เปรียบเทียบอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinal, Retinyl Acetate, Retinyl Palmitate) และ RETINAT ด้านลดริ้วรอยและการระคายเคือง

ถามโดย: jn_andy เมื่อ: November 06, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการเปรียบเทียบวิตามินเอ 3 ชนิดที่ใช้ในเครื่องสำอาง คือ Retinal, Retinyl Acetate, และ Retinyl Palmitate ขอข้อมูลในประเด็นต่อไปนี้ของแต่ละชนิด และเปรียบเทียบกับ RETINAT (สารสกัดจากปลาดาว) ด้วยครับ:

  • ข้อจำกัดในการใช้ (เช้า/เย็น/แสงแดด)
  • ผลด้านการระคายเคืองผิว
  • ความยากง่ายในการผสม
  • ประสิทธิภาพด้านการลดริ้วรอย
  • ผลพลอยได้ด้านอื่นๆ
  • สารที่ไม่ควรใช้ร่วมด้วย
  • สารที่ควรใช้ร่วมแล้วเพิ่มประสิทธิภาพ

คำตอบ

การเปรียบเทียบวิตามินเอทั้งสามแบบ

จากข้อมูลที่ได้รับ วิตามินเอสามชนิดที่ใช้ในเครื่องสำอางได้แก่ Retinal (Retinaldehyde), Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate นี่คือการเปรียบเทียบตามหัวข้อที่คุณสอบถาม:

  • ข้อจำกัดในการใช้เช้าเย็น/แสงแดด: วิตามินเอทุกชนิดไม่เหมาะกับการใช้เมื่อต้องออกแดดโดยตรง สามารถใช้ภายใต้แสงสว่างภายในอาคารได้ตามปกติ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องเผชิญแสงแดด เช่น ในตอนกลางคืน
  • ผลด้านการระคายเคือง: วิตามินเอทุกชนิดสามารถระคายเคืองผิวได้ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้น จากการจัดลำดับที่ให้มา Retinal (Retinaldehyde) มีการระคายเคืองมากกว่า Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate ซึ่ง Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate เป็นกลุ่มที่มีการระคายเคืองน้อยที่สุดในกลุ่มที่ใช้ในเครื่องสำอาง
  • ความยากง่ายในการผสม: ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความยากง่ายในการผสมของแต่ละชนิดในข้อความที่ให้มา
  • ประสิทธิภาพด้านริ้วรอย: วิตามินเอทุกชนิดได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่าช่วยลดริ้วรอยได้ จากการจัดลำดับที่ให้มา Retinal (Retinaldehyde) มีประสิทธิภาพสูงกว่า Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate ซึ่ง Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate เป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดในกลุ่มที่ใช้ในเครื่องสำอาง
  • ผลพลอยได้ด้านอื่นๆ: วิตามินเอช่วยให้ผิวหนาขึ้น (แม้ในช่วงแรกอาจทำให้ผิวบางลง), ช่วยให้ผิวขาว (แม้ในช่วงแรกอาจทำให้ผิวแดงและคล้ำขึ้นได้), ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน (แม้ในช่วงแรกประมาณ 1 เดือนแรกอาจพบสิวที่มากขึ้น) ผลเหล่านี้เป็นผลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มวิตามินเอ
  • สารที่ไม่ควรใช้ร่วมด้วย: ไม่มีการกล่าวถึงสารเฉพาะที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน ข้อควรระวังหลักคือความเสถียรของวิตามินเอ ซึ่งไวต่อความร้อน แสง และอากาศ ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินเอควรเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันแสงและอากาศได้ดี
  • สารที่ควรใช้ร่วมแล้วเพิ่มประสิทธิภาพ: ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินเอชนิดเหล่านี้ในข้อความที่ให้มา
  • ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม:
    • Retinoic Acid เป็นรูปแบบที่แรงกว่า แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในยาเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องสำอางในประเทศไทย
    • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์วิตามินเอในสตรีมีครรภ์เพื่อความปลอดภัย
    • แนะนำให้เริ่มต้นใช้จากความเข้มข้นต่ำและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การระคายเคือง ผิวบางลง รอยแดง ผิวคล้ำขึ้น หรือสิวที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงแรก

สรุปการจัดลำดับ (การระคายเคืองและประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มที่ใช้ในเครื่องสำอาง):

  1. Retinal (Retinaldehyde): ระคายเคืองสูงกว่า, ประสิทธิภาพสูงกว่า
  2. Retinyl Acetate และ Retinyl Palmitate: ระคายเคืองน้อยกว่า, ประสิทธิภาพน้อยกว่า

ข้อมูลเกี่ยวกับ RETINAT (สารสกัดจากปลาดาว)

RETINAT เป็นสารสกัดจากปลาดาว ไม่ใช่วิตามินเอ จากข้อมูลที่ได้รับ RETINAT มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวเหมือนกลุ่มวิตามินเอ ผู้ผลิตอ้างว่าที่ความเข้มข้น 1.6% มีประสิทธิภาพสูงกว่า Retinol ในด้านริ้วรอย แต่การอ้างสิทธิ์นี้มาจากการทดลองของผู้ผลิตเอง และยังไม่มีการเปรียบเทียบที่เป็นอิสระซึ่งครอบคลุมผลด้านอื่นๆ ของ Retinol

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)
Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)
เครื่องสำอาง
Retinal (Retinaldehyde)
Retinal (Retinaldehyde)
เครื่องสำอาง
RETINAT™ (Starfish Extract)
RETINAT™ (Starfish Extract)
เครื่องสำอาง