เปรียบเทียบ Oil Milk กับ Oil Soap และสูตรวิตามินบำรุงผิวน้ำนม
คำถาม
ต้องการทำผลิตภัณฑ์ "วิตามินบำรุงผิวน้ำนม" สำหรับใช้ในสปา ที่เมื่อโดนน้ำแล้วจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมสีขาว อยากทราบความแตกต่างระหว่าง Oil Milk (Laureth-4) และ Oil Soap (High Foaming Oil-Based Liquid Soap) ในแง่ของการเปลี่ยนเป็นน้ำนมและคุณสมบัติการทำความสะอาด และขอแนวคิดสูตรสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้โดยใช้วัตถุดิบที่เหมาะสมครับ
คำตอบ
เรียน ท่านสมาชิก
จากคำถามของท่านเกี่ยวกับ Oil Milk และ Oil Soap และการทำผลิตภัณฑ์ "วิตามินบำรุงผิวน้ำนม" สำหรับสปา ทีมงานขอให้ข้อมูลดังนี้ครับ
Oil Milk กับ Oil Soap แตกต่างกันอย่างไร
- Oil Milk (Laureth-4): เป็นส่วนผสมหลักที่ทำหน้าที่เป็น Emulsifier ช่วยให้น้ำมันในสูตรเปลี่ยนเป็นลักษณะคล้ายน้ำนมเมื่อโดนน้ำ ไม่มีคุณสมบัติเป็นสบู่หรือสารซักฟอกในตัวเอง เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน เช่น น้ำมันนวด หรือน้ำมันอาบน้ำ เพื่อให้ล้างออกง่ายขึ้นและมีลักษณะเป็นน้ำนมเมื่อสัมผัสกับน้ำ
- Oil Soap (High Foaming Oil-Based Liquid Soap): เป็นเบสสบู่สำเร็จรูปสำหรับสบู่น้ำมันโดยเฉพาะ มีส่วนผสมของสารซักฟอก (MIPA-Laureth Sulfate) และให้ฟอง มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด เมื่อโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมเช่นกัน แต่หน้าที่หลักคือเป็นเบสสบู่
ในด้านการให้ลักษณะความเป็นน้ำนมสีขาวเมื่อโดนน้ำนั้น Oil Milk ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่ Emulsifier ในระบบน้ำมันโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดลักษณะน้ำนมที่ชัดเจน ดังนั้น Oil Milk จึงเป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อให้ได้ลักษณะน้ำนมตามที่ท่านต้องการในผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันที่ไม่เน้นการเป็นสบู่หลัก
สูตรสำหรับ วิตามินบำรุงผิวน้ำนม
เนื่องจากท่านต้องการทำผลิตภัณฑ์ "วิตามินบำรุงผิวน้ำนม" สำหรับงานสปา ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำมันที่เปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ การใช้ Oil Milk จึงเหมาะสมครับ ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้คือน้ำมันบำรุงผิวที่สามารถล้างออกได้ง่ายเพราะเกิดการอิมัลชันเป็นน้ำนม
นี่คือแนวคิดสูตรพื้นฐานสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันบำรุงผิวน้ำนมครับ
แนวคิดสูตรพื้นฐาน น้ำมันบำรุงผิวน้ำนม
- Oil Milk (Laureth-4): 15-25%
- หน้าที่: ทำหน้าที่เป็น Emulsifier ทำให้น้ำมันเปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อผสมกับน้ำเพื่อให้ล้างออกง่าย ใช้ในสัดส่วนที่สูงขึ้นเพื่อให้ได้ลักษณะน้ำนมที่ชัดเจนและอิมัลชันได้เร็วขึ้น
- น้ำมันบำรุงผิว (Nourishing Oils): 74-84%
- หน้าที่: ให้การบำรุงและปรับสภาพผิว สามารถใช้น้ำมันชนิดเดียวหรือผสมกันก็ได้ ตัวเลือกที่ดีได้แก่:
- NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed): ให้ความชุ่มชื้น ซึมซาบง่าย อุดมด้วยวิตามิน
- Jojoba Oil (Golden - Deodorized): มีโครงสร้างคล้ายน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว
- Rice Bran Oil (High Omega, Refined): อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้าและสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวและเส้นผม
- หน้าที่: ให้การบำรุงและปรับสภาพผิว สามารถใช้น้ำมันชนิดเดียวหรือผสมกันก็ได้ ตัวเลือกที่ดีได้แก่:
- Vitamin E (Tocopheryl Acetate): 1%
- หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันน้ำมันในสูตรไม่ให้เสื่อมสภาพ และมีประโยชน์ในการบำรุงผิว
วิธีการผสม
- ผสมน้ำมันบำรุงผิวที่เลือกกับ Oil Milk (Laureth-4) ในภาชนะ
- คนหรือผสมให้เข้ากันดีจนเป็นเนื้อเดียวกันและใส
- เติม Vitamin E (Tocopheryl Acetate) และผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- (เลือกได้) หากต้องการ สามารถเติมน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยในขั้นตอนนี้ โดยทั่วไปใช้ในอัตรา 0.1-1%
- บรรจุลงในภาชนะที่เหมาะสม
วิธีใช้
ทาน้ำมันลงบนผิวที่แห้งและนวด เมื่อต้องการล้างออก ให้เติมน้ำเล็กน้อย น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมสีขาว เติมน้ำและล้างออกจนหมด จะรู้สึกได้ว่าผิวเนียนนุ่มและได้รับการบำรุง
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของท่านนะครับ
ขอบคุณครับ
ทีมงาน MySkinRecipes.com
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Jojoba Oil (Golden - Deodorized)

NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)

Oil Soap™ (สร้างสบู่น้ำมัน)

Laureth-4 (Oil Milk™)
