การพัฒนาสูตรเซรั่มวิตามินซี: Phospholipid, อิมัลซิไฟเออร์, EDTA และการดูดซึม

ถามโดย: kittinaovarat เมื่อ: October 01, 2022 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการพัฒนาสูตรเซรั่มวิตามินซี และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมพวก Vitamin C serum โดยสูตรมีประมาณนี้ครับ:

  • สารสร้างเนื้อ (รวม 1.5%): Pectin, Xanthan, Iota Carrageenan
  • ส่วนของน้ำมัน (รวมประมาณ 10%): Sunflower Seed Oil, Sacha Inchi Oil
  • ส่วนของน้ำ: Deionized water
  • สารสำคัญ: dl-alpha tocopherol, pure Ferulic Acid, Acetyl L-Tyrosine, Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

หากต้องการใส่ Phospholipid เพื่อช่วยในการดูดซึม มีคำถามดังนี้ครับ:

  1. สามารถใช้ Phospholipid ในสูตรลักษณะนี้ได้หรือไม่? และมีเทคนิคการใช้ Phospholipid อย่างไร?
  2. จำเป็นต้องใส้ Emulsifier ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรมั้ยครับ?
  3. เนื่องจากสูตรมีส่วนประกอบของ Perfect-C™ จำเป็นต้องเติม Disodium EDTA เพื่อให้คงตัวหรือไม่?
  4. พอดีอยากให้สูตรเนื้อบางเบาและดูดซึมไว มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมมั้ยครับ?

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการทำเซรั่มวิตามินซี

นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับสูตรเซรั่มวิตามินซีของคุณครับ:

  1. การเพิ่ม Phospholipid เพื่อช่วยในการดูดซึม: แม้ว่า Phospholipid จะมีคุณสมบัติที่ทราบกันดีว่าสามารถช่วยเพิ่มการนำส่งและการดูดซึมสารออกฤทธิ์ได้ แต่ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับชนิดของ Phospholipid ที่ใช้และสูตรโดยรวมอย่างมาก ในสูตรปัจจุบันของคุณซึ่งเป็นเจลที่ข้นด้วยกัม (Pectin, Xanthan, Iota Carrageenan) และมีส่วนของน้ำมัน การผสม Phospholipid ให้มีประสิทธิภาพอาจต้องใช้เทคนิคการทำสูตรเฉพาะ เช่น การทำ Liposomes หรือระบบนำส่งอื่นๆ หากไม่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ Phospholipid ที่เฉพาะเจาะจง ก็ยากที่จะให้คำแนะนำเทคนิคการใช้ที่แม่นยำ โดยทั่วไปแล้ว จะผสมในส่วนของน้ำหรือน้ำมันขึ้นอยู่กับชนิดของมัน แล้วจึงนำไปผ่านกระบวนการที่เหมาะสม (เช่น การใช้คลื่นเสียง) เพื่อสร้างโครงสร้างที่ต้องการ

  2. ความจำเป็นในการใช้ Emulsifier: ใช่ครับ คุณจำเป็นต้องใช้ Emulsifier อย่างแน่นอน สูตรของคุณมีทั้งส่วนของน้ำ (น้ำ deionized, สารสร้างเนื้อ, สารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำ) และส่วนของน้ำมัน (Sunflower Seed Oil, Sacha Inchi Oil, dl-alpha tocopherol, Perfect-C™) กัมต่างๆ เช่น Pectin, Xanthan และ Iota Carrageenan เป็นสารสร้างเนื้อในส่วนของน้ำ และไม่สามารถสร้างส่วนผสมที่เสถียรระหว่างน้ำกับน้ำมันได้ Emulsifier จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการเชื่อมส่วนของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกันเพื่อป้องกันการแยกชั้น และสร้างเนื้อเซรั่มหรือโลชั่นที่เสถียร

  3. Disodium EDTA กับ Perfect-C™: ใช่ครับ แนะนำให้ใส่ Disodium EDTA ในสูตรของคุณเมื่อใช้ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสูตรของคุณมีส่วนของน้ำ จากข้อมูลของ Perfect-C™ แนะนำให้เติม Disodium EDTA ที่ความเข้มข้น 0.2% หากมีน้ำเป็นส่วนประกอบในสูตร มันจะช่วยจับไอออนของโลหะในน้ำซึ่งอาจทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพได้ จึงช่วยรักษาความเสถียรของ Perfect-C™ ครับ

  4. คำแนะนำสำหรับสูตรที่ซึมไว: Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งทราบกันดีว่ามีการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดี เพื่อเพิ่มความรู้สึกโดยรวมว่าเซรั่มซึมไว ลองพิจารณาดังนี้:

    • การเลือก Emulsifier: เลือก Emulsifier ที่ให้ความรู้สึกบางเบา ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะหรือมันบนผิว
    • ส่วนของน้ำมัน: แม้ว่า Sunflower Seed Oil และ Sacha Inchi Oil จะค่อนข้างบางเบา แต่เปอร์เซ็นต์รวมของน้ำมัน (10%) และการเลือก Emulsifier จะส่งผลอย่างมากต่อความรู้สึกบนผิวและความเร็วในการซึม
    • เนื้อสัมผัส: การรวมกันของ Pectin, Xanthan และ Iota Carrageenan สามารถสร้างเนื้อสัมผัสได้หลากหลาย ตั้งแต่เจลไปจนถึงเซรั่มที่ข้นขึ้น การปรับอัตราส่วนและเปอร์เซ็นต์รวมของสารสร้างเนื้อสามารถส่งผลต่อการเกลี่ยและความรู้สึกว่าซึมเร็ว เนื้อเจล-เซรั่มที่บางเบามักจะให้ความรู้สึกซึมเร็วกว่าครีมที่ข้น

สรุปคือ คุณจะต้องใช้ Emulsifier เพื่อรวมส่วนของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกัน การเติม Disodium EDTA แนะนำสำหรับความเสถียรของ Perfect-C™ ส่วน Phospholipid สามารถช่วยเรื่องการดูดซึมได้ แต่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการผสม และ Perfect-C™ เองก็มีการดูดซึมที่ดีอยู่แล้วเนื่องจากละลายในน้ำมัน การปรับระบบ Emulsifier และสารสร้างเนื้อของคุณสามารถช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่ซึมไวขึ้นครับ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
เครื่องสำอาง