คำถาม

รบกวนตรวจสอบสูตร Anti-Aging Serum สำหรับผิวมันของผมหน่อยครับ ผมอายุ 40 ปี มีปัญหาผิวมันและริ้วรอยตามวัยครับ

ส่วนผสมของเซรั่มมีดังนี้ครับ:

Repair Activator 20%
Ectoine 2%
DMAE 3%
Panthenol B5 5%
Pure-EGCG 2%
Licochalcone A 2%
Zinc PCA 1%
Dimethyl Isosorbide (DMI) 3%
Pro Polymer 2%
Pitera 60%

เนื่องจากทำใช้เองแบบบ้านๆ ไม่มีเครื่องปั่น ไม่มีเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ เลยเลือกใช้สารที่ละลายน้ำทั้งหมดครับ

คำถามครับ:

ส่วนผสมเหล่านี้มีตัวใดไม่เข้ากันมั้ยครับ
วิธีการผสมคือ เบอร์ 10 (Pitera) + 9 (Pro Polymer) คนให้เป็นเจล จากนั้นใส่เบอร์ 1 ถึง 8 (ยกเว้นเบอร์ 3 และ 7) คนให้เข้ากัน แล้วใส่ 3 (DMAE) กับ 7 (Zinc PCA) เป็นลำดับสุดท้าย คนให้เข้ากัน ไม่ทราบว่าวิธีนี้เหมาะสมหรือไม่ครับ
ไม่แน่ใจเรื่อง Pro Polymer ครับว่าควรใส่มากน้อยขนาดไหน อยากได้ Serum ที่ไม่เหลวเป็นน้ำหรือเหลวเกินไปน่ะครับ
DMI จำเป็นกับ active ingredients เหล่านี้มั้ยครับ

คำตอบ

การตรวจสอบสูตร Anti-Aging Serum สำหรับผิวมันของคุณ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตร Anti-Aging Serum สำหรับผิวมันของคุณ สูตรนี้มีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ดีที่มุ่งเป้าไปที่สัญญาณแห่งวัยและความมันของผิว นี่คือการตรวจสอบสูตรของคุณและคำตอบสำหรับคำถามของคุณ:

1. ความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ส่วนผสมที่คุณเลือกโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีในสูตรเซรั่มแบบน้ำ ส่วนใหญ่ละลายน้ำได้และสามารถนำมารวมกันได้

Pro Polymer และ Zinc PCA: Pro Polymer ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ แต่การมีอิเล็กโทรไลต์อย่าง Zinc PCA อาจส่งผลต่อความสามารถในการสร้างความหนืด และอาจต้องใช้ Pro Polymer ในปริมาณที่สูงขึ้นและลำดับการผสมที่เฉพาะเจาะจง (เติมอิเล็กโทรไลต์หลังจากที่เจลก่อตัวแล้ว) วิธีการผสมที่คุณเสนอมานั้นสอดคล้องกับข้อนี้
ระดับ pH: ช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมของคุณโดยทั่วไปจะทับซ้อนกัน การตั้งเป้าให้ pH สุดท้ายอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 จะเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับความสามารถในการละลายและประสิทธิภาพของ Zinc PCA
ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูง: สูตรนี้มีความเข้มข้นของ Pitera (60%) และ Repair Activator (20%) ที่สูงมาก แม้ว่าความเข้มข้นที่สูงเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพ แต่ระดับที่สูงดังกล่าวอาจทำให้เซรั่มรู้สึกหนักหรือเหนียวเล็กน้อยบนผิว ซึ่งอาจเป็นข้อควรพิจารณาสำหรับสภาพผิวที่มัน

2. วิธีการผสม

วิธีการผสมที่คุณเสนอมานั้นเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำใช้เองที่บ้านโดยไม่มีอุปกรณ์พิเศษ:

การผสม Pitera และ Pro Polymer ก่อนเพื่อสร้างเนื้อเจลเป็นวิธีที่ดี ควรค่อยๆ โรยผง Pro Polymer ลงบนของเหลว (Pitera) และคนช้าๆ เพื่อให้มันดูดซับน้ำและข้นขึ้นโดยไม่จับตัวเป็นก้อนหรือทำลายโครงสร้างของโพลิเมอร์
การเติมส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้ (Repair Activator, Ectoine, Panthenol B5, Pure-EGCG, Dimethyl Isosorbide) ถัดไปก็เหมาะสม
การเติม DMAE และ Zinc PCA ในลำดับสุดท้ายนั้นถูกต้อง Zinc PCA เป็นอิเล็กโทรไลต์ที่ควรเติมหลังจากที่เจลก่อตัวแล้ว และ DMAE ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้คนอย่างทั่วถึงแต่เบาๆ ในแต่ละขั้นตอนเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี

3. ปริมาณ Pro Polymer

คุณใช้ Pro Polymer ที่ 2% อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับเนื้อเจลทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 0.8% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสูตรของคุณมีอิเล็กโทรไลต์ (Zinc PCA) และส่วนผสมอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างความหนืด (เช่น Pitera และ Repair Activator) การใช้ 2% จึงเป็นปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่ไม่เหลวเกินไป อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-5%) และควรให้ความหนืดที่เพียงพอเมื่อพิจารณาจากส่วนประกอบของสูตร

4. ความจำเป็นของ DMI

Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นสารช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว แม้ว่าส่วนผสมออกฤทธิ์ของคุณจะละลายน้ำได้และสามารถละลายได้โดยไม่มี DMI แต่การใส่ DMI ที่ 3% สามารถช่วยปรับปรุงการนำพาและการดูดซึมของสารออกฤทธิ์เหล่านี้เข้าสู่ผิวได้ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารเหล่านั้นได้ ไม่จำเป็นต้องมี DMI เพื่อให้สูตรคงตัวหรือผสมได้ แต่มีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์ เช่น Zinc PCA, Ectoine, Panthenol และอื่นๆ ในสูตรของคุณ

โดยรวมแล้ว สูตรของคุณได้รับการออกแบบมาอย่างดีด้วยส่วนผสมที่ทรงพลังในการต่อต้านริ้วรอยและควบคุมความมัน ควรใส่ใจกับเนื้อสัมผัสสุดท้ายเนื่องจากความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่สูง และตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH อยู่ในช่วงที่เหมาะสมหลังจากผสมแล้ว