แนะนำสารกันแดดเคมีสำหรับสูตรผสมสารสกัดจากพืช
คำถาม
ต้องการใช้สารกันแดดเคมีในสูตร โดยอาจผสมกับสารสกัดจากพืชที่มีค่า SPF อยู่บ้าง เพื่อให้ได้ค่า SPF และ PA ที่ต้องการ ขอคำแนะนำเกี่ยวกับสารกันแดดเคมีที่น่าสนใจและแนวทางการใช้ รวมถึงปริมาณที่แนะนำ และวิธีการผสมเพื่อการป้องกันแบบครอบคลุม (broad-spectrum) นอกจากนี้ มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญอะไรบ้างในการใช้สารกันแดดเคมีในสูตร โดยเฉพาะเรื่องความเข้ากันได้ ความเสถียร และการทำให้ได้ค่า SPF/PA ตามเป้าหมาย?
คำตอบ
คำแนะนำสารกันแดดเคมีสำหรับสูตรของคุณ
การผสมสารกันแดดเคมีเข้ากับสารสกัดจากพืชของคุณเป็นแนวทางที่ดีเพื่อให้ได้การป้องกันรังสี UV แบบครอบคลุม (broad-spectrum) สารกันแดดเคมีทำงานโดยการดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนเป็นความร้อน
นี่คือสารกันแดดเคมีที่นิยมใช้และช่วงปริมาณที่แนะนำ คุณสามารถเลือกใช้ชนิดเดียวหรือหลายชนิดร่วมกันได้ ขึ้นอยู่กับค่า SPF/PA ที่ต้องการและการป้องกันรังสี UV ที่เฉพาะเจาะจง (UVA, UVB หรือทั้งสองอย่าง):
- Octocrylene: ป้องกันรังสี UVB และ UVA II บางส่วน ช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับสารกันแดดตัวอื่น เช่น Avobenzone ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไปคือ 5-10% (รหัสสินค้า: 268)
- Octisalate (Ethylhexyl Salicylate): ป้องกันรังสี UVB เป็นหลัก และยังทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายสำหรับสารกันแดดชนิดผงได้ดี ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไปคือ 1-5% (รหัสสินค้า: 269)
- Homosalate: ป้องกันรังสี UVB เป็นหลัก และเป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับสารกันแดดชนิดผงหลายชนิด ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไปคือ 1-10% (รหัสสินค้า: 527)
- Oxybenzone (Benzophenone-3): ป้องกันรังสี UVB และ UVA ช่วงสั้น ช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ Avobenzone ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไปคือ 0.1-6% (รหัสสินค้า: 524)
- BEMT (Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine): ให้การป้องกันรังสี UV แบบครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB และมีความเสถียรสูง ปริมาณที่ใช้โดยทั่วไปคือ 1-10% โดยปริมาณ 2-4% ก็เพียงพอสำหรับสูตรที่มีประสิทธิภาพสูง (รหัสสินค้า: 772)
- SPF Protect Ultra™ III: เป็นสารผสมของสารกันแดดหลายชนิดที่ออกแบบมาเพื่อให้การป้องกัน UVA และ UVB สูง ปริมาณที่ใช้คือ 1-25% โดยที่ 10% ให้ค่า SPF ประมาณ 20-25, 20% ให้ค่า SPF ประมาณ 50 และ 25% ให้ค่า SPF ประมาณ 70-100 (ในระบบอิมัลชันแบบ Oil-in-Water)
เพื่อให้ได้การป้องกันแบบครอบคลุม (ทั้ง UVA และ UVB) มักจำเป็นต้องใช้สารกันแดดเคมีหลายชนิดร่วมกัน ตัวอย่างเช่น การใช้สารกรองรังสี UVB ที่ดี (เช่น Octocrylene, Octisalate, หรือ Homosalate) ร่วมกับสารกรองรังสี UVA ที่ดี (เช่น BEMT หรือ Avobenzone - แม้ว่า Avobenzone จะต้องการสารช่วยเพิ่มความเสถียร ซึ่งมักจะเป็น Octocrylene หรือ Oxybenzone)
ปริมาณเฉพาะของสารกันแดดเคมีที่ต้องใช้ในสูตรของคุณจะขึ้นอยู่กับค่า SPF/PA เป้าหมายและการมีส่วนร่วมของสารสกัดจากพืชของคุณ เนื่องจากสารสกัดจากพืชของคุณมีค่า SPF อยู่บ้าง คุณอาจสามารถใช้สารกันแดดเคมีในปริมาณที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสูตรที่ใช้สารเคมีเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม การมีส่วนร่วมที่แท้จริงของสารสกัดจากพืชของคุณจำเป็นต้องได้รับการประเมินอย่างรอบคอบ
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:
- การทดสอบ: วิธีเดียวที่จะทราบค่า SPF และ PA ที่แท้จริงของสูตรสำเร็จรูปของคุณคือการทดสอบตามมาตรฐาน
- ความสามารถในการละลาย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารกันแดดเคมีที่คุณเลือกเข้ากันได้กับเบสของสูตรของคุณ (เฟสน้ำมัน เฟสน้ำ ฯลฯ) สารกันแดดเคมีที่นิยมส่วนใหญ่มักละลายในน้ำมัน
- ข้อจำกัดตามกฎหมาย: ปฏิบัติตามปริมาณสูงสุดที่อนุญาตให้ใช้สำหรับส่วนผสมสารกันแดดแต่ละชนิดตามข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น อย. ในประเทศไทย) อย่างเคร่งครัด
คุณสามารถเริ่มต้นโดยการผสมสารกันแดดเคมีหลายชนิดในปริมาณที่ค่อนไปทางต่ำของช่วงที่แนะนำ แล้วปรับเปลี่ยนตามผลการทดสอบค่า SPF และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Octocrylene

Oxybenzone (Benzophenone-3)

Homosalate
