การแก้ไขปัญหาการทำสูตร Skinceuticals C E Ferulic

จากปัญหาที่คุณพบในการทำสูตร Skinceuticals C E Ferulic โดยเฉพาะเรื่อง Ferulic Acid ไม่ละลาย, สารละลายขุ่น และการควบคุม pH ขออธิบายและเสนอแนวทางการแก้ไขดังนี้ครับ

ปัญหา Ferulic Acid ไม่ละลายและสารละลายขุ่น

• คำอธิบาย: Ferulic Acid ละลายได้ไม่ดีในน้ำเปล่า แต่จะละลายได้ดีในตัวทำละลายกลุ่มน้ำมัน เช่น Ethoxydiglycol ซึ่งอยู่ในส่วน B ของสูตรคุณ การที่คุณไม่ใส่ Triethanolamine (TEA) ในตอนแรกแล้วพบว่า Ferulic Acid ไม่ละลายใน Phase น้ำ เป็นเรื่องปกติครับ TEA มีบทบาทหลักในการปรับ pH ให้สูงขึ้น ไม่ใช่ตัวช่วยละลาย Ferulic Acid ในน้ำโดยตรง
• สาเหตุของความขุ่น: เมื่อ Ferulic Acid ที่ยังไม่ละลายเต็มที่ใน Phase น้ำ ถูกนำไปผสมกับ Phase น้ำมัน จะทำให้เกิดการกระจายตัวที่ไม่สมบูรณ์ของสารต่างๆ ทำให้สารละลายมีลักษณะขุ่นคล้ายน้ำนม การเติม TEA ทีหลังในสารละลายที่ขุ่นแล้ว อาจไม่สามารถทำให้กลับมาใสได้ เพราะปัญหาเกิดจากขั้นตอนการละลายและการผสมที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก
• คำตอบสำหรับคำถามที่ 1: TEA ไม่ได้เป็นตัวผสานน้ำกับ Ferulic Acid ครับ บทบาทหลักคือการปรับ pH ความขุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อผสม Phase น้ำที่มี Ferulic Acid ที่ยังไม่ละลายกับ Phase น้ำมัน เกิดจากการที่ Ferulic Acid ไม่ได้ละลายใน Phase น้ำอย่างสมบูรณ์ และเมื่อผสมกับ Phase น้ำมันที่มีส่วนประกอบที่ไม่เข้ากันได้ทั้งหมดในทันที จึงเกิดการกระจายตัวที่ไม่เสถียรขึ้น
• คำตอบสำหรับคำถามที่ 2: Ferulic Acid ละลายได้ดีในตัวทำละลายกลุ่มน้ำมัน เช่น Ethoxydiglycol การนำไปละลายใน Phase น้ำในสูตรต้นฉบับ อาจเป็นเพราะต้องการให้ส่วนผสมทั้งหมดรวมอยู่ใน Phase เดียวกันก่อน แต่จากปัญหาที่พบและคำแนะนำของ C7 การละลาย Ferulic Acid ใน Phase น้ำมัน (ส่วน B) ที่มี Ethoxydiglycol จะช่วยให้ละลายได้ดีตั้งแต่ต้น และเมื่อนำ Phase น้ำมันที่ใสแล้วไปผสมกับ Phase น้ำ ควรจะได้สารละลายที่ใสหรือขุ่นน้อยลงมากครับ

ปัญหา Xanthan Gum ไม่ละลายและได้เนื้อเจลใสที่หนืดเล็กน้อย

• คำอธิบาย: Xanthan Gum เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่ละลายได้ในน้ำ ไม่ใช่ในน้ำมัน การที่คุณใส่ Xanthan Gum ลงใน Phase น้ำมันที่อุณหภูมิ 40 องศา จึงไม่ถูกต้องครับ Xanthan Gum จะไม่สามารถ Hydrate (ดูดน้ำและพองตัว) เพื่อสร้างเนื้อเจลในน้ำมันได้ ทำให้เห็นเป็นเม็ดๆ ลอยอยู่
• คำตอบสำหรับคำถามที่ 3: วิธีที่คุณทำไม่ถูกต้องครับ ในการใช้ Xanthan Gum เพื่อสร้างเนื้อเจลใสที่หนืดเล็กน้อย คุณต้องนำ Xanthan Gum ไปละลายใน Phase น้ำ (ส่วน A) ครับ โดยค่อยๆ โปรย Xanthan Gum ลงในน้ำพร้อมกับคนหรือปั่นด้วยความเร็วสูงเพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อน หรืออาจผสมกับ Glycerin หรือ Propylene Glycol เล็กน้อยก่อนนำไปผสมน้ำเพื่อช่วยให้กระจายตัวได้ดีขึ้น จากนั้นคนหรือตั้งทิ้งไว้เพื่อให้ Xanthan Gum ดูดน้ำและสร้างเนื้อเจลจนสมบูรณ์
• คำตอบสำหรับคำถามที่ 4: เนื่องจาก Xanthan Gum ควรละลายใน Phase น้ำ คำถามนี้จึงไม่ตรงกับวิธีการที่ถูกต้องครับ หลังจากที่คุณละลาย Xanthan Gum ใน Phase น้ำจนได้เนื้อเจลที่ต้องการแล้ว จึงค่อยนำ Phase น้ำ (ส่วน A ที่มี Xanthan Gum ละลายอยู่) ไปผสมกับ Phase น้ำมัน (ส่วน B) ตามขั้นตอนการทำสูตรครับ

ขั้นตอนการทำสูตรที่แนะนำ (ปรับปรุง)

จากปัญหาและคำอธิบายข้างต้น ขอแนะนำขั้นตอนการทำสูตรใหม่ดังนี้ครับ

1. เตรียมส่วน A (Phase น้ำ):

   • ผสม น้ำกลั่น, Panthenol, Lemon Peel Bioferment, และ Phenoxyethanol
   • ค่อยๆ เติม Xanthan Gum ลงในส่วนผสมน้ำ พร้อมกับคนหรือปั่นด้วยความเร็วสูงเพื่อช่วยให้กระจายตัวและละลายได้ดี หรืออาจผสม Xanthan Gum กับ Glycerin หรือ Propylene Glycol เล็กน้อยจากส่วน B ก่อนนำไปผสมในน้ำ
   • คนหรือตั้งทิ้งไว้จน Xanthan Gum ละลายและสร้างเนื้อเจลใสที่หนืดตามต้องการ

2. เตรียมส่วน B (Phase น้ำมัน):

   • ผสม Ethoxydiglycol, Propylene Glycol, LipidSoft™ Solve, Glycerin, Laureth-23, d-Alpha Tocopherol และ Ferulic Acid
   • นำส่วนผสมนี้ไปอุ่นเล็กน้อย (ประมาณ 40-50°C) และคนจน Ferulic Acid ละลายจนหมดและส่วนผสมใส

3. รวมส่วน A และ B:

   • เมื่อส่วน A เป็นเนื้อเจลใส และส่วน B เป็นของเหลวใส ค่อยๆ เทส่วน B ลงในส่วน A พร้อมกับคนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว ควรจะได้สารละลายที่ใสหรือขุ่นน้อยมาก

4. เติมส่วน C (L-Ascorbic Acid):

   • เติม L-Ascorbic Acid ลงในส่วนผสม A+B
   • คนหรือปั่นจน L-Ascorbic Acid ละลายจนหมด สารละลายควรจะใสและอาจมีสีเหลืองอ่อนๆ

5. เติมส่วน D (Hyaluronic Acid):

   • เติม Hyaluronic Acid Standard และ Hyaluronic Acid Nano ลงไป
   • คนหรือเขย่าให้ผงกระจายตัว Hyaluronic Acid จะค่อยๆ ดูดน้ำและสร้างความหนืดเพิ่มขึ้น อาจต้องใช้เวลาในการ Hydrate ให้สมบูรณ์ (อาจแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ตามที่คุณเคยทำ)

6. ปรับ pH:

   • หลังจากส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้ว ให้วัดค่า pH
   • ค่อยๆ เติม Triethanolamine (TEA) ทีละน้อยมากๆ พร้อมคนผสมให้เข้ากัน แล้ววัด pH ซ้ำ จนกว่าจะได้ค่า pH ที่ต้องการ (ประมาณ 3.5-3.7) คุณอาจใช้ TEA ในปริมาณน้อยกว่า 2.5% มาก

7. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย:

   • เมื่อได้ pH ที่ต้องการแล้ว ตรวจสอบความใสและความเข้ากันของเนื้อผลิตภัณฑ์ บรรจุในภาชนะที่ทึบแสงและปิดสนิทเพื่อป้องกันแสงและอากาศ

การปรับขั้นตอนการละลาย Ferulic Acid และ Xanthan Gum ให้ถูกต้องตามคุณสมบัติของสาร จะช่วยแก้ปัญหาความขุ่นและเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกันได้ครับ และการปรับ pH ในขั้นตอนสุดท้ายจะช่วยให้ควบคุมค่า pH ได้แม่นยำยิ่งขึ้น