- ผลพลอยได้ด้านอื่นๆ
- สารที่ไม่ควรใช้ร่วมด้วย
- สารที่ควรใช้ร่วมแล้วเพิ่มประสิทธิภาพ
คำตอบ
การเปรียบเทียบวิตามินเอทั้งสามแบบ
จากข้อมูลที่ได้รับ วิตามินเอสามชนิดที่ใช้ในเครื่องสำอางได้แก่ Retinal (Retinaldehyde), Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate นี่คือการเปรียบเทียบตามหัวข้อที่คุณสอบถาม:
- ข้อจำกัดในการใช้เช้าเย็น/แสงแดด: วิตามินเอทุกชนิดไม่เหมาะกับการใช้เมื่อต้องออกแดดโดยตรง สามารถใช้ภายใต้แสงสว่างภายในอาคารได้ตามปกติ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องเผชิญแสงแดด เช่น ในตอนกลางคืน
- ผลด้านการระคายเคือง: วิตามินเอทุกชนิดสามารถระคายเคืองผิวได้ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น จากการจัดลำดับที่ให้มา Retinal (Retinaldehyde) มีการระคายเคืองมากกว่า Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate ซึ่ง Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate เป็นกลุ่มที่มีการระคายเคืองน้อยที่สุดในกลุ่มที่ใช้ในเครื่องสำอาง
- ความยากง่ายในการผสม: ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความยากง่ายในการผสมของแต่ละชนิดในข้อความที่ให้มา
- ประสิทธิภาพด้านริ้วรอย: วิตามินเอทุกชนิดได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่าช่วยลดริ้วรอยได้ จากการจัดลำดับที่ให้มา Retinal (Retinaldehyde) มีประสิทธิภาพสูงกว่า Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate ซึ่ง Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate เป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดในกลุ่มที่ใช้ในเครื่องสำอาง
- ผลพลอยได้ด้านอื่นๆ: วิตามินเอช่วยให้ผิวหนาขึ้น (แม้ในช่วงแรกอาจทำให้ผิวบางลง), ช่วยให้ผิวขาว (แม้ในช่วงแรกอาจทำให้ผิวแดงและคล้ำขึ้นได้), ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน (แม้ในช่วงแรกประมาณ 1 เดือนแรกอาจพบสิวที่มากขึ้น) ผลเหล่านี้เป็นผลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มวิตามินเอ
- สารที่ไม่ควรใช้ร่วมด้วย: ไม่มีการกล่าวถึงสารเฉพาะที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน ข้อควรระวังหลักคือความเสถียรของวิตามินเอ ซึ่งไวต่อความร้อน แสง และอากาศ ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินเอควรเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันแสงและอากาศได้ดี
- สารที่ควรใช้ร่วมแล้วเพิ่มประสิทธิภาพ: ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินเอชนิดเหล่านี้ในข้อความที่ให้มา
- ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม:
- Retinoic Acid เป็นรูปแบบที่แรงกว่า แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในยาเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องสำอางในประเทศไทย
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์วิตามินเอในสตรีมีครรภ์เพื่อความปลอดภัย
- แนะนำให้เริ่มต้นใช้จากความเข้มข้นต่ำและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การระคายเคือง ผิวบางลง รอยแดง ผิวคล้ำขึ้น หรือสิวที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงแรก
สรุปการจัดลำดับ (การระคายเคืองและประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มที่ใช้ในเครื่องสำอาง):
- Retinal (Retinaldehyde): ระคายเคืองสูงกว่า, ประสิทธิภาพสูงกว่า
- Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate: ระคายเคืองน้อยกว่า, ประสิทธิภาพน้อยกว่า
ข้อมูลเกี่ยวกับ RETINAT (สารสกัดจากปลาดาว)
RETINAT เป็นสารสกัดจากปลาดาว ไม่ใช่วิตามินเอ จากข้อมูลที่ได้รับ RETINAT มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวเหมือนกลุ่มวิตามินเอ ผู้ผลิตอ้างว่าที่ความเข้มข้น 1.6% มีประสิทธิภาพสูงกว่า Retinol ในด้านริ้วรอย แต่การอ้างสิทธิ์นี้มาจากการทดลองของผู้ผลิตเอง และยังไม่มีการเปรียบเทียบที่เป็นอิสระซึ่งครอบคลุมผลด้านอื่นๆ ของ Retinol
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)

Retinal (Retinaldehyde)
