สูตรเจลหล่อลื่นแบบยืด และความแตกต่างระหว่าง Polyox กับ Snail Resin

ในการสร้างเจลที่มีลักษณะขุ่นและยืดได้เหมือนในภาพ คุณสามารถใช้สารก่อเจลร่วมกับส่วนผสมที่ให้ความยืดหยุ่น เช่น Snail Resin ส่วนลักษณะขุ่นอาจต้องใช้ส่วนผสมเพิ่มเติมที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้

นี่คือสูตรพื้นฐานสำหรับเจลที่ยืดได้:

• น้ำ: ประมาณ 94%
• สารก่อเจล (เช่น Pro Polymer): 1%
• Snail Resin (PEG-90M หรือ PEG-160M): 4%
• สารกันเสีย: ประมาณ 1%

ขั้นตอนการทำ:

1. ทำความร้อนน้ำให้ได้ประมาณ 80°C
2. ค่อยๆ เติมสารก่อเจลและ Snail Resin ลงในน้ำร้อน พร้อมคนหรือปั่นจนละลายหมดและเกิดเป็นเจล
3. เมื่อเย็นลง เติมสารกันเสียและผสมให้เข้ากัน

หมายเหตุ: หากสูตรของคุณมีส่วนผสมของไกลคอล (เช่น Propylene Glycol หรือ Butylene Glycol) อาจละลาย Snail Resin ได้ง่ายขึ้นโดยการนำไปอุ่นกับส่วนผสมไกลคอลก่อนที่อุณหภูมิ 70-80°C ก่อนนำไปผสมกับน้ำ

ความแตกต่างระหว่าง Polyox กับ Snail Resin

ทั้ง Polyox และ Snail Resin เป็นโพลีเอทิลีนไกลคอล (PEG) หรือโพลีเอทิลีนออกไซด์ชนิดหนึ่ง แต่มีความแตกต่างกันที่น้ำหนักโมเลกุล ซึ่งส่งผลให้มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป

• Polyox (เช่น ผลิตภัณฑ์ Polyglide ซึ่งคือ PEG-14M) โดยทั่วไปหมายถึงโพลีเอทิลีนออกไซด์ เกรดที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ เช่น PEG-14M มักใช้เพื่อให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ลดแรงเสียดทาน (เช่น ในผลิตภัณฑ์โกนหนวด) และช่วยเพิ่มความไหลลื่นและฟองในผลิตภัณฑ์อย่างแชมพูได้
• Snail Resin (มีเกรด PEG-90M และ PEG-160M) ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ความยืดหยุ่นแบบ "เมือกหอยทาก" ที่ชัดเจน และเพิ่มความนุ่มลื่นให้กับสูตร น้ำหนักโมเลกุลที่สูงกว่าของ PEG-90M และโดยเฉพาะ PEG-160M เมื่อเทียบกับ PEG-14M คือสิ่งที่ทำให้มีคุณสมบัติความยืดหยุ่นและยืดตัวที่แตกต่างนี้

สรุปคือ แม้ว่าทั้งสองจะเป็นพอลิเมอร์ที่เกี่ยวข้องกัน แต่ Snail Resin ใช้ PEG ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงกว่าเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ยืดหยุ่นและยืดตัวตามที่คุณต้องการ ในขณะที่ PEG น้ำหนักโมเลกุลต่ำกว่า เช่น Polyglide จะใช้เพื่อเพิ่มความลื่นและความนุ่มนวลทั่วไปมากกว่า