เปรียบเทียบเครื่อง Homogenizer กับเครื่องปั่นธรรมดาสำหรับการทำครีมและการใช้งาน

ถามโดย: phaggavatt เมื่อ: March 05, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

เครื่อง Homogenizer กับเครื่องปั่นครีมธรรมดาแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความเสถียรของครีมอย่างไร?

นอกจากนี้ เครื่องสำอางประเภทไหนบ้างที่จำเป็นต้องใช้เครื่อง Homogenizer โดยเฉพาะ เช่น สูตรที่มีการใช้ผงกันแดด Physical บางชนิด (เช่น Titanium Dioxide หรือ Zinc Oxide) หรือผง Pigment ที่ยังไม่ได้กระจายตัว?

คำตอบ

นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับเครื่อง homogenizer และเครื่องปั่นครีมธรรมดาค่ะ

  1. เครื่อง homogenizer กับ เครื่องปั่นครีมธรรมดา จะได้ครีมที่แตกต่างอย่างไรบ้าง:

    • สำหรับเนื้อครีมทั่วไป การใช้เครื่องปั่นธรรมดาและใช้หัวปั่น Dissolver/Disperse ก็สามารถให้เนื้อครีมที่ใกล้เคียงกับเครื่อง Homogenizer ได้ค่ะ
    • แม้ว่าเครื่อง Homogenizer อาจทำให้อนุภาคของเนื้อครีมเล็กกว่าได้บ้างเนื่องจากปั่นที่ความเร็วสูงกว่า (เช่น 3000 รอบ เทียบกับ 1500 รอบของเครื่องปั่นธรรมดา) แต่ความแตกต่างนี้มักจะมองเห็นได้ด้วยกล้องขยายเท่านั้น ไม่สามารถสัมผัสได้
    • อย่างไรก็ตาม การใช้ Homogenizer ที่ความเร็วสูงเกินไป (5000-10000 รอบ) กลับอาจทำให้เนื้อครีมเหลวตัวหรือไม่เสถียรได้ เนื่องจากความเร็วที่สูงเกินไปสามารถตัดโครงสร้างของ Polymer ซึ่งเป็นสารสร้างเนื้อครีมหรือเจลต่างๆ จนขาด ทำให้เนื้อครีมไม่ข้นตัวค่ะ
  2. เครื่องสำอางประเภทไหนบ้างที่ต้องใช้เครื่อง homogenizer:

    • ใช้เฉพาะในบางกรณีเท่านั้นค่ะ
    • ตัวอย่างเช่น ครีมกันแดดที่เลือกใช้ ผงกันแดด Physical ชนิดรุ่นก่อนๆ ที่ไม่ได้เคลือบมาให้กระจายตัวง่ายเป็นพิเศษ (เช่น Titanium Dioxide หรือ Zinc Oxide บางชนิด ที่ไม่ใช่ชนิด EasyDisperse)
    • หรือสูตรที่มีการใช้ผง Pigment ที่ยังไม่ได้กระจายตัว ซึ่งแตกต่างจากชนิดที่กระจายตัวมาแล้ว (เช่น สีกลุ่ม EasyMix)
    • การเลือกใช้ส่วนผสมที่ถูกพัฒนามาแล้วให้ผสมง่าย จะช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่อง Homogenizer ได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide (Micronized)
Zinc Oxide (Micronized)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide 250nm Pigment (Non-Treated)
Titanium Dioxide 250nm Pigment (Non-Treated)
เครื่องสำอาง