EGCG แต่ละรูปแบบ: ความเข้ากันได้, ข้อควรระวัง และความแตกต่าง
คำถาม
ดิฉันต้องการสอบถามเกี่ยวกับความเข้ากันได้ ข้อควรระวังในการผสม และความแตกต่างที่สำคัญของ EGCG (Epigallocatechin Gallate) ในรูปแบบต่างๆ สำหรับการนำไปใช้ในสูตรเครื่องสำอาง กรุณาให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ EGCG เฉพาะที่ MySkinRecipes มีดังต่อไปนี้:
- Pure-EGCG™ (EGCG 98%): มีคุณสมบัติอย่างไร และควรผสมลงในสูตรอย่างไร?
- Hi-EGCG™ (EGCG 3%): มีคุณสมบัติเป็นสารสกัดชนิดน้ำอย่างไร และมีข้อควรระวังเฉพาะ (เช่น ช่วงค่า pH, ปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น วิตามินอี, และการใช้
ActiveProtec™ OX
) อะไรบ้างที่จำเป็นระหว่างการผสม? - Micromul™ EGCG (ไมโครอิมัลชัน): ขนาดอนุภาคระดับนาโนมีผลต่อการละลายและการดูดซึมเข้าสู่ผิวอย่างไร และมีแนวทางการผสมอย่างไร?
- ActiveRelease™ EGCG (EGCG 20% Encapsulation): การห่อหุ้มช่วยเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำและการปลดปล่อยสารแบบค่อยเป็นค่อยไปได้อย่างไร และมีคำแนะนำในการผสมอย่างไร?
นอกจากนี้ โปรดให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังทั่วไปเกี่ยวกับความไวต่อความร้อนและแสงสำหรับ EGCG ทุกรูปแบบ รวมถึงสภาวะการจัดเก็บที่แนะนำสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพ
คำตอบ
ความเข้ากันได้ ข้อควรระวังในการผสม และความแตกต่างของ EGCG แต่ละรูปแบบ
ที่ MySkinRecipes เรามี EGCG (Epigallocatechin Gallate) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังจากชาเขียวในหลากหลายรูปแบบ แต่ละชนิดได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการขึ้นสูตรที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจความแตกต่าง ความเข้ากันได้ และข้อควรระวังของแต่ละชนิดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ
ความแตกต่างที่สำคัญของ EGCG แต่ละรูปแบบ
เรามีผลิตภัณฑ์ EGCG หลักสี่ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว:
- Pure-EGCG™ (EGCG 98%): เป็นผงสีอ่อนที่มีความเข้มข้นสูง ละลายน้ำได้น้อยที่สุด และเหมาะสำหรับการกระจายตัวในสูตรครีมหรือเจล ความบริสุทธิ์สูงทำให้มีประสิทธิภาพมาก แต่ต้องระมัดระวังในการจัดการเนื่องจากความไวต่อปัจจัยภายนอก
- Hi-EGCG™ (EGCG 3%): เป็นสารสกัดในรูปแบบของเหลวสีเขียวเข้มถึงน้ำตาล ทำให้ง่ายต่อการผสมลงในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบโดยตรง เป็นรูปแบบที่ผ่านการทำให้เสถียรแล้ว จึงมีความเสถียรดีกว่าสารสกัดชาเขียวทั่วไป แต่ยังคงต้องมีข้อควรระวังเฉพาะ
- Micromul™ EGCG (ไมโครอิมัลชัน): เป็นของเหลวใสที่เป็นไมโครอิมัลชันของ EGCG ที่มีขนาดอนุภาคระดับนาโน (เฉลี่ย 1.7 นาโนเมตร) รูปแบบขั้นสูงนี้ช่วยให้ละลายน้ำได้โดยตรงและเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมาก (ดูดซึมดีกว่า EGCG ทั่วไปมากกว่า 2 เท่าใน 8 ชั่วโมง) ได้รับการออกแบบมาเพื่อการนำส่งและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
- ActiveRelease™ EGCG (EGCG 20% Encapsulation): เป็นผงสีขาวหรือขาวนวลที่ EGCG ถูกห่อหุ้มด้วยสาร การห่อหุ้มนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำและช่วยให้ EGCG ค่อยๆ ปล่อยเข้าสู่ผิวหนังได้นานถึง 8 ชั่วโมง ทำให้ได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
ความเข้ากันได้และข้อควรระวัง
EGCG โดยทั่วไปมีความไวต่อความร้อน แสง และไอออนของโลหะ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้ นี่คือข้อควรระวังเฉพาะสำหรับแต่ละรูปแบบ:
ข้อควรระวังทั่วไปสำหรับ EGCG:
- ความร้อน: หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงในระหว่างการผสมสำหรับ EGCG ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะ Pure-EGCG™ และ Micromul™ EGCG
- แสง: ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มี EGCG ควรได้รับการปกป้องจากแสง โดยควรบรรจุในขวดทึบแสง เพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพ สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Hi-EGCG™
- ค่า pH: สำหรับ Hi-EGCG™ ค่า pH ของสูตรเครื่องสำอางควรอยู่ระหว่าง 4.0-6.5
ข้อควรระวังเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์:
- Hi-EGCG™: เราแนะนำให้ผสมในขั้นตอนสุดท้ายของสูตร โดยให้แน่ใจว่าอุณหภูมิของเครื่องสำอางต่ำกว่า 40°C เพื่อป้องกันไอออนของโลหะทำลายคุณภาพ ควรใช้ ActiveProtec™ OX 1% ในสูตร นอกจากนี้ สูตรที่มี Hi-EGCG™ ไม่ควรมีวิตามินอีทุกชนิด เนื่องจากอาจรบกวนความเสถียรของ EGCG ได้
- Pure-EGCG™: ผสมให้กระจายตัวในครีมหรือเจล หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงในระหว่างกระบวนการผสม
- Micromul™ EGCG: ละลายในน้ำโดยตรง หลีกเลี่ยงความร้อน
- ActiveRelease™ EGCG: ผสมในน้ำ
คำแนะนำในการจัดเก็บ
การจัดเก็บที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ EGCG:
- Pure-EGCG™ และ Hi-EGCG™: สำหรับการจัดเก็บระยะยาว ควรเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4°C - 8°C ปิดผนึกให้แน่น และป้องกันจากอากาศและแสง
- Micromul™ EGCG: เก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ความร้อน และความชื้น ปิดฝาให้แน่น
- ActiveRelease™ EGCG: สำหรับการจัดเก็บระยะยาว ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4°C - 8°C
ด้วยการทำความเข้าใจคุณสมบัติเหล่านี้และปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนะนำ คุณสามารถนำ EGCG ไปใช้ในสูตรเครื่องสำอางของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังและประโยชน์ต่อผิว
คุณสามารถดูลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวถึงได้ด้านล่างคำตอบนี้
การตอบกลับติดตาม
คำถาม:
มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Micromul™ EGCG และ ActiveRelease™ EGCG ครับ/ค่ะ:
Micromul™ EGCG
และActiveRelease™ EGCG
ยังคงมีคุณสมบัติลดความมันบนใบหน้า (ลดการหลั่ง Sebum) หรือไม่? ผม/ดิฉันสับสนว่าสารออกฤทธิ์ตัวเดิมแต่เมื่ออยู่ในรูปแบบ Encapsulation แล้วทำไมคุณสมบัติถึงหายไป หรือว่าข้อมูลรายละเอียดสินค้าพิมพ์ตกไป?- EGCG ในรูปแบบอื่นไม่จำเป็นต้องป้องกันการเกิด Oxidation แล้วใช่หรือไม่? สามารถอธิบายเหตุผลได้ไหมครับ/คะ?
คำตอบ:
คุณสมบัติและข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์ EGCG
ขอบคุณสำหรับคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ EGCG ของเรา นี่คือคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติและข้อควรระวังที่จำเป็นสำหรับแต่ละรูปแบบ:
1. คุณสมบัติลดความมันบนใบหน้า
เกี่ยวกับคุณสมบัติลดความมันบนใบหน้าของ Micromul™ EGCG
และ ActiveRelease™ EGCG
:
- Pure-EGCG™ และ Hi-EGCG™ ระบุไว้อย่างชัดเจนในรายละเอียดผลิตภัณฑ์ว่ามีความสามารถในการลดความมันของผิวและการหลั่งไขมัน ตัวอย่างเช่น การประเมินโดยทีม R&D ของเราแสดงให้เห็นว่า Pure-EGCG™ มีประสิทธิภาพในการลดความมันของผิว และ Hi-EGCG™ มีคุณสมบัติในการลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้า
- สำหรับ Micromul™ EGCG แม้ว่าคำอธิบายจะเน้นไปที่คุณสมบัติการดูดซึมที่ดีขึ้น การกักเก็บความชุ่มชื้น สารต้านอนุมูลอิสระ การต่อต้านการตายของเซลล์ และการทำให้ผิวกระจ่างใส แต่ไม่ได้ระบุถึงการลดความมันบนใบหน้าอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม EGCG ในฐานะสารออกฤทธิ์เป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการควบคุมความมัน
- คำอธิบายของ ActiveRelease™ EGCG เน้นย้ำถึงคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและลดสิว เนื่องจากสิวมักเกี่ยวข้องกับความมันส่วนเกิน คุณประโยชน์ในการลดสิวจึงบ่งบอกถึงผลทางอ้อมต่อการควบคุมความมัน ในฐานะที่เป็น EGCG รูปแบบแคปซูล จึงยังคงคุณประโยชน์หลักของ EGCG รวมถึงศักยภาพในการช่วยจัดการความมันของผิว แม้ว่าจะไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้ในบทสรุปก็ตาม
ดังนั้น แม้ว่า Pure-EGCG™ และ Hi-EGCG™ จะกล่าวถึงการลดความมันบนใบหน้าโดยตรง แต่คุณสมบัติโดยธรรมชาติของ EGCG ชี้ให้เห็นว่า Micromul™ EGCG และ ActiveRelease™ EGCG ก็มีส่วนช่วยในการควบคุมความมันเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านกลไกการต้านสิวและการต้านการอักเสบ
2. การป้องกันการเกิดออกซิเดชันสำหรับ EGCG ทุกรูปแบบ
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า EGCG ทุกรูปแบบมีความไวต่อการเสื่อมสภาพจากความร้อน แสง และการเกิดออกซิเดชัน แม้ว่าข้อควรระวังเฉพาะอาจแตกต่างกันไป แต่หลักการทั่วไปของการป้องกันนั้นใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ EGCG ทั้งหมดของเรา:
- Hi-EGCG™: เราขอแนะนำเป็นพิเศษให้ใช้ ActiveProtec™ OX 1% และหลีกเลี่ยงวิตามินอีในการผสมสูตรที่มี Hi-EGCG™ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพจากไอออนของโลหะและเพื่อรักษาเสถียรภาพของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังต้องป้องกันจากแสงด้วย
- Pure-EGCG™: ผงเข้มข้นนี้ควรผสมลงในสูตรโดยหลีกเลี่ยงความร้อนและแสง สำหรับการจัดเก็บระยะยาว ควรเก็บไว้ในตู้เย็น ปิดผนึกให้แน่น และป้องกันจากอากาศและแสงเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชัน
- Micromul™ EGCG: ไมโครอิมัลชันนี้ควรละลายในน้ำ โดยหลีกเลี่ยงความร้อน ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดโดยตรง ความร้อน และความชื้น โดยปิดฝาให้แน่น คุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระโดยธรรมชาติยังเน้นย้ำถึงความไวต่อการเสื่อมสภาพหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
- ActiveRelease™ EGCG: แม้ว่าการห่อหุ้มจะให้การป้องกันในระดับหนึ่งและปรับปรุงการละลายในน้ำ แต่ก็ยังแนะนำให้เก็บในตู้เย็น (4°C - 8°C) สำหรับการจัดเก็บระยะยาว สภาพการจัดเก็บนี้ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของ EGCG ที่ห่อหุ้มและป้องกันการเสื่อมสภาพจากปัจจัยแวดล้อม
โดยสรุป แม้ว่า Hi-EGCG™ จะมีคำแนะนำเฉพาะสำหรับการป้องกันการเกิดออกซิเดชันเนื่องจากลักษณะของสารสกัดเหลวและกระบวนการทำให้คงตัว แต่ EGCG ทุกรูปแบบจะได้รับประโยชน์จากการจัดการและการจัดเก็บอย่างระมัดระวังเพื่อลดการสัมผัสกับความร้อน แสง และอากาศ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดออกซิเดชันและประสิทธิภาพที่ลดลง
คุณสามารถดูลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวถึงได้ด้านล่างคำตอบนี้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
