การใช้ Retinol ร่วมกับ AHA ในสูตรเดียวกัน

โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ Retinol (และเรตินอยด์รูปแบบอื่น ๆ) ร่วมกับ AHA (Alpha Hydroxy Acids) ในสูตรเครื่องสำอางเดียวกัน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา

เหตุผลที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน

• ความไวต่อค่า pH: เรตินอยด์ เช่น Retinol และ Retinal (Retinaldehyde) จะมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงค่า pH ที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงกรดอ่อน ๆ ถึงกลาง ๆ (ประมาณ pH 5.5 ถึง 6.5) ในขณะที่ AHA เช่น Glycolic Acid หรือ Lactic Acid ต้องการค่า pH ที่ต่ำกว่ามากและเป็นกรดมากกว่า (มักจะต่ำกว่า 4) เพื่อให้สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำมารวมกันในสูตรที่มีค่า pH ต่ำอาจทำให้เรตินอยด์เสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพลงได้
• เพิ่มการระคายเคืองผิว: ทั้งเรตินอยด์และ AHA เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีศักยภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว รอยแดง ลอกเป็นขุย และผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มใช้หรือใช้ในความเข้มข้นสูง การนำมารวมกันในผลิตภัณฑ์เดียวจะเพิ่มโอกาสและความรุนแรงของผลข้างเคียงเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจทำให้เกราะป้องกันผิวเสียหายได้

แนวทางทางเลือก

แทนที่จะรวมสารทั้งสองชนิดไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว ลองพิจารณาแนวทางเหล่านี้:

• ใช้สลับกัน: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอยด์ในคืนหนึ่ง และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA ในคืนถัดไป วิธีนี้ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากสารทั้งสองชนิดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยงของการระคายเคืองและการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้น
• พิจารณารูปแบบอื่น: เรตินอยด์บางรูปแบบที่ใหม่กว่า เช่น รูปแบบที่ถูกห่อหุ้ม (Encapsulated) อย่าง HyaRetin™ (Sodium Retinoyl Hyaluronate) หรือ Retinal-EZ™ (Encapsulated Water Dispersible Retinal) หรืออนุพันธ์อื่น ๆ เช่น Retinyl Retinoate และ VAE10 (Tocopheryl Retinoate) อาจมีความเสถียรที่ดีขึ้นหรือก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า Retinol หรือ Retinal แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องระมัดระวังเมื่อใช้ร่วมกับ AHA
• พิจารณา Bakuchiol: Bakuchiol เป็นสารสกัดจากพืชที่มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นทางเลือกจากธรรมชาติของ Retinol ให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยที่คล้ายคลึงกัน แต่โดยทั่วไปจะอ่อนโยนกว่ามากและไม่มีปัญหาเรื่องความไวต่อค่า pH เหมือนเรตินอยด์แบบดั้งเดิม เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือสำหรับใช้ในสูตรที่กังวลเรื่องค่า pH

แม้ว่าสารอย่าง Vitamin A Palmitate จะเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอเช่นกัน แต่ก็มีศักยภาพน้อยกว่า Retinol หรือ Retinal และยังคงอาจมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้กับสูตร AHA ที่มีค่า pH ต่ำ

โดยสรุป เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากทั้ง Retinol/เรตินอยด์ และ AHA และลดการระคายเคืองผิวให้เหลือน้อยที่สุด ควรใช้สารทั้งสองชนิดแยกกันหรือสลับวันกัน แทนที่จะรวมไว้ในสูตรเดียวกัน.