คำถาม

หลายครั้งที่ลองผสมผลิตภัณฑ์ใช้เองแล้วพบว่าไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่ก็เลือกส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิวแล้ว

สิ่งที่มักพบกับการทดลองใช้คือหน้าจะไม่ได้ดีขึ้น แต่มักมีสิวอุดตันเกิดขึ้น (ทั้งๆ ที่ปกติเป็นคนไม่มีสิวประเภทนี้) ช่วงที่ทดลองสูตรนั้นสูตรนี้อยู่เป็นปี ทำมาแล้วกว่า 50 สูตร ทดลองทำมาเป็น 100 ครั้ง ในระยะเวลาเกือบ 3 ปี หน้าก็เผชิญกับความขึ้นๆลงๆของสภาพผิว จนวันนี้ต้องพักการใช้ครีมที่ตัวเองทำ แล้วกลับไปใช้ skincare เคาเตอร์แบรนด์ก็รู้สึกว่าหน้ากลับคืนสภาพที่ดีขึ้น

ถามว่าจะหยุดทำไหม...ก็คงยังไม่หยุด แต่กำลังหาสาเหตุว่าเพราะอะไร

ข้อสันนิษฐานแรก: ความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ทุกสิ่งอย่างรึเปล่า ซึ่งก็ใช้แอลกอฮอล์ฉีดพ่นทุกชิ้น แล้วเช็ดให้แห้งก่อนใช้ มันถูกต้องไหม ได้ search หาบางที่แนะนำให้แช่อุปกรณ์ใน 5% bleach solution แล้วทิ้งไว้ให้แห้งก่อนใช้...อันนี้ใช่ไหม และจะหาซื้อได้ที่ไหน

หรือมีข้อสันนิษฐานอื่นที่เป็นไปได้

คำตอบ

ทำความเข้าใจปัญหาการเกิดสิวในการทำเครื่องสำอางใช้เอง

เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่คุณได้ทุ่มเทเวลาและความพยายามอย่างมากในการสร้างสรรค์สูตรสกินแคร์ของคุณเอง กระบวนการนี้มีความซับซ้อน และการพบปัญหาผิวที่ไม่คาดคิด เช่น สิวอุดตัน เป็นความท้าทายที่พบบ่อยในการทำเครื่องสำอาง DIY

มาสำรวจสาเหตุที่เป็นไปได้สำหรับปัญหานี้กัน:

1. การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ

การรักษาสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ให้สะอาดปราศจากเชื้อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำเครื่องสำอาง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การระคายเคืองผิวและการเกิดสิว แม้ว่าการฉีดพ่นแอลกอฮอล์บนอุปกรณ์จะเป็นขั้นตอนที่ดีสำหรับการฆ่าเชื้อบนพื้นผิว แต่อาจไม่เพียงพอสำหรับการฆ่าเชื้อแบบสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอุปกรณ์ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงก่อน หรือหากมีรูปทรงที่ซับซ้อนซึ่งทำให้แอลกอฮอล์เข้าไม่ถึงและแห้งไม่สนิท

การแช่อุปกรณ์ในสารละลายคลอรีน (Bleach) 5% เป็นวิธีที่เข้มข้นกว่าในการฆ่าเชื้อ ซึ่งมักใช้ในห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม การใช้คลอรีนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากมีฤทธิ์กัดกร่อน และจำเป็นต้องล้างออกให้สะอาดหมดจดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้าง เนื่องจากสารตกค้างของคลอรีนอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้มาก สำหรับการทำสูตรใช้เองที่บ้าน วิธีที่ปฏิบัติได้คือการทำความสะอาดอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยผงซักฟอกและน้ำให้สะอาด ล้างออกให้หมดจด จากนั้นฆ่าเชื้อโดยการแช่หรือฉีดพ่นด้วยไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอล 70% และปล่อยให้อุปกรณ์ทั้งหมดแห้งสนิทในอากาศก่อนนำไปใช้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ทำงานของคุณสะอาดด้วยเช่นกัน

2. การเลือกส่วนผสมและการอุดตันรูขุมขน (Comedogenicity)

แม้แต่ส่วนผสมที่ถือว่า "อ่อนโยน" ก็อาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้สำหรับบางคน น้ำมัน แว็กซ์ เอสเทอร์ และสารเพิ่มความข้นบางชนิดเป็นที่ทราบกันดีว่ามีแนวโน้มในการอุดตันรูขุมขนสูง แม้ว่าส่วนผสมเดี่ยวๆ อาจดูเหมือนไม่เป็นปัญหา แต่การผสมผสานในสูตรอาจเพิ่มโอกาสในการอุดตันรูขุมขนได้ การตรวจสอบระดับการอุดตันรูขุมขนของส่วนผสมแต่ละชนิดในสูตรของคุณอาจเป็นประโยชน์ แม้ว่าระดับเหล่านี้จะไม่ใช่ค่าสัมบูรณ์และอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

3. ปัญหาในการปรุงสูตร

หลายๆ ด้านของสูตรเองอาจมีส่วนทำให้เกิดสิวได้:

การขาดสารกันเสียที่เหมาะสม: ผลิตภัณฑ์ทำเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีส่วนประกอบของน้ำ มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา การใช้สารกันเสียที่ไม่เพียงพอหรือไม่ถูกต้องจะทำให้จุลินทรีย์เพิ่มจำนวน ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบ และสิวได้
อัตราส่วนส่วนผสมที่ไม่ถูกต้องหรือปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสม: ความเข้มข้นของส่วนผสมออกฤทธิ์ ความสมดุลของน้ำมันและน้ำ และปฏิกิริยาระหว่างส่วนประกอบต่างๆ สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความคงตัว เนื้อสัมผัส และความเข้ากันได้กับผิวของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป อัตราส่วนที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่สูตรที่ตกค้างบนผิว อุดตันรูขุมขน หรือทำให้เกิดการระคายเคือง
ระดับ pH: ค่า pH ของผลิตภัณฑ์สกินแคร์มีความสำคัญต่อสุขภาพผิวและประสิทธิภาพของส่วนผสม ค่า pH ที่สูงหรือต่ำเกินไปสามารถรบกวนเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว นำไปสู่การระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิว
คุณภาพของส่วนผสม: ความบริสุทธิ์และคุณภาพของวัตถุดิบอาจแตกต่างกันไป การใช้ส่วนผสมเกรดเครื่องสำอางจากซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ

4. การทดลองมากเกินไป

การทดสอบสูตรมากกว่า 50 สูตรในระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้น หมายความว่าผิวของคุณได้สัมผัสกับส่วนผสมและสูตรที่หลากหลาย การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนี้อาจทำให้เกราะป้องกันผิวเครียดและนำไปสู่ความไวต่อการระคายเคืองและการเกิดสิว เมื่อคุณกลับไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรสำเร็จรูปจากเคาน์เตอร์แบรนด์ ผิวของคุณอาจได้รับประโยชน์จากความสม่ำเสมอและสูตรที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมแล้ว

ข้อแนะนำ:

ปรับปรุงการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง ตามด้วยการฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ (เช่น แอลกอฮอล์ 70%) และการทำให้อุปกรณ์และพื้นที่ทำงานแห้งสนิท
ทบทวนส่วนผสม: ศึกษาศักยภาพในการอุดตันรูขุมขนของส่วนผสมแต่ละชนิดในสูตรของคุณ พิจารณาการทำสูตรให้เรียบง่ายขึ้น
ให้ความสำคัญกับการใช้สารกันเสีย: หากสูตรของคุณมีส่วนประกอบของน้ำ การใช้สารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัยและสุขภาพผิว
ตรวจสอบค่า pH: หากเป็นไปได้ ให้ทดสอบและปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของคุณให้เข้ากันได้กับผิว (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 4.5 ถึง 5.5)
เริ่มจากสูตรที่เรียบง่ายและทดสอบทีละน้อย: เมื่อพัฒนาสูตรใหม่ ให้เริ่มจากสูตรที่เรียบง่ายและค่อยๆ เพิ่มส่วนผสมใหม่ ทดสอบสูตรใหม่ในบริเวณเล็กๆ ของผิวก่อนนำไปใช้ทั่วใบหน้า

เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณยังคงมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์สูตรที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อผิวได้มากขึ้น