การทำคลีนซิ่งออยล์ใช้เอง

การทำคลีนซิ่งออยล์ใช้เองที่คล้ายกับแบรนด์ที่คุณชื่นชอบอย่าง THREE Balancing Cleansing Oil เป็นวิธีที่ดีในการปรับส่วนผสมและอาจช่วยลดต้นทุนได้ จากส่วนผสมที่คุณระบุและสูตรที่คุณเสนอ นี่คือคำแนะนำที่จะช่วยคุณได้ค่ะ

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับส่วนผสม

• น้ำมันมิเนอรัลกับน้ำมันธรรมชาติกับการอุดตัน: น้ำมันมิเนอรัลเกรดเครื่องสำอางที่ผ่านการกลั่นมาอย่างดีโดยทั่วไปถือว่าไม่อุดตัน (non-comedogenic) และปลอดภัยต่อผิว ความเข้าใจผิดที่ว่าน้ำมันมิเนอรัลอุดตันรูขุมขนมากกว่าน้ำมันธรรมชาติมักเกิดจากการทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ การทำความสะอาดที่ถูกต้องเพื่อขจัดสิ่งตกค้างทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะใช้น้ำมันชนิดใด น้ำมันธรรมชาติมีความแตกต่างกันในเรื่องการอุดตัน ดังนั้นการเลือกน้ำมันที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้ส่วนผสมของน้ำมันมิเนอรัลหรือ LipidSoft™ ที่คุ้มค่ากับน้ำมันธรรมชาติอื่นๆ เพื่อปรับสมดุลระหว่างต้นทุนและคุณประโยชน์
• Propylene Glycol กับ Butylene Glycol: ทั้งสองชนิดเป็นสารให้ความชุ่มชื้นและตัวทำละลายที่นิยมใช้ในเครื่องสำอาง งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า Butylene Glycol อาจระคายเคืองน้อยกว่า Propylene Glycol สำหรับบางคน ทำให้เป็นที่นิยมในผลิตภัณฑ์ราคาสูงหรือสำหรับผิวแพ้ง่าย แม้ว่า Propylene Glycol ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายและถือว่าปลอดภัยในความเข้มข้นที่ใช้ในเครื่องสำอาง Butylene Glycol โดยทั่วไปมีราคาสูงกว่า ในสูตรของคุณ สามารถใช้ได้ทั้งสองชนิด ขึ้นอยู่กับความชอบและข้อควรพิจารณาเรื่องความแพ้ง่าย
• LipidSoft™ ชนิดต่างๆ: LipidSoft™ Palm, LipidSoft™ CC และ LipidSoft™ Moist เป็น Emollient ที่เหมาะสมสำหรับคลีนซิ่งออยล์ ทั้งหมดมีผลต่อเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ เลือกชนิดที่คุณชอบ – Palm ให้ความรู้สึกมาตรฐาน, CC ให้ความรู้สึกแห้ง/นุ่มลื่น, และ Moist ให้ความรู้สึกเข้มข้น/ชุ่มชื้นกว่า
• สารทดแทน PEG-20 Glyceryl Triisostearate / PEG-12 Isostearate: Oilsify 15 คือ PEG-20 Glyceryl Triisostearate หากคุณต้องการสารทดแทน ให้มองหา Emulsifier หรือ Solubilizer ที่ละลายในน้ำมันชนิดไม่มีประจุอื่นๆ เช่น Polyglyceryl-2 Triisostearate หรือ Polyglyceryl-2 Diisostearate แต่อาจต้องทดสอบประสิทธิภาพ
• Propylene Glycol / 1,2-Hexanediol: 1,2-Hexanediol สามารถใช้แทน Propylene Glycol ได้ มีคุณสมบัติเป็น Humectant และตัวทำละลายคล้ายกัน และยังมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งจุลชีพเล็กน้อย ซึ่งเป็นประโยชน์ สามารถใช้แทนกันได้โดยทั่วไป

สูตรและสัดส่วนที่คุณปรับปรุง

สูตรที่คุณปรับปรุงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี โดยได้ปรับลดส่วนผสมที่อาจทำให้ข้นหรือตกตะกอนในปริมาณสูง (เชียบัตเตอร์, ขี้ผึ้ง, เลซิตินจากถั่วเหลือง) และปรับวิตามินซี Ester แล้ว สัดส่วนของน้ำมันและ Oilsify 15 น่าจะทำให้ได้คลีนซิ่งออยล์ที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด

โปรดทราบว่าน้ำมันแฟลกซ์ซีด (Flaxseed Oil) มีแนวโน้มที่จะเกิดออกซิเดชันได้ง่าย ควรเก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในภาชนะที่ปิดสนิท ป้องกันแสงและความร้อน และพิจารณาเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงกว่าวิตามินอี หากต้องการเก็บไว้เป็นเวลานาน

ขั้นตอนการผสม

ขั้นตอนการผสมที่คุณปรับปรุงนั้นถูกต้องแล้ว:

1. รวมส่วนผสมของ Oil Phase หลักและ Oilsify 15 เข้าด้วยกัน
2. นำส่วนผสมนี้ไปอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 75°C เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนประกอบทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนประกอบที่อาจเป็นของแข็งหรือกึ่งของแข็ง หรือต้องการความร้อนในการผสม (เช่น วิตามินซี Ester แม้จะเติมทีหลัง การอุ่นเบสจะช่วยให้ผสมเข้ากันดีขึ้น) ละลายหมดและส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลง
4. เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น วิตามินซี Ester, Tea Tree Oil และวิตามินอี เมื่อส่วนผสมเย็นลงเพียงพอ (อ้างอิงตามคำแนะนำของส่วนผสมแต่ละชนิด โดยทั่วไป วิตามินซี Ester ควรเติมเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 40°C และน้ำมันหอมระเหย/วิตามินอี ควรเติมเมื่ออุณหภูมิใกล้เคียงอุณหภูมิห้อง)

การอุ่นส่วนผสม Oil Phase

การอุ่นส่วนผสม Oil Phase ทำได้โดยใช้วิธีตุ๋น (water bath) นำภาชนะที่มีส่วนผสมน้ำมันวางในภาชนะที่ใหญ่กว่าซึ่งใส่น้ำ แล้วนำไปตั้งไฟ น้ำจะช่วยถ่ายเทความร้อนไปยังส่วนผสมน้ำมันของคุณ ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิของส่วนผสมน้ำมัน อุ่นจนถึงอุณหภูมิที่ต้องการ (เช่น 75°C) และส่วนประกอบที่เป็นของแข็งละลายหมด จากนั้นนำออกจากน้ำร้อนและปล่อยให้เย็นลง พร้อมคนเป็นครั้งคราว การควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมละลาย/ผสมเข้ากันได้ดีโดยไม่ร้อนเกินไป ซึ่งอาจทำให้ส่วนผสมบางชนิดเสื่อมสภาพได้

สารกันเสีย

แม้ว่าสูตรที่เป็นน้ำมันล้วนจะเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของจุลชีพน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำ แต่ก็อาจมีการปนเปื้อนเกิดขึ้นได้ระหว่างการใช้งาน (เช่น น้ำจากมือที่เปียก) Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่ช่วยป้องกันแบคทีเรีย ยีสต์ และเชื้อรา เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการเก็บรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์อาจสัมผัสกับน้ำระหว่างการใช้งาน แนะนำให้ใส่สารกันเสีย หากคุณเลือกที่จะไม่ใส่สารกันเสีย ควรทำในปริมาณน้อยๆ และเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง ยอมรับว่าอายุการเก็บรักษาจะสั้นลงและมีความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพสูงขึ้น

สารทดแทน Oil Blender

ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า Oil Blender (Polyglyceryl-3 Diisostearate) ซึ่งช่วยป้องกันการแยกชั้นของน้ำมัน ขณะนี้สินค้าหมดสต็อกและไม่มีสารทดแทนโดยตรง หากสูตรของคุณเกิดการแยกชั้นโดยไม่มีส่วนผสมนี้ คุณจะต้องเขย่าผลิตภัณฑ์ก่อนใช้งานทุกครั้ง