การวิเคราะห์และคำแนะนำสำหรับการทำสูตรพื้นฐาน Clinique Moisture Surge

จากรายการส่วนผสมที่ให้มา นี่คือการวิเคราะห์สูตรพื้นฐานและคำแนะนำสำหรับการทำซ้ำ โดยเน้นที่ส่วนผสมที่คุณสอบถามและเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ

การวิเคราะห์ส่วนผสมและการทดแทน

นี่คือส่วนผสมเฉพาะที่คุณสอบถามและส่วนผสมอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการทดแทน:

• Sucrose: ในสูตรเครื่องสำอาง Sucrose มักทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น ช่วยดึงและกักเก็บความชื้นในผิว แม้ว่าจะสามารถใช้ Sucrose บริสุทธิ์ได้ แต่ผลการค้นหารวมถึง "Sucrose Cream Maker™" (Sucrose Polystearate (and) Cetyl Palmitate) ซึ่งเป็นอิมัลซิไฟเออร์ O/W จากธรรมชาติและให้ความรู้สึกที่ดีต่อผิว ไม่เหนอะหนะ หากคุณต้องการสารให้ความชุ่มชื้น ให้พิจารณา Glycerin หรือ Sodium Hyaluronate ซึ่งมีอยู่ในสูตรเดิมแล้ว หากคุณสนใจคุณสมบัติการเป็นอิมัลซิไฟเออร์และปรับปรุงเนื้อสัมผัส "Sucrose Cream Maker™" เป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้อง
• Oleth-10: เป็นสารลดแรงตึงผิว/อิมัลซิไฟเออร์ชนิดไม่มีประจุ มีบทบาทสำคัญในการช่วยทำอิมัลชันเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนเข้ากับเฟสน้ำ ทำให้เกิดเนื้อครีมเจลที่คงตัว แม้ว่า Oleth-10 อาจไม่มีจำหน่ายโดยตรง แต่อิมัลซิไฟเออร์ชนิดไม่มีประจุที่คล้ายกัน เช่น Oleth-5 หรือ Ceteareth-10 มีจำหน่ายและอาจนำมาใช้ทดแทนได้ แต่ต้องมีการทดสอบเพื่อหาความเหมาะสมและระดับการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับสูตรของคุณโดยเฉพาะ
• Sodium Polyaspartate: จากฐานข้อมูลส่วนผสมเครื่องสำอาง Sodium Polyaspartate เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและสารสร้างฟิล์ม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและให้ความรู้สึกเรียบเนียน จากการค้นหาของเราไม่พบรายการ Sodium Polyaspartate โดยตรง ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการให้ความชุ่มชื้นและปรับปรุงความรู้สึกบนผิว ได้แก่ Sodium Hyaluronate และ Glycerin ซึ่งมีอยู่ในสูตรเดิมแล้ว
• Sorbitol: สารให้ความชุ่มชื้นและปรับปรุงเนื้อสัมผัสที่ช่วยในการกักเก็บความชื้นและความรู้สึกของผลิตภัณฑ์ "Sorbitol Solution 70%" มีจำหน่ายและเหมาะสำหรับใช้ในสูตรของคุณ

คำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำสูตร

1. เปอร์เซ็นต์ของ Dimethicone และ Trisiloxane: ไม่สามารถระบุเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนของ Dimethicone และ Trisiloxane ในสูตร Clinique เดิมได้จากรายการส่วนผสมเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม การที่ส่วนผสมเหล่านี้อยู่ในลำดับต้น ๆ ของรายการ แสดงว่ามีปริมาณมาก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อเนื้อสัมผัสที่บางเบา เรียบเนียน และซึมซาบเร็ว Dimethicone (มีหลายความหนืดให้เลือก) เป็นสารให้ความนุ่มลื่นหลัก และ Trisiloxane เป็นซิลิโคนชนิดบางเบาที่ระเหยง่าย ซึ่งช่วยเพิ่มการเกลี่ยและให้ความรู้สึกไม่เหนอะหนะ คุณจะต้องทดลองใช้เปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกัน โดยน่าจะเริ่มต้นด้วย Dimethicone เป็นส่วนประกอบหลักรองจากน้ำ และ Trisiloxane ในปริมาณที่น้อยกว่าเพื่อเพิ่มความบางเบาและการระเหยอย่างรวดเร็ว
2. การเพิ่ม QuikBlur™: ใช่ การเพิ่ม QuikBlur™ (Polymethylsilsesquioxane Solution) เป็นการเพิ่มอนุพันธ์ของซิลิโคนลงในสูตรของคุณ จะช่วยเสริมผลในการเบลอ (blurring effect) และให้ความรู้สึกเนียนนุ่ม ไม่เหนอะหนะบนผิว ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะเนื้อสัมผัสที่ต้องการ
3. อิมัลซิไฟเออร์อื่น ๆ สำหรับซิลิโคน: แม้ว่า Pro Polymer™ (Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer) จะทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้นและช่วยคงตัวโครงสร้างเจล แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ใช่เป็นอิมัลซิไฟเออร์หลักสำหรับซิลิโคนในปริมาณมากในสูตรที่มีน้ำเป็นเบส สูตรดังกล่าวน่าจะใช้อิมัลซิไฟเออร์อื่น ๆ เช่น Hydrogenated Lecithin และอาจเป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (เช่น Oleth-10 หรือตัวเลือกอื่น ๆ ที่มีจำหน่าย เช่น Oleth-5 หรือ Ceteareth-10) เพื่อช่วยกระจายเฟสซิลิโคนในเฟสน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ส่วนผสมเหล่านี้ร่วมกันจะช่วยให้ได้อิมัลชันที่คงตัว

คำแนะนำการใช้ Pro Polymer™

Pro Polymer™ เป็นสารเพิ่มความข้นที่สร้างเจลได้ เพื่อให้ได้เนื้อครีมเจลที่บางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่เหนอะหนะ ซึ่งสามารถรวมซิลิโคนได้ คุณควรเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นของ Pro Polymer™ ในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยน่าจะอยู่ในช่วง 0.8% ถึง 1.5% เปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับส่วนประกอบทั้งหมดของสูตรของคุณ โดยเฉพาะปริมาณซิลิโคนและน้ำมันอื่น ๆ และความหนืดสุดท้ายที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมควบคู่ไปกับ Pro Polymer™ เพื่อให้แน่ใจว่าซิลิโคนถูกทำอิมัลชันได้ดีและสูตรมีความคงตัว การทดลองเป็นสิ่งสำคัญในการหาสมดุลที่เหมาะสมสำหรับเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ Pro Polymer™ ที่ต่ำกว่าและค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนกว่าจะได้ความสม่ำเสมอของเจลและความรู้สึกที่ต้องการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบอิมัลซิไฟเออร์ของคุณแข็งแรงพอที่จะรองรับปริมาณซิลิโคนได้