พิจารณาสูตรครีมลดฝ้าแบบล้างออก
คำถาม
ต้องการทดสอบสูตรครีมลดฝ้าแบบล้างออกก่อนสั่งผลิตค่ะ ทดลองใช้ครีมตามท้องตลาดแล้วฝ้าไม่หาย มีแต่จางลง ทั้งที่ลดการเจอแดดและทากันแดดวันละ 3 รอบ ฝ้าก็ยังคงเดิม รบกวนตรวจสอบส่วนผสมให้หน่อยค่ะ ว่ายังขาดอะไรอีกบ้าง หรือต้องเพิ่มตัวไหนเข้าไปอีก สูตรมีดังนี้:
- Water 75%
- Shea butter water 10%
- Cysteamine HCL 5%
- Ethly ascorbic acid 3%
- Mild Preseved Eco 2%
- Satin Cream Maker 2%
- Odor-Kill 1%
- ActiveProtec OX 0.05%
การทดสอบของครีมตัวนี้เป็นแบบล้างออก จึงไม่ได้ใส่สารบำรุงอะไรมาก ต้องการผลที่ได้จากการใช้จริงๆ ถ้าทดสอบแล้วว่าเนื้อครีมน่าใช้ ก็จะสั่งผลิตค่ะ แต่ต้องทดสอบด้วยตัวเองก่อนค่ะ
เคยสั่งผลิตเป็นแบบบำรุงผิว (เซราไมด์) ใช้ดีกว่าไปซื้อใช้เยอะ เพราะบางยี่ห้อใส่น้ำหอมมาซึ่งเราไม่ต้องการน้ำหอมค่ะ
คำตอบ
การพิจารณาสูตรเพื่อลดฝ้า (แบบล้างออก)
จากเป้าหมายของคุณที่ต้องการลดฝ้าด้วยครีมแบบล้างออกและสูตรที่คุณให้มา นี่คือการพิจารณาและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุง:
สูตรปัจจุบันของคุณมีส่วนผสมหลักที่มีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า ได้แก่:
- Cysteamine HCL (5%): เป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพสูงในการรักษาฝ้า และ 5% เป็นความเข้มข้นสูงสุดที่มีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาเฉพาะจุด ซึ่งมักใช้ในผลิตภัณฑ์แบบล้างออก การใส่ในปริมาณนี้เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ
- Ethyl Ascorbic Acid (3%): เป็นวิตามินซีรูปแบบคงตัวที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดเม็ดสีเมลานิน 3% เป็นอัตราส่วนที่แนะนำให้ใช้
ส่วนผสมอื่นๆ เช่น Satin Cream Maker ช่วยให้ได้เนื้อครีม, Mild Preserved Eco ทำหน้าที่เป็นสารกันเสีย และ Odor-Kill ช่วยจัดการกลิ่นฉุนของ Cysteamine HCL
ข้อควรพิจารณาและปรับปรุง:
- ความเข้มข้นของ ActiveProtec OX: คุณใช้ ActiveProtec OX ที่ 0.05% ส่วนผสมนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้สารออกฤทธิ์ที่ไวต่อการเสื่อมสภาพ เช่น Cysteamine HCL และ Ethyl Ascorbic Acid มีความคงตัว โดยเฉพาะในสูตรที่เป็นเบสน้ำ อัตราส่วนที่แนะนำสำหรับการปกป้องสารออกฤทธิ์ที่คล้ายคลึงกันโดยทั่วไปคือ 0.1-1.0% โดยมักแนะนำที่ 0.5-0.6% การเพิ่ม ActiveProtec OX เป็นอย่างน้อย 0.5% จะช่วยเพิ่มความคงตัวและอายุการเก็บรักษาของสารออกฤทธิ์ของคุณได้อย่างมาก
- ค่า pH ของสูตร: ประสิทธิภาพและความคงตัวของ Cysteamine HCL และ Ethyl Ascorbic Acid ขึ้นอยู่กับค่า pH Ethyl Ascorbic Acid ทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH 3.5-6.0 แม้ว่า Cysteamine HCL จะมีความคงตัวต่ำในน้ำ การทำให้แน่ใจว่าค่า pH โดยรวมของสูตรอยู่ในช่วงที่เหมาะสม (โดยเฉพาะ 3.5-6.0) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ทั้งสอง คุณควรตรวจสอบค่า pH สุดท้ายของสูตรและปรับหากจำเป็น
- สารออกฤทธิ์เพิ่มเติมที่เป็นไปได้: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดฝ้า คุณอาจพิจารณาเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์แบบล้างออกที่มีสารออกฤทธิ์ที่มีศักยภาพสูง:
- Alpha Arbutin (สูงสุด 2%): ทำงานโดยการยับยั้งการสร้างเม็ดสี หากเพิ่ม Alpha Arbutin ควรแน่ใจว่ามี ActiveProtec OX อย่างน้อย 0.6% เพื่อความคงตัว
- Tranexamic Acid (สูงสุด 3%): ช่วยลดการสร้างเม็ดสีที่เกิดจากแสงแดด หากเพิ่ม Tranexamic Acid ควรแน่ใจว่ามี ActiveProtec OX อย่างน้อย 0.5% เพื่อความคงตัว
- ข้อควรทราบ: Niacinamide (วิตามินบี 3) แม้จะดีสำหรับปัญหาจุดด่างดำ แต่โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ในสูตรที่มี Ethyl Ascorbic Acid
- "Shea butter water": หาก "Shea butter water" หมายถึงส่วนผสมในส่วนของน้ำมัน เช่น Shea Butter ปริมาณ 10% ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเนื้อครีมเมื่อใช้ Satin Cream Maker
เนื่องจากเป็นสูตรแบบล้างออก การเน้นที่ประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม การทำให้แน่ใจว่าสารออกฤทธิ์เหล่านี้มีความคงตัวโดยการปรับความเข้มข้นของ ActiveProtec OX และตรวจสอบค่า pH เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนดำเนินการผลิต การทดสอบเนื้อสัมผัสและความรู้สึกในการใช้ก็มีความสำคัญเช่นกันตามที่คุณกล่าวถึง
ประสบการณ์ที่ดีของคุณกับผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์ก่อนหน้านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของคุณภาพของสูตรและความเข้ากันได้ของส่วนผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลีกเลี่ยงสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น เช่น น้ำหอม หากคุณไม่ต้องการ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Satin Cream Maker™

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Tranexamic Acid (Trans-White™)

Odor-Kill™

ActiveProtec™ OX
