แก้ปัญหาเจลสูตรทำเอง: อาการแพ้ สิวอุดตัน และเนื้อสัมผัส

สวัสดีค่ะ เข้าใจเลยค่ะว่ากังวลใจเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์แล้วมีอาการแพ้ขึ้นมา การระบุว่าส่วนผสมใดในสูตรเป็นสาเหตุของการแพ้นั้นทำได้ยากค่ะ เนื่องจากในสูตรมีส่วนผสมหลายตัวและผิวแต่ละคนก็ตอบสนองต่างกันไป จากคำแนะนำเดิมของทีมงานที่ให้ลองตัด Acne Bee และ สารสกัดมะหาด ออกก่อน เนื่องจาก Acne Bee เป็นส่วนผสมที่เป็นน้ำมันและสารสกัดมะหาดมีความเข้มข้นสูง อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทดสอบค่ะ คำแนะนำเพิ่มเติม: 1. หยุดใช้บริเวณที่แพ้ทันที: สิ่งสำคัญที่สุดคือหยุดทาเจลบริเวณที่มีผดขึ้น รอบปาก หรือริมฝีปากที่คล้ำเสียค่ะ ปล่อยให้ผิวบริเวณนั้นได้พักฟื้น 2. ทดสอบแบบแยกส่วน (ถ้าทำได้): หากต้องการหาสาเหตุที่แน่ชัด อาจลองทำสูตรใหม่ที่ตัดส่วนผสมที่สงสัยออกทีละตัว หรือลองนำส่วนผสมที่สงสัย (เช่น Acne Bee, สารสกัดมะหาด) มาเจือจางมากๆ แล้วลองแต้มที่ท้องแขนเล็กๆ เพื่อดูปฏิกิริยา (Patch Test) แต่การทำ Patch Test เองต้องระมัดระวังค่ะ 3. ลองทำสูตรที่ตัด Acne Bee และ สารสกัดมะหาด ออก: ตามคำแนะนำของทีมงาน ลองทำเจลสูตรเดิม แต่ตัด Acne Bee 5% และ สารสกัดมะหาด 5% ออก แล้วเพิ่มน้ำเปล่าเข้าไปแทนส่วนที่หายไป (รวม 10%) เพื่อให้ครบ 100% แล้วลองใช้เจลสูตรใหม่นี้ทาบริเวณอื่นที่ไม่ใช่รอบปาก/ริมฝีปาก เพื่อดูว่ายังมีอาการแพ้หรือไม่ * หากอาการแพ้หายไป แสดงว่าอาจแพ้ Acne Bee หรือ สารสกัดมะหาด หรือแพ้ทั้งสองตัว * หากอาการแพ้ยังอยู่ อาจจะต้องพิจารณาลดหรือตัดส่วนผสมอื่นๆ ออกไปอีกทีละตัว เช่น Green Tea Extract (แม้จะตัดไปแล้วในสูตรล่าสุด แต่ในสูตรก่อนหน้ามี 10% ซึ่งค่อนข้างสูง), Vitamin B3 หรือ NAG เป็นต้น 4. เรื่องสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ และความเหนอะหนะ: อาการสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ อาจเกิดจากเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว หรือส่วนผสมบางตัวที่อาจกระตุ้นการอุดตันได้ ส่วนความเหนอะหนะอาจเกี่ยวข้องกับชนิดและปริมาณของสารสร้างเนื้อเจล (Pro Polymer) หรือส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร ซึ่งทีมงานได้แนะนำให้เพิ่ม Pro Polymer เป็น 1.5-2.0% เพื่อแก้ปัญหาเนื้ออ่อนตัวจาก Zinc PCA ซึ่งอาจช่วยเรื่องความเหนอะหนะได้บ้าง แต่ปัญหาการแพ้รอบปาก/ริมฝีปากดูจะเป็นอาการที่รุนแรงกว่าและควรแก้ไขก่อนค่ะ เสียดายของเป็นเรื่องรองค่ะ สุขภาพผิวหน้าสำคัญที่สุด หากลองปรับสูตรแล้วยังมีอาการแพ้ หรือไม่แน่ใจ ควรหยุดใช้และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังค่ะ