เปรียบเทียบ Pro Polymer กับ Reshape Gel: ผลต่อการซึมสู่ผิวและประสิทธิภาพสาร Active
ถามโดย: malawadee
เมื่อ: March 28, 2015
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
Pro Polymer และ Reshape Gel แตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะในแง่ของกระบวนการผสม (การใช้ความร้อน, การปั่น/เชียร์), ความสม่ำเสมอของโครงสร้างเนื้อเจลที่ได้ และปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการซึมสู่ผิวและประสิทธิภาพโดยรวมของสาร Active ในสูตรอย่างไร? ตัวไหนถือว่าดีกว่าในการนำพาสาร Active เข้าสู่ผิว?
คำตอบ
ตามข้อมูลที่คุณ C7 ได้ให้ไว้ มีข้อแตกต่างระหว่าง Pro Polymer และ Reshape Gel ดังนี้ค่ะ:
- ความแตกต่างหลัก: อยู่ที่กระบวนการผสม
- Pro Polymer: สร้างเนื้อเจลได้ง่ายมาก เพียงแค่คนผงให้ละลาย ไม่ต้องใช้ความร้อน
- Reshape Gel: ตามข้อมูลหน้าเว็บ (คุณ C7 ยังไม่เคยลองเอง) ต้องใช้ความร้อนและต้องปั่น/เชียร์ (shear) ให้เพียงพอ
- การซึมลงผิว/ประสิทธิภาพของสาร Active:
- คุณ C7 มองว่าระดับความสามารถในการประสานน้ำมันไม่ได้มีผลต่อการซึมอย่างชัดเจน ตราบใดที่สารนั้นสามารถประสานน้ำมันได้บ้าง ซึ่งทั้งสองตัวก็น่าจะทำได้
- จุดสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของสาร Active และการซึมลงผิว คือ ความสมบูรณ์และความสม่ำเสมอ (uniformity) ของเนื้อเจล
- Reshape Gel: เนื่องจากกระบวนการผสมที่ต้องใช้ความร้อนและการปั่น/เชียร์ที่เพียงพอ ทำให้มั่นใจได้ว่าเนื้อเจลที่สร้างขึ้นมีความสมบูรณ์และสม่ำเสมอสูง ผลึก Polymer จับตัวกันอย่างสม่ำเสมอและจับสาร Active ไว้ได้ดี ไม่ตกตะกอน ซึ่งคุณ C7 เชื่อว่าสิ่งนี้ทำให้การซึมสู่ผิวดีกว่า
- Pro Polymer: แม้จะผสมง่ายและไม่ต้องใช้ความร้อน แต่ไม่ได้มีการบังคับให้ปั่น/เชียร์เข้มข้นเท่า ทำให้ความสม่ำเสมอของเนื้อเจลอาจไม่เท่า Reshape Gel ซึ่งส่งผลต่อการซึมลงผิวได้
- ข้อดีของ Pro Polymer: คือการที่ไม่ต้องใช้ความร้อน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับสาร Active หลายชนิดที่ไวต่อความร้อน (ซึ่งมักจะเป็นสาร Active ราคาแพงและออกฤทธิ์หลัก)
- ข้อดีของ Reshape Gel (ด้านประสิทธิภาพ): กระบวนการผสมที่บังคับให้เนื้อเจลสมบูรณ์และสม่ำเสมอ ทำให้การนำพาสาร Active เข้าสู่ผิวมีประสิทธิภาพดีกว่า (ตามที่คุณ C7 เชื่อ)
- ข้อสังเกตเพิ่มเติมจากคุณ C7: คุณ C7 ชอบเนื้อสัมผัสของ Reshape Gel (จากผลิตภัณฑ์ LANEIGE ที่เคยลอง) ที่เกลี่ยง่ายและไม่เหนอะหนะ แม้ว่ากระบวนการผสมจะค่อนข้างยุ่งยากและต้องควบคุมความร้อนอย่างดี ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายแม้ในระดับโรงงานใหญ่
สรุปคือ แม้ Pro Polymer จะประสานน้ำมันได้มากกว่า แต่คุณ C7 ให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอของเนื้อเจลที่ได้จากกระบวนการผสมของ Reshape Gel มากกว่าในแง่ของการนำพาสาร Active และการซึมลงผิวค่ะ