ทำความเข้าใจ Hyaluronic Acid แบบน้ำและแบบผงสำหรับการทำสูตร

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการใช้ Hyaluronic Acid แบบน้ำแทนแบบผง และความหนืดที่ได้จะเหมือนแบบเจลหรือไม่ รวมถึงปัญหาการละลายแบบผง ขออธิบายดังนี้ค่ะ

Hyaluronic Acid แบบน้ำที่คุณกล่าวถึง น่าจะหมายถึง Double Hyaluron Liquid ซึ่งเป็นสารละลายที่เตรียมไว้แล้ว จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ระบุว่ามีความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid รวม 5% โดยเป็นส่วนผสมของ Nano Molecule 2.5% และ Standard Molecule 2.5%

ความหนืดหรือลักษณะที่เป็นเจลของสูตรสำเร็จของคุณขึ้นอยู่กับ ความเข้มข้นรวม ของ Hyaluronic Acid ในสูตร โดยเฉพาะชนิดที่มีโมเลกุลใหญ่ เช่น Hyaluronic Acid (Standard Molecule) และ Hyaluronic Acid (Large Molecule) ส่วนชนิดโมเลกุลเล็ก เช่น Hyaluronic Acid (Small Molecule) และ Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons) จะเน้นการซึมลึกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ไม่ช่วยสร้างเนื้อเจลให้หนืดขึ้นมากนัก

เนื่องจาก Double Hyaluron Liquid มีส่วนผสมของ Standard Molecule (ความเข้มข้น 2.5% ในตัวน้ำ) จึง สามารถ ช่วยสร้างเนื้อเจลในสูตรของคุณได้ หากคุณใช้ Double Hyaluron Liquid ในปริมาณที่ทำให้ ความเข้มข้นสุดท้าย ของ Hyaluronic Acid ในสูตรทั้งหมด (โดยเฉพาะส่วนที่เป็น Standard หรือโมเลกุลใหญ่กว่า) เท่ากับที่คุณเคยใช้แบบผง ความหนืดที่ได้ก็จะใกล้เคียงกันค่ะ

ข้อดีหลักของการใช้แบบน้ำคือใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องเสียเวลาและมีปัญหาในการละลายเหมือนแบบผง ซึ่งบางครั้งต้องใช้วิธีผสมพิเศษหรือใช้เวลาในการบวมตัวนาน แบบน้ำสามารถผสมในส่วนของน้ำในสูตรได้ทันที

เพื่อให้ได้ความหนืดใกล้เคียงกับการใช้แบบผงครั้งก่อน คุณต้องคำนวณปริมาณ Double Hyaluron Liquid (ซึ่งเป็นสารละลาย HA เข้มข้น 5%) ที่จะเติมลงในสูตร เพื่อให้ได้ความเข้มข้นสุดท้ายของ HA ในสูตรตามที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการความเข้มข้นสุดท้ายของ HA ที่ 0.1% ในสูตร โดยใช้แบบผง คุณจะต้องใช้ Double Hyaluron Liquid ในปริมาณ 2% ของสูตรทั้งหมด (เพราะ 2% ของ 5% เท่ากับ 0.1%)

สรุปคือ การใช้แบบน้ำสามารถให้เนื้อเจลที่ใกล้เคียงกันได้ หากคำนวณปริมาณการใช้ให้ได้ความเข้มข้นสุดท้ายของ HA (โดยเฉพาะส่วนที่เป็น Standard Molecule) เท่ากับการใช้แบบผง และมีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือละลายง่ายกว่ามากค่ะ