แก้ปัญหาสิว เกราะป้องกันผิว ครีมกันแดดเป็นคราบ และการเพิ่มส่วนผสมในสูตร

ถามโดย: areewan.h เมื่อ: January 29, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Tester และมีข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับการใช้งาน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น และการปรับเปลี่ยนสูตร ดังนี้ค่ะ:

  • สิวอักเสบที่เกิดขึ้นเป็นหัวหนองเล็กๆ สามารถเกิดจากผลของการเปลี่ยนสกินแคร์หรือใช้ Tester ได้หรือไม่คะ หรือควรจะหยุดใช้ Tester ก่อน? อย่างกรณีนี้ควรจะทำอย่างไร รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
  • ตอนนี้รู้สึกว่าถ้าทาแค่ Tester อย่างเดียวมันชุ่มชื้นไม่พอ ถ้าตอนกลางคืนจะเพิ่มตัว Physiogel AI ร่วมด้วยได้ไหมคะ (ปกติจะใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้)
  • อย่างกรณีสั่ง Tester แล้วรู้สึกว่าอยากเพิ่มส่วนผสม จะต้องสั่งใหม่ใช่ไหมคะ (หรือว่าสามารถซื้อมาผสมเพิ่มเองได้) ถ้าผสมเองได้ ต้องกะปริมาณดูว่าที่เหลืออยู่ในขวดมีปริมาณเท่าไหร่ แล้วให้เพิ่มตามสัดส่วนที่ถูกต้องอย่างไรคะ
  • ถ้าหากมีสิวผด สามารถใช้ยารักษาสิวผดร่วมกับการใช้ Tester ได้ไหมคะ จำพวก Sebex ทาก่อนล้างหน้า กับ NSF LP (Ketokonasol) จะทำให้ผิวระคายเคืองเพิ่มหรือเปล่า หรือให้รอก่อนคะ
  • ทากันแดดแล้วเป็นคราบจะต้องทำอย่างไรดีคะ ถ้าจะรอให้ Tester ซึมปกตินานแค่ไหน ขึ้นกับอะไรบ้างคะ

คำตอบ

ส่วนผสมเพื่อฟื้นฟูผิว: Repair Activator และ Apple Stem Cell Extract

จากคำแนะนำก่อนหน้านี้ มีการกล่าวถึงส่วนผสม 2 ชนิดที่อาจช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวในสูตรของคุณได้ คือ Repair Activator และ Apple Stem Cell Extract

Repair Activator (Bifida Ferment Lysate)

ส่วนผสมนี้ได้มาจากการหมักบ่มแบคทีเรีย Bifida มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซม DNA ของผิว โดยเฉพาะหลังจากถูกทำลายด้วยแสง UV นอกจากนี้ยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (ปกป้องผิวจากภาวะเครียดออกซิเดชัน) และต้านการอักเสบ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มีประโยชน์ในการเสริมการปกป้องผิว ลดการระคายเคือง และสนับสนุนสุขภาพผิวโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณในการเสริมสร้างผิวที่บางและระคายเคืองง่าย

มีหลายรูปแบบให้เลือก เช่น Repair Activator™ BG (เบส Butylene Glycol), Repair Activator™ WS (เบส Water) และ Bifida Repair Complex™ (ชนิดความเข้มข้นสูง)

  • วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C สามารถละลายน้ำได้โดยตรง
  • อัตราการใช้ที่แนะนำ: โดยทั่วไป 1-7% สำหรับ Bifida Repair Complex™ และ 5-100% สำหรับ Repair Activator™ รุ่นอื่นๆ (ตรวจสอบรายละเอียดผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมที่สุด)

Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Powder)

ส่วนผสมนี้มาจากสเต็มเซลล์ของแอปเปิ้ล ออกแบบมาเพื่อช่วยบำรุงเซลล์ผิวและอาจช่วยยืดอายุเซลล์ ซึ่งสามารถช่วยชะลอสัญญาณแห่งวัยที่มองเห็นได้และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ แม้ว่าเป้าหมายหลักของคุณจะไม่ใช่การต่อต้านริ้วรอย แต่การสนับสนุนสุขภาพเซลล์ก็มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูและความยืดหยุ่นของผิวโดยรวม

  • วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย อุณหภูมิของเครื่องสำอางต้องต่ำกว่า 40°C และค่า pH ควรอยู่ในช่วง 3.5-6.5 สามารถละลายน้ำได้
  • อัตราการใช้ที่แนะนำ: 0.5-5% (ผู้ผลิตแนะนำ 3% สามารถใส่ได้สูงสุด 5%)

การเพิ่มส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งหรือทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยเสริมคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเสริมสร้างผิวของสูตรปัจจุบันของคุณได้ ซึ่งจะช่วยเสริมส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมที่คุณมีอยู่แล้ว อย่าลืมคำนวณปริมาณที่ถูกต้องที่จะเพิ่มตามปริมาณที่เหลืออยู่ในขวดของคุณ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้

สำหรับคำถามอื่นๆ ของคุณจากการสนทนาก่อนหน้า:

  • สิวหนองเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอาจเป็นสิวอุดตันเดิมที่กำลังจะกลายเป็นหัว ซึ่งเป็นกระบวนการปกติและไม่น่าจะเกิดจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้สังเกตอาการต่อไป
  • การทา Physiogel AI เพิ่มในตอนกลางคืนสามารถทำได้หากคุณใช้แล้วไม่แพ้และให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ
  • ใช่ค่ะ คุณสามารถซื้อส่วนผสมแยกมาผสมเพิ่มเองในปริมาณที่ถูกต้องตามสัดส่วนที่เหลือได้
  • โดยทั่วไปสามารถใช้ยารักษาสิวผด (เช่น Ketoconazole) หรือยารักษาสิวอื่นๆ ร่วมกับสูตรปัจจุบันได้ เนื่องจากสูตรของคุณมีส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคือง อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการระคายเคืองที่เพิ่มขึ้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากประวัติผิวแพ้ง่ายของคุณ
  • การทากันแดดแล้วเป็นคราบอาจเกิดจากการที่ส่วนผสมในครีมกันแดดและเจลไม่เข้ากัน เจลที่เป็น water-based อาจไม่เข้ากันได้ดีกับครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือซิลิโคน การรอให้เจลซึมซาบจนหมดก่อนทากันแดดอาจช่วยได้ แต่การเปลี่ยนเบสของเจล (เป็นแบบครีม) หรือเปลี่ยนครีมกันแดด (เป็นแบบ water-based) อาจจำเป็นเพื่อให้เข้ากันได้ดีขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง