แก้ไขปัญหาความเหนียวและแห้งช้าในสูตรอายเซรั่ม

ถามโดย: sakul_wudangzhan เมื่อ: December 07, 2022 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการแก้ไขปัญหาความเหนียวและแห้งช้าในสูตรอายเซรั่มเบสน้ำที่มีส่วนผสมของ 4DHyaluronin, Dipropylene glycol, เปปไทด์ และอื่นๆ ควรปรับลดหรือเพิ่มส่วนผสมใดบ้างเพื่อให้สูตรไม่เหนียวและแห้งเร็วขึ้น?

คำตอบ

แนวทางการแก้ไขปัญหาความเหนียวและแห้งช้าในสูตร Eyes Resume เบสน้ำ

ปัญหาความเหนียวและแห้งช้าที่คุณพบในสูตรของคุณ มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดจากปริมาณและความเข้มข้นของสารให้ความชุ่มชื้น (humectants) และส่วนผสมที่อาจสร้างฟิล์มเคลือบผิว

จากรายการส่วนผสมที่คุณให้มา ส่วนผสมที่มีแนวโน้มเป็นสาเหตุหลัก ได้แก่:

  • 4DHyaluronin (4%): อนุพันธ์ของ Hyaluronic acid เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง และเป็นสาเหตุทั่วไปของความเหนียว โดยเฉพาะที่ความเข้มข้น 4% ในเซรั่มเบสน้ำ
  • Dipropylene glycol (3%) และ Dipropylene glycol Methyl Ether (3%): สารกลุ่มไกลคอลเหล่านี้ก็มีส่วนช่วยให้ความชุ่มชื้นและอาจเพิ่มความเหนียวได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกัน
  • Yerba Santa Protein (1%) และ VersaMoist™ (1%): ส่วนผสมเหล่านี้อาจส่งผลต่อความรู้สึกบนผิวและเวลาในการแห้ง ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละตัว

เพื่อลดความเหนียวและช่วยให้สูตรแห้งเร็วขึ้น ขอแนะนำแนวทางดังนี้:

  1. สำคัญที่สุด: ลดปริมาณ 4DHyaluronin นี่คือส่วนผสมที่มีแนวโน้มสูงที่สุดที่จะเป็นสาเหตุหลักของปัญหา ลดปริมาณลงอย่างมีนัยสำคัญ ลองลดเหลือประมาณ 1-2% การปรับนี้ควรมีผลมากที่สุดในการลดความเหนียว
  2. พิจารณาลดกลุ่มไกลคอล: หากการลด 4DHyaluronin ยังไม่เพียงพอ คุณอาจพิจารณาลดปริมาณของ Dipropylene glycol และ Dipropylene glycol Methyl Ether ลงเล็กน้อย
  3. ประเมินส่วนผสมอื่นๆ: หากยังต้องการปรับปรุงเพิ่มเติมหลังจากปรับสารให้ความชุ่มชื้นแล้ว ให้ประเมินความรู้สึกบนผิวที่เกิดจาก Yerba Santa Protein และ VersaMoist™ การปรับปริมาณหรือพิจารณาส่วนผสมอื่นที่มีคุณสมบัติทางประสาทสัมผัส (sensory profile) ที่แตกต่างกันอาจช่วยได้
  4. ทางเลือกเสริม: เพิ่มสารช่วยลดความเหนียว: คุณอาจพิจารณาเพิ่มส่วนผสมในปริมาณเล็กน้อยที่ออกแบบมาเพื่อลดความเหนียวหรือช่วยให้แห้งเร็วขึ้นในเซรั่มเบสน้ำ หากมีจำหน่ายจากผู้จำหน่ายของคุณและเหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตา อย่างไรก็ตาม การลดส่วนผสมที่ทำให้เกิดความเหนียวโดยตรงมักเป็นขั้นตอนแรกที่มีประสิทธิภาพที่สุด

การปรับความเข้มข้นของสารให้ความชุ่มชื้นหลัก โดยเฉพาะ 4DHyaluronin ควรช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและเวลาในการแห้งของสูตรของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ