แก้ไขปัญหาสูตรไม่คงตัวและความไม่เข้ากันของส่วนผสม

ถามโดย: taeioyou เมื่อ: March 10, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

เรียน Staff

สูตรที่ไม่มีปัญหาคือสูตรที่ 1 แต่ที่นำมาให้ดูเพราะเป็นสูตรพื้นฐานของสูตรอื่นที่มีปัญหา ซึ่งเกิดจากการเติมสารต่างๆ ดังสูตรต่อๆ ไป

สูตรที่ 1 (สูตรพื้นฐานคงตัว):

  • makeupwash: 3%
  • cocowash: 3%
  • Isopentyldiol: 10%
  • Polyconditioner.easy: 4%
  • Silicone.quick.cond: 5%
  • MOIST24: 8%
  • Cucumber: 5%
  • Aloe: 3%
  • Phenoxyethanol.SA: 1%
  • Water: 58%

สูตรที่ 2 (เติมจากสูตรที่ 1):

  • Condi-B5: 4%
  • Jojoba.ester: 5%
  • HyaCoat: 0.2%

ขั้นตอนการทำสูตรที่ 2: เติม Condi-B5 ตามด้วย Jojoba.ester แต่ Jojoba.ester ดูเหมือนจะไม่ละลาย จึงนำไปปั่นด้วยหัวปั่นความเร็วสูง แต่ก็ไม่ดีขึ้น ลักษณะปัญหาเหมือนจะเกิดการรวมกันระหว่างพอลิเมอร์ เพื่อความแน่ใจจึงนำไปให้ความร้อนไม่เกิน 70 องศา แต่ก็ไม่ดีขึ้น

สูตรที่ 3:

  • Jojoba.ester: 5%
  • Condi-B5: 4%
  • B3: 3%
  • GlucoBright: 3%
  • Phenoxyethanol: 1%
  • Polyconditioner.easy: 8% (ตั้งใจใส่ 4% แต่เทเกินไปอีก 4% รวมเป็น 8%)

ขั้นตอนการทำสูตรที่ 3: นำ Jojoba.ester ละลายน้ำก่อน แล้วเติมสารต่างๆ ลงไปตามลำดับข้างบน หลังจากเติม Polyconditioner.easy ผลที่ได้คือเป็นเมือกๆ แยกชั้นดังรูป

สูตรที่ 4:

  • makeupwash: 3%
  • cocowash: 3%
  • Isopentyldiol: 10%
  • Polyconditioner.easy: 2%
  • Silicone.quick.cond: 5%
  • MOIST24: 8%
  • Cucumber: 5%
  • Aloe: 3%
  • Phenoxyethanol.SA: 1%
  • Water: จนครบ 100%
  • Condi-B5: 4%
  • Jojoba.ester: 5%

ขั้นตอนการทำสูตรที่ 4: เริ่มต้นด้วยละลาย Jojoba.ester กับน้ำก่อน แล้วนำไปอุ่นจนละลาย ---> Polyconditioner.easy ---> Condi-B5 ---> Silicone.quick.cond หลังจากเติม Silicone.quick.cond ก็เกิดสารเมือกขุ่นๆ ยืดๆ ตอนแรกคิดว่าเกิดจากการกระจายที่ไม่เพียงพอจึงนำไปปั่น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เลยคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการจับตัวกันของสารบางอย่าง

สรุปคำถาม:

  1. ปัญหาของสูตรที่ 2 เกิดจากขั้นตอนไหนครับ
  2. ปัญหาของสูตรที่ 3 เกิดจากอะไรครับ
  3. ปัญหาของสูตรที่ 4 เกิดจากอะไรครับ
  4. สารอะไรที่ไม่เข้ากันครับ เพราะอ่านรายละเอียดจากเว็บ ไม่มีสารที่ไม่เข้ากันเลยครับ
  5. ขอแนวทางแก้ไขด้วยครับ เพราะตอนนี้ของที่สั่งมาหมดแล้วจะลองแก้ปัญหาต่อก็ทำไม่ได้ครับ

คำตอบ

การแก้ไขปัญหาสูตรเครื่องสำอาง

ปัญหาที่พบในสูตรที่ 2, 3 และ 4 น่าจะเกิดจากความไม่เข้ากันของส่วนผสมบางชนิด โดยเฉพาะสารปรับสภาพประจุบวก (cationic conditioning agents) กับส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตร

นี่คือการวิเคราะห์ปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้นในแต่ละสูตรและแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้:

การวิเคราะห์ปัญหาสูตร

  • สูตรที่ 1 (คงตัว): สูตรนี้ประกอบด้วยสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (MakeUp-Wash, Coco Wash), สารละลาย (Isopentyldiol), Polyconditioner Easy ชนิดประจุบวก, Silicone Quick-Cond ชนิดไม่มีประจุ, MOIST24 ชนิดไม่มีประจุ, สารสกัดจากพืช (Cucumber, Aloe) และสารกันเสีย (Phenoxyethanol SA) ความคงตัวของสูตรนี้บ่งชี้ว่าส่วนผสมเหล่านี้เข้ากันได้ที่ความเข้มข้นและขั้นตอนการผสมที่ใช้

  • สูตรที่ 2 (ตะกอน/แยกชั้น): สูตรนี้มีการเพิ่ม Condi-B5 ชนิดประจุบวก และ HyaCoat ชนิดประจุบวก ลงในเบสของสูตรที่ 1 การเพิ่มสารประจุบวกเพิ่มเติมเข้าไปในระบบที่มีพอลิเมอร์ประจุบวก (Polyconditioner Easy) อยู่แล้ว และอาจมีส่วนประกอบประจุลบ (จาก Phenoxyethanol SA หรือสารสกัด) สามารถนำไปสู่ความไม่เข้ากันได้ง่าย พอลิเมอร์ประจุบวกสามารถทำปฏิกิริยากันเองหรือกับสารประจุลบ ทำให้เกิดการตกตะกอน การก่อเจล หรือการแยกชั้น การให้ความร้อนและการปั่นด้วยความเร็วสูงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เนื่องจากเป็นปัญหาความไม่เข้ากันทางเคมี ไม่ใช่ปัญหาการกระจายตัว

  • สูตรที่ 3 (เมือก/แยกชั้น): สูตรนี้ประกอบด้วย Jojoba Ester (Water-Soluble), Condi-B5 ชนิดประจุบวก, B3 และ GlucoBright ชนิดไม่มีประจุ, Phenoxyethanol SA และ Polyconditioner Easy ชนิดประจุบวกในความเข้มข้นสูง (8%) ซึ่งเกินอัตราที่แนะนำ ระดับความเข้มข้นที่สูงของ Polyconditioner Easy (เกินอัตราการใช้ที่แนะนำ) ร่วมกับ Condi-B5 (สารประจุบวกอีกชนิด) เป็นสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของเมือกเหนียวและการแยกชั้น พอลิเมอร์ประจุบวกสามารถทำให้เกิดความข้นหรือการก่อเจลอย่างมาก และการทำปฏิกิริยาระหว่างพอลิเมอร์ประจุบวกกับส่วนประกอบประจุลบ (เช่น Sorbic Acid ใน Phenoxyethanol SA) ที่ความเข้มข้นสูงสามารถนำไปสู่ความไม่คงตัวและเนื้อสัมผัสที่ไม่พึงประสงค์ได้

  • สูตรที่ 4 (เมือกขุ่น/ยืดๆ): สูตรนี้คล้ายกับสูตรที่ 1 แต่มีการเพิ่ม Condi-B5 ชนิดประจุบวก และ Jojoba Ester (Water-Soluble) ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากเติม Silicone Quick-Cond การรวมกันของสารประจุบวก (Polyconditioner Easy, Condi-B5) ที่ทำปฏิกิริยากับส่วนประกอบประจุลบที่อาจมีอยู่ (Sorbic Acid) และอาจรวมถึง Silicone Quick-Cond หรือ Jojoba Ester ชนิดไม่มีประจุ ภายใต้สภาวะหรือความเข้มข้นบางอย่าง เป็นสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ การเรียงลำดับการเติมก็อาจมีบทบาท โดยการเติม Silicone Quick-Cond หลังจากสารประจุบวกอาจกระตุ้นให้เกิดความไม่เข้ากัน

สารที่เข้ากันไม่ได้

แหล่งที่มาหลักของความไม่เข้ากันดูเหมือนจะเป็นปฏิกิริยาระหว่าง สารปรับสภาพประจุบวก (Condi-B5, HyaCoat, Polyconditioner Easy) กับส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร โดยเฉพาะ:

  • ปฏิกิริยาระหว่างพอลิเมอร์ประจุบวกต่างชนิดกัน (Condi-B5, HyaCoat, Polyconditioner Easy)
  • ปฏิกิริยาระหว่างสารประจุบวกกับส่วนประกอบประจุลบที่อาจมีอยู่ เช่น Sorbic Acid ที่พบใน Phenoxyethanol SA
  • ความเป็นไปได้ในการทำปฏิกิริยาระหว่างสารประจุบวกกับสารไม่มีประจุ เช่น Jojoba Ester (Water-Soluble) หรือ Silicone Quick-Cond ภายใต้สภาวะหรือความเข้มข้นบางอย่าง

แม้ว่าคำอธิบายผลิตภัณฑ์อาจไม่ได้ระบุความไม่เข้ากันทั้งหมดอย่างชัดเจน แต่โดยทั่วไปแล้วสารประจุบวกจะไวต่อสารประจุลบ และบางครั้งอาจทำปฏิกิริยากับสารไม่มีประจุ ซึ่งนำไปสู่ความไม่คงตัวได้

แนวทางแก้ไขที่แนะนำ

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ให้พิจารณาแนวทางต่อไปนี้:

  1. ลดความเข้มข้น: ลดความเข้มข้นของสารประจุบวก (Condi-B5, HyaCoat, Polyconditioner Easy) ให้อยู่ในอัตราการใช้ที่แนะนำ ความเข้มข้นสูงของพอลิเมอร์ โดยเฉพาะชนิดประจุบวก มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความไม่คงตัวและปัญหาเนื้อสัมผัสได้ง่ายกว่า

  2. ควบคุมค่า pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH ของสูตรอยู่ในช่วงที่เข้ากันได้สำหรับส่วนผสมทั้งหมด โดยเฉพาะสารประจุบวกและสารกันเสีย (Phenoxyethanol SA ต้องการ pH 2.0-6.0, Condi-B5 ต้องการ pH ต่ำกว่า 7.0 ในการละลาย, HyaCoat ทำงานได้ดีที่สุดที่ pH 3-7, และ Polyconditioner Easy ทำงานได้ที่ pH 3-10) ตั้งเป้าหมายค่า pH ที่เหมาะสมกับส่วนประกอบทั้งหมด ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วง 3.5-6.0

  3. ปรับลำดับการเติม: ลำดับการเติมส่วนผสมสามารถส่งผลต่อความคงตัวได้อย่างมาก ลองเติมสารประจุบวกอย่างช้าๆ ลงในเฟสน้ำ พร้อมกับการกวนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้ละลายหมดแล้วและปรับค่า pH แล้ว อีกทางเลือกหนึ่งคือการเติมสารประจุบวกเป็นลำดับสุดท้าย อาจช่วยหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาก่อนเวลาอันควรได้

  4. ตรวจสอบการละลาย/การกระจายตัว: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมเช่น Jojoba Ester (Water-Soluble) และ Silicone Quick-Cond ละลายหรือกระจายตัวในเฟสน้ำอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะเติมส่วนผสมที่อาจเข้ากันไม่ได้

  5. ทดสอบการผสม: หากจำเป็นต้องใช้สารประจุบวกหลายชนิดร่วมกัน ให้ทดสอบความเข้ากันได้ของสารเหล่านั้นในเบสน้ำอย่างง่าย ที่ความเข้มข้นที่ต้องการ ก่อนที่จะเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ วิธีนี้สามารถช่วยแยกปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

  6. พิจารณาสารกันเสีย: แม้ว่า Phenoxyethanol SA จะมีประสิทธิภาพ แต่ส่วนประกอบ Sorbic Acid เป็นชนิดประจุลบ หากคุณต้องการใช้สารประจุบวกในระดับสูง คุณอาจพิจารณาระบบสารกันเสียที่ไม่มีส่วนประกอบประจุลบ หรือปรับค่า pH อย่างระมัดระวังเพื่อลดปฏิกิริยา

ด้วยการจัดการความเข้มข้น ค่า pH และลำดับการเติมส่วนผสมอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะสารปรับสภาพประจุบวก คุณควรจะสามารถปรับปรุงความคงตัวของสูตรของคุณได้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
เครื่องสำอาง
Cucumber Extract (France)
Cucumber Extract (France)
เครื่องสำอาง
MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)
MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Silicone Quick-Cond (PEG-12 Dimethicone)
Silicone Quick-Cond (PEG-12 Dimethicone)
เครื่องสำอาง
MOIST24
MOIST24
เครื่องสำอาง
HyaCoat™ (Cationic Hyaluronic Acid)
HyaCoat™ (Cationic Hyaluronic Acid)
เครื่องสำอาง
Poly-Conditioner Easy
Poly-Conditioner Easy
เครื่องสำอาง
Isopentyldiol
Isopentyldiol
เครื่องสำอาง