เปรียบเทียบ Bifida และการรักษาฝ้า/จุดด่างดำรุนแรงในผู้สูงอายุ

ถามโดย: nonthipat.s เมื่อ: October 24, 2024 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ขอคำแนะนำเปรียบเทียบประสิทธิภาพ Bifida Repair Complex (High Conc) กับ Repair Activator BG ที่เปอร์เซ็นต์การใช้ต่างกัน และขอคำปรึกษาการรักษาฝ้าและจุดด่างดำรุนแรงที่ดื้อยาในผู้สูงอายุ 70 ปีที่มีอาการคันร่วมด้วย รวมถึงวิเคราะห์สูตรปัจจุบัน (Safe B3, GlucoBright, 4MSK, Tranexamic Acid) กลไกการทำงาน การซึมสู่ผิว และข้อแนะนำในการปรับปรุงสูตร

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการดูแลผิวและฝ้า

เปรียบเทียบ Bifida Repair Complex™ (High Conc) และ Repair Activator™ BG

จากข้อมูล Bifida Repair Complex™ (High Conc) มีความเข้มข้นสูงกว่า (Dry Residue 4.5-5.5%) เมื่อเทียบกับ Repair Activator™ BG ที่เป็นเบส Butylene Glycol การใช้ Bifida Repair Complex™ (High Conc) ที่ความเข้มข้น 5% ซึ่งเป็นอัตราการใช้ที่แนะนำ (1-7%) และมีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูงกว่า น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหรือเทียบเท่ากับการใช้ Repair Activator™ BG ที่ 10% เนื่องจาก Bifida Repair Complex™ (High Conc) ถูกออกแบบมาให้มีความเข้มข้นของ Bifida Ferment Lysate สูงกว่าในปริมาณการใช้ที่น้อยกว่า เพื่อประสิทธิภาพในการเสริมเกราะป้องกันผิวและซ่อมแซม DNA

การดูแลปัญหาฝ้าและจุดด่างดำของคุณแม่

เข้าใจถึงความกังวลของคุณลูกค้าเกี่ยวกับปัญหาฝ้าและจุดด่างดำของคุณแม่ ซึ่งมีอายุ 70 ปี และปัญหาเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนร่วมกับอาการคัน การที่ปัญหาเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์บางอย่างและมีอาการคันร่วมด้วย อาจบ่งชี้ถึงการอักเสบใต้ผิวหนัง ซึ่งการอักเสบเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดและทำให้ฝ้าแย่ลงได้ ฝ้าในผู้สูงอายุและฝ้าที่เป็นมานานมักจะรักษายากและใช้เวลานาน

วิเคราะห์สูตรปัจจุบันและกลไกการทำงาน

สูตรที่คุณแม่ใช้อยู่ประกอบด้วย:

  • Safe B3™ (Niacinamide): ช่วยลดรอยแดง/ดำ เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และอาจช่วยลดการส่งเม็ดสีมาที่ผิวชั้นบน
  • GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): ทำงานร่วมกับ Niacinamide ในการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
  • 4MSK (Potassium Methoxysalicylate): พัฒนาโดย Shiseido ช่วยทำลายเซลล์เม็ดสีที่อยู่ใต้ผิว และยับยั้งการสร้างเม็ดสี
  • Tranexamic Acid (Trans-White™): ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและเหมาะสำหรับฝ้าที่เกิดจากแสงแดด

สารเหล่านี้มีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันและเสริมฤทธิ์กันได้ดีในการลดเม็ดสี เช่น Niacinamide + Acetyl Glucosamine ทำงานร่วมกันได้ดี และ 4MSK + Tranexamic Acid ก็มักถูกใช้ร่วมกันในผลิตภัณฑ์ของ Shiseido ดังนั้นสูตรปัจจุบันไม่ได้มีกลไกที่ซ้ำซ้อนกันจนเกินไป แต่เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือลดเม็ดสี

การซึมสู่ผิวชั้นลึก (หนังแท้)

โดยทั่วไปสารบำรุงผิวส่วนใหญ่ในเครื่องสำอางจะออกฤทธิ์หลักๆ ที่ผิวชั้นบน (หนังกำพร้า) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสร้างและสะสมเม็ดสี การที่สารจะซึมลึกถึงชั้นหนังแท้ได้นั้นขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสารและรูปแบบของตำรับ (เช่น ขนาดโมเลกุล, การใช้ระบบนำพาสาร) สารที่คุณใช้ส่วนใหญ่ทำงานที่ระดับหนังกำพร้าเป็นหลัก แม้ว่า Tranexamic Acid อาจมีผลต่อเส้นเลือดฝอยที่เกี่ยวข้องกับฝ้าเลือดในชั้นหนังแท้บ้าง แต่การหวังผลให้สารเหล่านี้ซึมลึกเพื่อแก้ปัญหาเม็ดสีในชั้นหนังแท้โดยตรงอาจเป็นไปได้ยากด้วยตำรับเครื่องสำอางทั่วไป

ข้อแนะนำเพิ่มเติมและปรับปรุงสูตร

การที่ใช้มาปีครึ่งแล้วยังไม่เห็นผล อาจเป็นเพราะปัญหาฝ้าของคุณแม่ค่อนข้างรุนแรงและซับซ้อน หรือความเข้มข้นของสารในสูตรยังไม่เพียงพอสำหรับปัญหาที่เป็นอยู่ หรืออาจมีปัจจัยอื่น เช่น การอักเสบเรื้อรัง หรือปัจจัยภายในร่างกาย

ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

  • พิจารณาเพิ่มสารที่ช่วยลดการอักเสบ: เนื่องจากมีอาการคันร่วมด้วย การเพิ่มสารที่ช่วยปลอบประโลมและลดการอักเสบ เช่น Allantoin, Bisabolol, หรือสารสกัดจากพืชบางชนิด อาจช่วยให้อาการคันดีขึ้นและลดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีจากการอักเสบ
  • เพิ่มสารกลุ่มผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน: นอกจาก AHA ที่ใช้อยู่ อาจพิจารณา Lactic Acid หรือ Mandelic Acid ที่อ่อนโยนกว่าสำหรับผิวผู้สูงอายุ เพื่อช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่มีเม็ดสีสะสม
  • สารลดเม็ดสีกลุ่มอื่น: อาจพิจารณาสารลดเม็ดสีตัวอื่นที่มีกลไกต่างไป เช่น Alpha Arbutin, Kojic Acid Derivatives, หรือ Vitamin C ในรูปแบบที่เสถียรและซึมสู่ผิวได้ดีขึ้น
  • ระบบนำพาสาร: หากต้องการเพิ่มการซึมสู่ผิว อาจพิจารณาสารกลุ่มที่ช่วยเพิ่มการซึมผ่านของผิว (Penetration Enhancers) หรือเลือกใช้สารในรูปแบบที่ถูกพัฒนาให้ซึมได้ดีขึ้น เช่น Nano-TXA™ ซึ่งเป็น Tranexamic Acid ในรูปแบบนาโนอิมัลชั่นที่ออกแบบมาเพื่อการซึมที่ดีขึ้น
  • ความสำคัญของกันแดด: ย้ำเตือนให้คุณแม่ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงและ PA+++ ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอและทาซ้ำระหว่างวัน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำคอ แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ฝ้าแย่ลง การป้องกันแสงแดดจึงสำคัญที่สุด
  • ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: หากลองปรับสูตรแล้วยังไม่ดีขึ้น และมีงบประมาณที่จำกัดสำหรับการทำเลเซอร์ อาจลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังอีกครั้งเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับยาทาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ซึ่งอาจมีความเข้มข้นหรือกลไกที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพสูงกว่าสำหรับฝ้าที่รุนแรงและดื้อต่อการรักษา

การรักษาฝ้าต้องใช้เวลาและความอดทน โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นมานานและมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย การดูแลผิวอย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ พร้อมกับการป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด เป็นหัวใจสำคัญครับ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง
4MSK (Potassium Methoxysalicylate)
4MSK (Potassium Methoxysalicylate)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
เครื่องสำอาง