จากสูตรและปัญหาที่คุณพบ แชมพูที่ขุ่น การแยกชั้น และความหนืดที่ไม่เพียงพอ น่าจะเกิดจากหลายปัจจัย โดยหลักคือปฏิกิริยาระหว่างโพลิเมอร์ประจุบวก (Guar hydroxytrimonium chloride) กับสารลดแรงตึงผิวประจุลบ (Amino Wash และ Baby Foam) รวมถึงสารเพิ่มความข้นอาจไม่เพียงพอสำหรับระบบนี้

โพลิเมอร์ประจุบวก เช่น Guar hydroxytrimonium chloride บางครั้งอาจเกิดการจับตัวกับสารลดแรงตึงผิวประจุลบ ทำให้เกิดความขุ่นและการตกตะกอน/แยกชั้นได้ แม้ว่า Guar hydroxytrimonium chloride จะดีเยี่ยมในการปรับสภาพเส้นผม แต่การเข้ากันได้กับระบบสารลดแรงตึงผิวประจุลบต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง

ปริมาณ Sugar Thick ที่คุณใช้อาจจะน้อยเกินไปสำหรับการเพิ่มความหนืดในระบบสารลดแรงตึงผิวนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

นี่คือข้อเสนอแนะในการปรับเปลี่ยนสูตรและขั้นตอนการผสมเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้:

ข้อแนะนำในการปรับสูตร

เพื่อปรับปรุงความใส ความหนืด และความคงตัว ลองพิจารณาปรับเปลี่ยนสูตรดังนี้:

• ลดปริมาณ Guar hydroxytrimonium chloride: การลดความเข้มข้นของโพลิเมอร์ประจุบวกสามารถลดปัญหาความไม่เข้ากันกับสารลดแรงตึงผิวประจุลบได้อย่างมาก
• เพิ่มปริมาณ Sugar Thick: การเพิ่มความเข้มข้นของสารเพิ่มความข้นที่คุณเลือกเล็กน้อย ควรช่วยให้ได้ความหนืดที่ต้องการ
• เพิ่มปริมาณ EDTA: แม้ว่า 0.1% เป็นปริมาณขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับ Amino Wash และ Baby Foam แต่การเพิ่มเล็กน้อยสามารถช่วยจับไอออนโลหะได้ดีขึ้นและเพิ่มความคงตัวโดยรวมของสูตร ช่วยป้องกันการแข็งตัวหรือตกตะกอนของสารลดแรงตึงผิวที่อาจเกิดขึ้น

นี่คือสูตรที่ปรับปรุงตามสูตรเดิมของคุณ:

1. Water: เติมให้ครบ 100%
2. Amino Wash: 10 %
3. Baby Foam: 5%
4. Glycerin: 3%
5. Propylene Glycol: 2 %
6. Sugar Thick: 2.0 - 2.5% (เพิ่มจาก 1.5%)
7. Mild Preservative: 1%
8. Frangrance: 0.3%
9. Guar hydroxytrimonium chloride: 0.1% (ลดจาก 0.2%)
10. EDTA: 0.2% (เพิ่มจาก 0.1%)
11. สารละลาย Citric Acid (สำหรับปรับ pH): ปริมาณตามต้องการ

ขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุง

ลำดับการเติมส่วนผสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการได้แชมพูที่คงตัวและใส โดยเฉพาะเมื่อผสมส่วนผสมประเภทต่างๆ เข้าด้วยกัน

1. เตรียมส่วนของน้ำ: ในบีกเกอร์ที่สะอาด ใส่น้ำตามปริมาณที่ต้องการ
2. เติม EDTA: เติม Disodium EDTA ลงในน้ำและคนจนละลายหมด การใช้น้ำบริสุทธิ์ (เช่น น้ำกลั่นหรือน้ำ RO) เป็นสิ่งสำคัญ หากใช้น้ำประปา การอุ่นเล็กน้อยอาจช่วยให้ EDTA ละลายได้ดีขึ้น
3. ผสมสารเพิ่มความข้น: เติม Sugar Thick ลงในส่วนของน้ำ หาก Sugar Thick เป็นเกล็ด คุณอาจต้องอุ่นส่วนของน้ำให้มีอุณหภูมิ 50-60°C และคนจนละลายและส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น หรืออีกวิธีคือ อุ่น Sugar Thick แยกต่างหากจนเป็นของเหลวก่อนนำไปเติมลงในส่วนของน้ำขณะคน คนเบาๆ จนเริ่มได้ความหนืดที่ต้องการ
4. เติมสารให้ความชุ่มชื้น: เติม Glycerin และ Propylene Glycol ลงในส่วนของน้ำที่ข้นขึ้นแล้ว คนให้เข้ากันดี
5. เติมสารลดแรงตึงผิว: ค่อยๆ เติม Amino Wash และ Baby Foam ลงในส่วนผสม คนช้าๆ และระมัดระวังเพื่อลดการเกิดฟอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารลดแรงตึงผิวกระจายตัวและละลายหมด
6. เติม Guar Gum: ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก กระจาย Guar hydroxytrimonium chloride ในน้ำปริมาณเล็กน้อย (นำมาจากปริมาณน้ำทั้งหมด) ค่อยๆ เติมสารละลายนี้ลงในส่วนผสมแชมพูหลักอย่างช้าๆ ขณะคนเบาๆ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก การเติมโพลิเมอร์ประจุบวกเร็วเกินไปหรือไม่คนให้เพียงพออาจทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนและความขุ่นได้
7. ปรับ pH: ตรวจสอบค่า pH ของส่วนผสมด้วยเครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH สำหรับแชมพู ค่า pH ระหว่าง 5.0 ถึง 6.0 เหมาะสำหรับสุขภาพเส้นผมและความคงตัวของสูตร ค่อยๆ หยดสารละลาย Citric Acid (เช่น สารละลาย 20-30% ในน้ำ) ขณะคนเบาๆ และตรวจสอบ pH ซ้ำจนกว่าจะได้ค่าที่ต้องการ การปรับ pH มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้ากันได้ของส่วนผสมและประสิทธิภาพของสารกันเสีย
8. ปล่อยให้เย็น: เมื่อปรับ pH แล้ว ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงจนต่ำกว่า 45°C หากคุณอุ่นส่วนผสมก่อนหน้านี้
9. เติมสารกันเสียและน้ำหอม: เติม Mild Preservative COS และน้ำหอมลงในส่วนผสมที่เย็นแล้ว คนเบาๆ จนเข้ากันดี
10. ขั้นตอนสุดท้าย: คนเบาๆ อีกสองสามนาทีเพื่อให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ปล่อยแชมพูทิ้งไว้โดยไม่ต้องรบกวนเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือข้ามคืน ระยะเวลาพักนี้ช่วยให้ฟองอากาศที่ติดอยู่หลุดออกไป และช่วยให้ความหนืดคงตัว

การลดปริมาณ Guar hydroxytrimonium chloride การเพิ่ม Sugar Thick การใช้ EDTA ในปริมาณที่เพียงพอ และการทำตามขั้นตอนการผสมอย่างระมัดระวังพร้อมกับการปรับ pH ควรช่วยให้คุณได้แชมพูที่ใสขึ้น มีความหนืดมากขึ้น และคงตัว ไม่แยกชั้น