Vitamin C Ester และ AA2G: ความเสถียร pH, การละลาย และการขึ้นสูตร
คำถาม
- Vitamin C Ester (L-Ascorbyl Palmitate) เสถียรที่ pH เท่าไรถึงเท่าไรครับ
1.1 สามารถใช้ 8% ละลายใน LipidSoft ได้ไหมครับ
1.2 หาก pH ความเสถียรใกล้เคียงกับ AA2G สามารถใช้ร่วมกันได้ไหมครับ - หากใช้ AA2G (Ascorbyl Glucoside) 10% ปรับค่าด้วยการใช้ด่างอื่นๆ ช่วย เช่น การมี Sodium Lactate, Urea, TEA, Sodium Bicarbonate, L-Arginine ในสูตร โดยเลือกบางตัวเท่านั้น ที่เหมาะสม โดยการผสมเริ่มจากการนำ น้ำ + AA2G 10% และเพิ่มตัวอื่นๆ โดยใช้แต่ละตัวไม่เกิน % ที่กำหนด วัดค่าจนได้ pH ที่ 6.5-6.8 ก็สามารถให้ผลได้เช่นกัน ในเรื่องความเสถียรและประสิทธิภาพใช่ไหมครับ
2.1 จำเป็นหรือไม่หากมีการผสม AA2G กับน้ำและเติมด่างเพื่อปรับค่าที่หลัง หรือควรปรับค่าน้ำกับส่วนผสมที่เป็นด่างก่อนและใส่ AA2G ทีหลัง หรือสามารถผสมแบบใดก็ได้ เพียงแค่ยึดให้สูตรสำเร็จตอนเสร็จแล้ว pH ต้องเป็นไปตามที่แนะนำเท่านั้น ใช่ไหมครับ
คำตอบ
คำถามเกี่ยวกับการผสม Vitamin C Ester และ AA2G
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสม Vitamin C Ester และ AA2G:
ความเสถียรของ Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) ที่ pH เท่าใด: คำอธิบายสำหรับ Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) ไม่ได้ระบุช่วง pH ที่เสถียรอย่างชัดเจน เป็นวิตามินซีชนิดที่ละลายในน้ำมัน และมีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid เนื่องจากไม่ละลายในน้ำ ซึ่งช่วยลดการเกิดออกซิเดชัน มักนิยมใช้ในสูตรที่เป็นโลชั่นหรือครีม โดยผสมในส่วนของน้ำมัน
- การละลายใน LipidSoft: Vitamin C Ester มีความสามารถในการละลายในน้ำมันธรรมชาติได้จำกัด (0.03-0.12%) แม้ว่า LipidSoft จะเป็น Emollient/Ester ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำมัน การละลาย Vitamin C Ester 8% อาจทำได้ยากที่อุณหภูมิห้อง คำอธิบายแนะนำให้ผสมในส่วนของน้ำมันที่อุณหภูมิ 70°C เพื่อช่วยให้ผสมได้ง่ายขึ้น
สามารถใช้ Vitamin C Ester และ AA2G ร่วมกันได้หรือไม่: Vitamin C Ester ละลายในน้ำมัน ในขณะที่ AA2G (Ascorbyl Glucoside) ละลายในน้ำ และต้องการช่วง pH ที่ 6.5-6.8 เพื่อความเสถียรสูงสุด การนำส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและละลายในน้ำมารวมกันในสูตรอิมัลชัน (เช่น ครีมหรือโลชั่น) สามารถทำได้ แต่การรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของทั้งสองตัวอาจมีความท้าทาย เนื่องจากคุณสมบัติการละลายและช่วง pH ที่เหมาะสมอาจแตกต่างกัน คำอธิบายของ AA2G ระบุช่วง pH ที่เสถียร แต่ไม่ได้ระบุช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับ Vitamin C Ester การผสมจำเป็นต้องมีการคิดค้นสูตรอย่างรอบคอบและทดสอบความเสถียรเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งสองยังคงมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกัน
การใช้ AA2G 10% ปรับค่า pH ด้วยด่างอื่นๆ: ใช่ การใช้ AA2G 10% และปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ในช่วงที่เสถียรคือ 6.5-6.8 โดยใช้เบสที่เหมาะสม เช่น Sodium Lactate, Urea, Triethanolamine, Sodium Bicarbonate หรือ L-Arginine จะช่วยให้ AA2G มีความเสถียรและคงประสิทธิภาพไว้ได้ สารเหล่านี้สามารถใช้เพื่อเพิ่มความเป็นด่างและปรับ pH ให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ
ความจำเป็นในการปรับค่า pH ก่อนหรือหลังใส่ AA2G: ลำดับการผสมมีความสำคัญต่อความเสถียรของ AA2G AA2G มีความเป็นกรดเมื่อละลายในน้ำ และการสัมผัสกับ pH ที่ต่ำเป็นเวลานานอาจทำให้เสื่อมสภาพ วิธีที่แนะนำคือ เตรียมส่วนของน้ำโดยผสม Buffer (เช่น Citrate Buffer) หรือสารช่วยควบคุม pH (เช่น L-Arginine ผสมกับ AA2G ในอัตราส่วน 1:2 ก่อนละลาย) ลงไปก่อน จากนั้นจึงเติม AA2G และสุดท้ายจึงปรับ pH ให้อยู่ในช่วง 6.5-6.8 โดยใช้ด่าง เช่น Triethanolamine หรือ Sodium Hydroxide การทำให้ pH สุดท้ายถูกต้องเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ กระบวนการในการปรับและคงค่า pH นั้นมีความสำคัญ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Triethanolamine 99%

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)

Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate, Enzymatic)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)

Sodium Bicarbonate

L-Arginine
