แก้ปัญหาสิว เกราะป้องกันผิว ครีมกันแดดเป็นคราบ และการเพิ่มส่วนผสมในสูตร
คำถาม
กำลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Tester
และมีข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับการใช้งาน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น และการปรับเปลี่ยนสูตร ดังนี้ค่ะ:
- สิวอักเสบที่เกิดขึ้นเป็นหัวหนองเล็กๆ สามารถเกิดจากผลของการเปลี่ยนสกินแคร์หรือใช้
Tester
ได้หรือไม่คะ หรือควรจะหยุดใช้Tester
ก่อน? อย่างกรณีนี้ควรจะทำอย่างไร รบกวนแนะนำด้วยนะคะ - ตอนนี้รู้สึกว่าถ้าทาแค่
Tester
อย่างเดียวมันชุ่มชื้นไม่พอ ถ้าตอนกลางคืนจะเพิ่มตัวPhysiogel AI
ร่วมด้วยได้ไหมคะ (ปกติจะใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้) - อย่างกรณีสั่ง
Tester
แล้วรู้สึกว่าอยากเพิ่มส่วนผสม จะต้องสั่งใหม่ใช่ไหมคะ (หรือว่าสามารถซื้อมาผสมเพิ่มเองได้) ถ้าผสมเองได้ ต้องกะปริมาณดูว่าที่เหลืออยู่ในขวดมีปริมาณเท่าไหร่ แล้วให้เพิ่มตามสัดส่วนที่ถูกต้องอย่างไรคะ - ถ้าหากมีสิวผด สามารถใช้ยารักษาสิวผดร่วมกับการใช้
Tester
ได้ไหมคะ จำพวกSebex
ทาก่อนล้างหน้า กับNSF LP (Ketokonasol)
จะทำให้ผิวระคายเคืองเพิ่มหรือเปล่า หรือให้รอก่อนคะ - ทากันแดดแล้วเป็นคราบจะต้องทำอย่างไรดีคะ ถ้าจะรอให้
Tester
ซึมปกตินานแค่ไหน ขึ้นกับอะไรบ้างคะ
คำตอบ
ส่วนผสมเพื่อฟื้นฟูผิว: Repair Activator และ Apple Stem Cell Extract
จากคำแนะนำก่อนหน้านี้ มีการกล่าวถึงส่วนผสม 2 ชนิดที่อาจช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวในสูตรของคุณได้ คือ Repair Activator และ Apple Stem Cell Extract
Repair Activator (Bifida Ferment Lysate)
ส่วนผสมนี้ได้มาจากการหมักบ่มแบคทีเรีย Bifida มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซม DNA ของผิว โดยเฉพาะหลังจากถูกทำลายด้วยแสง UV นอกจากนี้ยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (ปกป้องผิวจากภาวะเครียดออกซิเดชัน) และต้านการอักเสบ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มีประโยชน์ในการเสริมการปกป้องผิว ลดการระคายเคือง และสนับสนุนสุขภาพผิวโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณในการเสริมสร้างผิวที่บางและระคายเคืองง่าย
มีหลายรูปแบบให้เลือก เช่น Repair Activator™ BG (เบส Butylene Glycol), Repair Activator™ WS (เบส Water) และ Bifida Repair Complex™ (ชนิดความเข้มข้นสูง)
- วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C สามารถละลายน้ำได้โดยตรง
- อัตราการใช้ที่แนะนำ: โดยทั่วไป 1-7% สำหรับ Bifida Repair Complex™ และ 5-100% สำหรับ Repair Activator™ รุ่นอื่นๆ (ตรวจสอบรายละเอียดผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมที่สุด)
Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Powder)
ส่วนผสมนี้มาจากสเต็มเซลล์ของแอปเปิ้ล ออกแบบมาเพื่อช่วยบำรุงเซลล์ผิวและอาจช่วยยืดอายุเซลล์ ซึ่งสามารถช่วยชะลอสัญญาณแห่งวัยที่มองเห็นได้และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ แม้ว่าเป้าหมายหลักของคุณจะไม่ใช่การต่อต้านริ้วรอย แต่การสนับสนุนสุขภาพเซลล์ก็มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูและความยืดหยุ่นของผิวโดยรวม
- วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย อุณหภูมิของเครื่องสำอางต้องต่ำกว่า 40°C และค่า pH ควรอยู่ในช่วง 3.5-6.5 สามารถละลายน้ำได้
- อัตราการใช้ที่แนะนำ: 0.5-5% (ผู้ผลิตแนะนำ 3% สามารถใส่ได้สูงสุด 5%)
การเพิ่มส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งหรือทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยเสริมคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเสริมสร้างผิวของสูตรปัจจุบันของคุณได้ ซึ่งจะช่วยเสริมส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมที่คุณมีอยู่แล้ว อย่าลืมคำนวณปริมาณที่ถูกต้องที่จะเพิ่มตามปริมาณที่เหลืออยู่ในขวดของคุณ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้
สำหรับคำถามอื่นๆ ของคุณจากการสนทนาก่อนหน้า:
- สิวหนองเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอาจเป็นสิวอุดตันเดิมที่กำลังจะกลายเป็นหัว ซึ่งเป็นกระบวนการปกติและไม่น่าจะเกิดจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้สังเกตอาการต่อไป
- การทา Physiogel AI เพิ่มในตอนกลางคืนสามารถทำได้หากคุณใช้แล้วไม่แพ้และให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ
- ใช่ค่ะ คุณสามารถซื้อส่วนผสมแยกมาผสมเพิ่มเองในปริมาณที่ถูกต้องตามสัดส่วนที่เหลือได้
- โดยทั่วไปสามารถใช้ยารักษาสิวผด (เช่น Ketoconazole) หรือยารักษาสิวอื่นๆ ร่วมกับสูตรปัจจุบันได้ เนื่องจากสูตรของคุณมีส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคือง อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการระคายเคืองที่เพิ่มขึ้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากประวัติผิวแพ้ง่ายของคุณ
- การทากันแดดแล้วเป็นคราบอาจเกิดจากการที่ส่วนผสมในครีมกันแดดและเจลไม่เข้ากัน เจลที่เป็น water-based อาจไม่เข้ากันได้ดีกับครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือซิลิโคน การรอให้เจลซึมซาบจนหมดก่อนทากันแดดอาจช่วยได้ แต่การเปลี่ยนเบสของเจล (เป็นแบบครีม) หรือเปลี่ยนครีมกันแดด (เป็นแบบ water-based) อาจจำเป็นเพื่อให้เข้ากันได้ดีขึ้น