การพิจารณาสูตรเอสเซ็นบำรุงผิวหน้า

เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณกำลังวางแผนทำเอสเซ็นบำรุงผิวหน้าด้วยตัวเองค่ะ รายการส่วนผสมของคุณเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มีส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหลายชนิด ทั้งด้านความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว

คุณถามเกี่ยวกับ Xanthan Gum จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ (เช่น Product ID 216 ชนิดเจลใส) Xanthan Gum เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเอสเซ็นของคุณค่ะ ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้นและสารคงตัวจากธรรมชาติ ช่วยให้เอสเซ็นของคุณมีเนื้อสัมผัสที่ต้องการ และช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ กระจายตัวได้ดีทั่วทั้งสูตร การใช้ Xanthan Gum จะช่วยให้คุณได้เนื้อสัมผัสที่ข้นขึ้นแบบเอสเซ็นอย่างแน่นอนค่ะ

มาดูส่วนผสมอื่นๆ ที่คุณใส่ไว้ในสูตรนะคะ:

• เฟส A:
  • DI Water: น้ำบริสุทธิ์ที่เป็นเบสหลักของคุณ
  • Disodium EDTA (Product ID 184): สารคีเลตที่ช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตรโดยการจับกับไอออนของโลหะในน้ำ
• เฟส B:
  • Chamomile Ex. และ Litchi Ex.: สารสกัดที่มักใส่เพื่อคุณสมบัติปลอบประโลมและต้านอนุมูลอิสระ
• เฟส C:
  • Propylene Glycol (Product ID 138): ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (ดึงน้ำเข้าสู่ผิว) และตัวทำละลาย ปริมาณ 0.3% ที่คุณวางแผนไว้อาจจะน้อยไปสำหรับคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นที่ชัดเจน มักใช้ในปริมาณที่สูงกว่านี้ (1-20%)
  • Panthenol (Product ID 111 / 6873): Pro-Vitamin B5 เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวที่รู้จักกันดี ดีเยี่ยมสำหรับความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว
  • Cucumber EX. (Product ID 219): สารสกัดอีกตัวที่ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น
  • Glycerin (Product ID 143): สารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
• เฟส D:
  • Xanthan Gum (Product ID 216): สารเพิ่มความข้นที่คุณเลือกใช้ ปริมาณที่ใช้จะกำหนดความข้นของเนื้อเจลสุดท้าย (โดยทั่วไปใช้ 0.1-2%)
• เฟส E:
  • Rose Water (Product ID 1255): เพิ่มกลิ่นหอมที่น่าใช้และอาจมีคุณสมบัติปลอบประโลมผิวเล็กน้อย โปรดทราบว่าผลิตภัณฑ์นี้มีสารกันเสียผสมอยู่
• เฟส F:
  • Ethylhexylglycerin (Product ID 642): มักใช้เป็นสารเสริมประสิทธิภาพของสารกันเสียและสารให้ความชุ่มชื้น ที่ 0.1% อาจไม่เพียงพอสำหรับการกันเสียที่สมบูรณ์ด้วยตัวเอง

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการทำสูตร:

1. การผสม Xanthan Gum: เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน ให้กระจาย Xanthan Gum ใน Glycerin หรือ Propylene Glycol เล็กน้อยก่อนเติมลงในเฟสน้ำ คนหรือปั่นอย่างแรงจนกว่าจะละลายและขึ้นเจลอย่างสมบูรณ์
2. การกันเสีย: ระบบการกันเสียที่คุณมีอยู่ (Ethylhexylglycerin 0.1% บวกกับสารกันเสียใน Rose Water) อาจไม่เพียงพอสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักและมีสารสกัดหลายชนิด ขอแนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่มระบบสารกันเสียแบบ broad-spectrum ที่สมบูรณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยและมีอายุการใช้งานยาวนาน
3. การปรับค่า pH: หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ให้ตรวจสอบค่า pH ควรอยู่ในช่วงที่เข้ากันได้กับผิว โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 5.0 ถึง 6.0 ปรับหากจำเป็นโดยใช้สารละลายกรดหรือเบสเจือจาง

สูตรของคุณมีศักยภาพที่ดีในการเป็นเอสเซ็นที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว การใส่ใจในการผสม Xanthan Gum ให้ถูกต้องและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการกันเสียที่แข็งแรงเพียงพอจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จค่ะ