แก้ปัญหาการขึ้นสูตรเจลอาบน้ำ: สารก่อเจล, การประสานน้ำหอม/น้ำมัน และความเข้ากันได้ของส่วนผสม
คำถาม
ดิฉันกำลังพัฒนาสูตรเจลอาบน้ำ โดยมีส่วนผสมดังนี้:
1. Water 71.3%
2. Lauryl Glucoside 4%
3. Coco Betain 6%
4. AminoWash 8%
5. Glycerine 8%
6. Pro Polymer 0.7%
7. Fragrance 1%
8. Phenoxyethanol 1%
9. Disodium EDTA 0.02%ของนำ้
ขั้นตอนการทำคือแบ่งน้ำเป็น 2 ส่วน นำส่วนหนึ่งมาสร้างเนื้อเจลกับ Pro Polymer ก่อน แล้วจึงนำไปผสมรวมกับส่วนผสมอื่นๆ ในเฟสน้ำ (น้ำ + Lauryl Glucoside, Coco Betain, AminoWash, Glycerine) แต่พบว่าพอโปรย Disodium EDTA ลงไปแล้ว เนื้อเจลที่ได้กลับเหลวลงค่ะ
จากสูตรและปัญหาที่พบ ดิฉันมีคำถามดังนี้ค่ะ:
- คำว่า "ละลาย" กับ "ประสานน้ำกับน้ำมัน" เหมือนกันหรือไม่คะ
- เราสามารถใช้ emulsifier ตัวอื่นๆ หรือ Pro Polymer ซึ่งมีผสมในสูตรอยู่แล้ว ละลายน้ำหอม 1% ลงในน้ำได้หรือไม่คะ หรือจำเป็นต้องใช้สารช่วยละลายเฉพาะอย่าง Flora Solve เท่านั้นคะ (ทราบว่า Flora Solve มีกลิ่น แต่คิดว่าอ่อนกว่า creamyfoamer)
- สำหรับปัญหาเนื้อเจลเหลวลงเมื่อเติม Disodium EDTA เกิดจากอะไรคะ
- หากต้องการเพิ่ม oil ประมาณ 3% ในสูตรเจลอาบน้ำนี้ สามารถใช้ Polysorbate 20 เป็น emulsifier ประสานน้ำกับน้ำมันได้หรือไม่คะ ต้องใช้ Polysorbate 20 ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์คะ และจะผสมรวมในสูตรข้างต้นได้อย่างไรคะ (คาดว่าจะต้องลดปริมาณน้ำลงใช่ไหมคะ)
แค่อยากลองใช้ oil มาผสมดูน่ะค่ะว่าจะเป็นอย่างไร
คำตอบ
คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมสูตร
Flora Solve
Flora Solve Clear เป็นสารช่วยละลายน้ำหอม (Fragrance Solubilizer) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้น้ำหอมที่ปกติเป็นน้ำมันสามารถกระจายตัวเข้ากับเบสที่เป็นน้ำหรือเจลได้ดี ทำให้สูตรใส ไม่แยกชั้น อย่างไรก็ตาม Flora Solve Clear ไม่ได้ช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนยาวนานขึ้น การที่กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยนไปอาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น คุณภาพของน้ำหอมเอง หรือปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร
Flora Solve Clear มีกลิ่นอ่อนๆ ของตัวเอง ซึ่งหากใช้ในปริมาณที่สูงเกินไป (เช่น มากกว่า 2-3 เท่าของปริมาณน้ำหอม) อาจส่งผลกระทบต่อกลิ่นดั้งเดิมของน้ำหอมได้ ควรทดลองใช้ในอัตราส่วนต่ำที่สุดที่ทำให้น้ำหอมละลายได้หมดก่อน
สำหรับผลต่อความข้นของเนื้อผลิตภัณฑ์ เช่น เจลอาบน้ำหรือโลชั่น โดยทั่วไปแล้ว Flora Solve Clear ไม่ได้ส่งผลให้เนื้อเหลวลงหรือข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำ (2-5 ส่วนต่อ น้ำหอม 1 ส่วน)
Disodium EDTA, TEA, Citric Acid
สารทั้ง 3 ตัวนี้สามารถส่งผลต่อเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ โดยเฉพาะในสูตรที่ใช้สารสร้างเนื้อเจลบางประเภท เช่น Pro Polymer
- Disodium EDTA และ TEA (Triethanolamine) เป็นสารกลุ่มอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) ซึ่งสามารถรบกวนโครงสร้างของสารสร้างเนื้อเจลบางชนิด (เช่น Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer อย่าง Pro Polymer) ทำให้เนื้อเจลอ่อนตัวลงหรือเหลวขึ้นได้
- Citric Acid เป็นกรด ใช้สำหรับปรับค่า pH ของสูตร ค่า pH ที่เปลี่ยนแปลงไปก็สามารถส่งผลต่อความหนืดของสารสร้างเนื้อเจลได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารสร้างเนื้อเจลนั้นๆ
ในกรณีสูตรเจลอาบน้ำที่คุณแจ้งมา การที่เนื้อเจลเหลวลงเมื่อเติม Disodium EDTA เกิดจาก Disodium EDTA เป็นอิเล็กโทรไลต์ไปรบกวนการสร้างเจลของ Pro Polymer ซึ่งเป็นสารสร้างเนื้อเจลประเภท Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer
คำว่า ละลาย กับ ประสานน้ำกับน้ำมัน
คำว่า "ละลาย" (Dissolve) หมายถึง สารสองชนิดเข้ากันเป็นเนื้อเดียวอย่างสมบูรณ์ในระดับโมเลกุล โดยไม่มีการแยกชั้นหรือขุ่น เช่น น้ำตาลละลายในน้ำ
คำว่า "ประสานน้ำกับน้ำมัน" (Emulsify/Solubilize) หมายถึง การใช้สารตัวกลาง (Emulsifier หรือ Solubilizer) ช่วยทำให้น้ำกับน้ำมันซึ่งปกติไม่เข้ากัน สามารถผสมเข้ากันได้เป็นเนื้อเดียว หรือกระจายตัวอยู่ในกันและกันได้อย่างคงตัว อาจได้เนื้อที่ใส (Solubilize) หรือขุ่นเป็นเนื้อครีม/น้ำนม (Emulsify)
ในกรณีของ Flora Solve Clear ทำหน้าที่เป็นสาร ประสาน น้ำหอม (ซึ่งเป็นน้ำมัน) เข้ากับน้ำ โดยใช้กลไกการสร้างไมโครอิมัลชั่น ทำให้ได้เนื้อที่ ใส จึงเรียกว่าเป็น Solubilizer ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของการประสาน
การใช้ Emulsifier ตัวอื่น หรือ Pro Polymer ละลายน้ำหอม
สามารถใช้สารประสานน้ำกับน้ำมันตัวอื่นๆ หรือ Pro Polymer ละลายน้ำหอม 1% ในน้ำได้ แต่ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไป
- Pro Polymer สามารถช่วยให้น้ำหอมกระจายตัวในน้ำได้ แต่จะทำให้เนื้อสูตร ขุ่น ไม่ใสเหมือนใช้ Flora Solve Clear
- Emulsifier ทั่วไป (เช่น Polysorbate 20) ก็สามารถใช้ละลายน้ำหอมได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพและความใสของสูตรอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของ Emulsifier และน้ำหอมที่ใช้
หากสูตรของคุณมีสารประสาน (Emulsifier) หรือสารสร้างเนื้อครีมอยู่แล้ว สามารถเติมน้ำหอมลงไปพร้อมกับส่วนของน้ำมันได้เลยโดยไม่ต้องใช้ Flora Solve Clear แยกต่างหาก
ปัญหาเนื้อเจลเหลวลงเมื่อเติม Disodium EDTA ในสูตรเจลอาบน้ำ
ตามที่อธิบายไปข้างต้น การที่เนื้อเจลที่สร้างด้วย Pro Polymer เหลวลงเมื่อเติม Disodium EDTA เกิดจาก Disodium EDTA เป็นอิเล็กโทรไลต์ไปลดความหนืดของ Pro Polymer
แนวทางแก้ไขคือ เพิ่มปริมาณ Pro Polymer ในสูตรให้มากขึ้น เพื่อชดเชยความหนืดที่ลดลงเมื่อเจออิเล็กโทรไลต์ในสูตร
นอกจากนี้ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในสูตรเจลอาบน้ำที่มีสารซักฟอกอย่าง AminoWash ซึ่งทำให้เนื้อสูตรขุ่นอยู่แล้ว การใช้ Pro Polymer อาจทำให้การผสมยุ่งยากและเกิดฟองมากเกินไป
เจ้าหน้าที่แนะนำให้พิจารณาใช้สารสร้างเนื้อเจล/สารเพิ่มความหนืดสำหรับสูตรสารซักฟอกโดยเฉพาะ เช่น ClearClean หรือ SugarThick แทน Pro Polymer ในสูตรนี้
- หากต้องการสูตรที่ใส (โดยไม่มี AminoWash ในสูตร) และใช้ Flora Solve Clear ละลายน้ำหอม ให้ปรับความข้นด้วย SugarThick
- หากสูตรมี AminoWash และเนื้อสูตรจะขุ่นอยู่แล้ว สามารถใช้ ClearClean ในการประสานน้ำหอมและปรับความข้นได้
การเพิ่ม Oil 3% และใช้ Polysorbate 20 ในสูตรเจลอาบน้ำ
สามารถเพิ่ม Oil ประมาณ 3% ลงในสูตรเจลอาบน้ำได้ และใช้สารประสานช่วยให้น้ำมันเข้ากับเบสสารซักฟอกได้
สำหรับสูตรสารซักฟอกที่มีน้ำมันผสมอยู่ เจ้าหน้าที่แนะนำให้ใช้ ClearClean เป็นสารประสาน จะใช้ง่ายและเหมาะสมที่สุด
หากต้องการใช้ Polysorbate 20 ในการประสานน้ำมัน 3% ในสูตรนี้ จะต้องใช้ Polysorbate 20 ในปริมาณที่เพียงพอที่จะประสานน้ำมันได้หมด โดยทั่วไปอัตราส่วน Polysorbate 20 ต่อน้ำมันอาจเริ่มที่ 1:1 หรือ 2:1 แล้วปรับเพิ่มจนกว่าจะเข้ากันดีและคงตัว อย่างไรก็ตาม ClearClean เป็นตัวเลือกที่แนะนำมากกว่าสำหรับสูตรประเภทนี้
เมื่อเพิ่ม Oil และสารประสานแล้ว จะต้องลดปริมาณน้ำในสูตรลงตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้รวมแล้วได้ 100%。
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Glycerin (USP/Food Grade)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Polysorbate 20 (Tween 20)

Lauryl Glucoside

Disodium EDTA

Pro Polymer™ (Gel Maker)

SugarThick™ (PEG-120 Methyl Glucose Dioleate)

ClearClean™ (ให้ความข้นหนืดในแชมพู/สบู่เหลว)

AminoWash™ (Sodium Lauroyl Glutamate, Fine)

Citric Acid (Anhydrous, Natural)
