การดูแลปัญหาสิวอุดตันและริ้วรอยเล็กๆ ด้วย BHA และ LHA

สำหรับปัญหาเรื่องสิวอุดตันและริ้วรอยเล็กๆ ในช่วงอายุ 40+ ของคุณ ทั้ง Salicylic Acid (BHA) และ Capryloyl Salicylic Acid (LHA) สามารถช่วยได้ค่ะ แต่ทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติและวิธีการทำงานที่แตกต่างกันเล็กน้อย

ทำความเข้าใจ BHA และ LHA:

• Salicylic Acid (BHA): เป็นที่รู้จักกันดีในการรักษาสิวและสิวอุดตัน มีคุณสมบัติละลายในน้ำมัน สามารถซึมเข้าสู่รูขุมขนเพื่อช่วยละลายไขมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ BHA ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักทำงานได้ดีที่สุดในสภาพที่เป็นกรดสูง (pH ประมาณ 2-3) ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ แม้จะมีรูปแบบอื่นที่ช่วยลดปัญหานี้
• Capryloyl Salicylic Acid (LHA): เป็นอนุพันธ์ของ Salicylic Acid โดยทั่วไปถือว่าอ่อนโยนกว่า BHA เนื่องจากมีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่าและซึมเข้าสู่ผิวได้ช้ากว่า LHA มีค่า pH ใกล้เคียงกับ pH ตามธรรมชาติของผิว (ประมาณ 5.5) แม้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวและปัญหาสิวอุดตันได้ แต่ LHA ยังโดดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพมากกว่ากรดไฮดรอกซีบางชนิด เช่น Glycolic Acid

ควรเลือกใช้อะไรดีสำหรับความต้องการของคุณ?

เมื่อพิจารณาถึงปัญหาทั้งสิวอุดตันและริ้วรอย รวมถึงผิวที่อาจมีความไวต่อการระคายเคืองมากขึ้นตามวัย การใช้ทั้งสองชนิดร่วมกันหรือเลือกใช้ตามความเหมาะสมอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ

• สำหรับสิวอุดตัน: Salicylic Acid (BHA) มักมีประสิทธิภาพสูงกว่าในการละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน เนื่องจากคุณสมบัติที่ละลายในน้ำมันและทำงานได้ดีใน pH ที่ต่ำกว่า
• สำหรับริ้วรอยเล็กๆ และการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน: Capryloyl Salicylic Acid (LHA) มีความโดดเด่นเป็นพิเศษในด้านการลดเลือนริ้วรอยและเป็นทางเลือกในการผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนกว่า

คำแนะนำสำหรับการใช้ประจำวันและทรีทเม้นท์รายสัปดาห์:

• ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ประจำวัน: ควรเลือกใช้ชนิดที่อ่อนโยน Capryloyl Salicylic Acid (LHA) เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม เนื่องจากความอ่อนโยนและคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย หรืออาจใช้ Salicylic Acid (BHA) ในรูปแบบที่อ่อนโยนกว่า เช่น SalicSoft™ หรือ Liquid Salicylic Acid ในความเข้มข้นต่ำๆ
• ทรีทเม้นท์รายสัปดาห์: สำหรับการดูแลปัญหาสิวอุดตันแบบเน้นๆ อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acid (BHA) ในความเข้มข้นที่สูงขึ้น (สูงสุด 2% สำหรับผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้) สัปดาห์ละครั้ง หากเป้าหมายหลักของทรีทเม้นท์รายสัปดาห์คือการผลัดเซลล์ผิวที่เข้มข้นขึ้นและลดเลือนริ้วรอยอย่างอ่อนโยนกว่า BHA ความเข้มข้นสูง อาจพิจารณาใช้ LHA ในความเข้มข้นที่สูงขึ้นได้ (แต่ความเข้มข้นที่สูงมากอาจต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ)

ตัวอย่างสูตร:

นี่คือตัวอย่างสูตรง่ายๆ สำหรับเซรั่มใช้ประจำวันและทรีทเม้นท์รายสัปดาห์ค่ะ:

1. เซรั่ม LHA อ่อนโยนสำหรับใช้ประจำวัน (เน้นริ้วรอยและผลัดเซลล์ผิวเบาๆ)

• น้ำ (Water): q.s.
• กลีเซอรีน (Glycerin): 5%
• วิตามินบี 3 (Niacinamide): 3-5% (ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว รูขุมขน และลดเลือนริ้วรอย)
• วิตามินบี 5 (Panthenol): 2% (ช่วยปลอบประโลมผิว)
• Capryloyl Salicylic Acid (LHA) EZ™: 5-10% (ให้ Active LHA 1-2%)
• โปร โพลีเมอร์ (Pro Polymer): 0.5-1% (สารสร้างเนื้อเจล)

• ฟีนอกซีเอทานอล (Phenoxyethanol): 0.5-1% (สารกันเสีย)

• วิธีทำ:* ผสมน้ำ, กลีเซอรีน, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, โปร โพลีเมอร์ และฟีนอกซีเอทานอล เข้าด้วยกัน คนหรือปั่นจนได้เนื้อเจล จากนั้นเติม Capryloyl Salicylic Acid (LHA) EZ™ ลงไป คนหรือปั่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว

2. เซรั่มทรีทเม้นท์ BHA รายสัปดาห์ (เน้นสิวอุดตัน)

• โพรไพลีน ไกลคอล (Propylene Glycol) หรือ บิวทิลีน ไกลคอล (Butylene Glycol): 15%
• Salicylic Acid (BHA) ชนิดผง: 1.5-2%
• น้ำ (Water): q.s.
• กลีเซอรีน (Glycerin): 5%
• ไดโพแทสเซียม ไกลซิริซิเนต (Dipotassium Glycyrrhizate): 0.2% (ช่วยปลอบประโลมผิว)
• ไฮดรอกซีเอทิลเซลลูโลส (Hydroxyethylcellulose): 0.5-1% (สารสร้างเนื้อเจล/เพิ่มความหนืด)

• ฟีนอกซีเอทานอล (Phenoxyethanol): 0.5-1% (สารกันเสีย)

• วิธีทำ:* ละลาย Salicylic Acid (BHA) ชนิดผง ใน โพรไพลีน ไกลคอล หรือ บิวทิลีน ไกลคอล จนใส ในภาชนะแยกต่างหาก ผสมน้ำ, กลีเซอรีน, ไดโพแทสเซียม ไกลซิริซิเนต, ไฮดรอกซีเอทิลเซลลูโลส และฟีนอกซีเอทานอล เข้าด้วยกัน คนจนเป็นเนื้อเดียว จากนั้นเติมส่วนผสม BHA ที่ละลายแล้วลงในส่วนของน้ำ และคนให้เข้ากันดี

โปรดจำไว้ว่าควรทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้เสมอ และเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำๆ หากคุณมีผิวแพ้ง่าย การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิวค่ะ