เปรียบเทียบเซรั่มวิตามินซีสูตร Vitamin C E Ferulic และ Vitamin C Repair Serum: ความเสถียร, ค่า pH, และความเหมาะสมกับผิวเป็นสิว
คำถาม
ต้องการทราบความแตกต่างระหว่างสูตร Vitamin C E Ferulic และสูตร Vitamin C Repair Serum โดยเฉพาะในประเด็นดังนี้:
- ชนิดของวิตามินซีที่ใช้ในแต่ละสูตร
- ความเสถียรและช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสูตร
- ประสิทธิภาพและความเหมาะสมสำหรับ ผิวเป็นสิว
นอกจากนี้ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Vitamin C Repair Serum:
- มีอายุการเก็บรักษานานเท่าใด?
- สามารถนำสูตรนี้ไปใช้ทำแบรนด์ของตัวเองได้หรือไม่ (ไม่มีลิขสิทธิ์)?
- ส่วนผสมสำหรับสูตรนี้มีขายเป็นชุดสำเร็จรูปหรือไม่ หรือต้องซื้อแยกแต่ละรายการ?
คำตอบ
การเปรียบเทียบสูตร Vitamin C E Ferulic และ Vitamin C Repair Serum
ความแตกต่างหลักระหว่างสูตร Vitamin C E Ferulic และ Vitamin C Repair Serum อยู่ที่ชนิดของวิตามินซีที่ใช้ ซึ่งส่งผลต่อคุณสมบัติและการทำงานบนผิว
Vitamin C E Ferulic
สูตรนี้ใช้ L-Ascorbic Acid เป็นส่วนประกอบหลัก L-Ascorbic Acid ถือเป็นวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากผิวสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการแปลงสภาพ มีประสิทธิภาพสูงในด้าน:
- ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส
- ลดเลือนริ้วรอย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
อย่างไรก็ตาม L-Ascorbic Acid มีความไม่เสถียรสูง โดยเฉพาะเมื่อละลายในน้ำ สูตร Vitamin C E Ferulic ใช้ Vitamin E และ Ferulic Acid เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ L-Ascorbic Acid สูตรที่ใช้ L-Ascorbic Acid มักต้องมีค่า pH ต่ำ (สภาพที่เป็นกรด) เพื่อความเสถียรและการดูดซึมที่ดีที่สุด
Vitamin C Repair Serum
สูตรนี้ใช้ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน Perfect-C™ มีความเสถียรสูงมากและมีการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดีเยี่ยม เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ละลายในน้ำมัน ทำให้สามารถซึมผ่านชั้นไขมันของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ที่ได้รับเทียบเท่ากับ L-Ascorbic Acid ได้แก่:
- ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส (Whitening)
- ลดเลือนริ้วรอย (Anti-oxidant)
- กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
Perfect-C™ มีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid อย่างมีนัยสำคัญ และสามารถผสมในสูตรที่มีค่า pH สูงกว่าได้ (โดยทั่วไปคือ 5.0-5.5) ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับค่า pH ตามธรรมชาติของผิว และโดยทั่วไปแล้วจะระคายเคืองน้อยกว่า
ประสิทธิภาพและความเหมาะสมกับผิวเป็นสิว
- ประสิทธิภาพ: วิตามินซีทั้งสองรูปแบบมีประสิทธิภาพและให้ประโยชน์หลักที่คล้ายคลึงกัน (ความกระจ่างใส, ลดริ้วรอย, ต้านอนุมูลอิสระ) L-Ascorbic Acid มักถูกมองว่าเป็นมาตรฐานทองคำในด้านความแรง แต่ต้องระมัดระวังในการผสมเนื่องจากความไม่เสถียรและค่า pH ที่ต่ำ Perfect-C™ ให้ประสิทธิภาพที่เทียบเคียงได้กับความเสถียรที่เหนือกว่าและการดูดซึมที่ดีกว่า อาจมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงชั้นผิวเป้าหมายได้ดีกว่า
- ผิวเป็นสิว: ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความไวของผิวแต่ละบุคคล ค่า pH ที่ต่ำของสูตร L-Ascorbic Acid อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบ หรือแดง ซึ่งอาจทำให้อาการสิวที่เป็นอยู่หรือผิวแพ้ง่ายแย่ลงได้ Perfect-C™ ซึ่งผสมในสูตรที่มีค่า pH สูงกว่าและเป็นมิตรกับผิวมากกว่า โดยทั่วไปถือว่าระคายเคืองน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน จึงควรพิจารณาเบสของสูตรโดยรวมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตันหากคุณมีผิวเป็นสิวได้ง่าย ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนเสมอ โดยเฉพาะถ้าคุณมีสิวที่กำลังอักเสบหรือผิวแพ้ง่าย การลองผสมและใช้ทั้งสองสูตรด้วยตนเองตามที่เจ้าหน้าที่และผู้ใช้ท่านอื่นแนะนำ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูว่าผิวของคุณตอบสนองอย่างไร
รายละเอียดเกี่ยวกับ Vitamin C Repair Serum
- อายุการเก็บรักษา: Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) มีความเสถียรสูง ในสูตรสำเร็จรูปสามารถคงตัวได้นานอย่างน้อย 24 เดือน หากเก็บรักษาวัตถุดิบอย่างถูกต้อง (เช่น ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 5°C หลีกเลี่ยงแสง) สามารถเก็บได้นานอย่างน้อย 3 ปี
- การนำไปทำแบรนด์: สามารถทำได้ สูตร Vitamin C Repair Serum ที่ MySkinRecipes แสดงในวิดีโอไม่ได้มีลิขสิทธิ์ คุณสามารถนำไปใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของคุณเองได้อย่างอิสระ
- การซื้อส่วนผสม: MySkinRecipes จำหน่ายส่วนผสมแบบแยกเป็นรายตัว ไม่ได้จัดทำเป็นชุดสำหรับสูตรเฉพาะ เช่น Vitamin C Repair Serum คุณจะต้องซื้อส่วนผสมแต่ละรายการที่จำเป็นตามที่ระบุในสูตรและปริมาณที่คุณต้องการผสม โดยสามารถดูรายการส่วนผสมและขนาดที่มีจำหน่ายได้บนเว็บไซต์
สรุปแล้ว การเลือกระหว่างสองเซรั่มขึ้นอยู่กับความทนทานของผิวต่อค่า pH ต่ำ (L-Ascorbic Acid) เทียบกับความชอบรูปแบบที่เสถียรสูงและดูดซึมได้ดีซึ่งละลายในน้ำมัน (Perfect-C™) ทั้งสองให้ประโยชน์ที่สำคัญ สำหรับผิวเป็นสิว Perfect-C™ อาจระคายเคืองน้อยกว่าเนื่องจากค่า pH ที่สูงกว่า แต่การทดสอบบนผิวบริเวณเล็กๆ เป็นสิ่งสำคัญ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C E Ferulic

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
