การขึ้นสูตรโฟมล้างหน้าเนื้อมุก
คำถาม
อยากขอคำแนะนำในการขึ้นสูตรโฟมล้างหน้าเนื้อมุกค่ะ ส่วนประกอบหลักที่จำเป็นมีอะไรบ้าง เช่น สารลดแรงตึงผิว (Surfactants), สารที่ทำให้เกิดเนื้อมุก (Pearling Agent) อย่าง emulPearl™
หรือ Glyceryl Distearate และสารเพิ่มความหนืด (Thickener) อย่าง FaceFoam-LC™? มีเคล็ดลับในการปรุงสูตรอย่างไรบ้าง เช่น การผสมผสานสารลดแรงตึงผิว การใส่สารที่ทำให้เกิดเนื้อมุก (รวมถึงอุณหภูมิที่ต้องใช้) การเติมสารเพิ่มความหนืด การตรวจสอบความเข้ากันได้ของส่วนประกอบ และการปรับค่า pH สุดท้ายของสูตร (เช่น 5.5-6.5)?
คำตอบ
คำแนะนำในการขึ้นสูตรโฟมล้างหน้าเนื้อมุก
ในการสร้างโฟมล้างหน้าเนื้อมุก คุณจะต้องใช้สารลดแรงตึงผิว (Surfactants) เป็นหลักสำหรับการทำความสะอาดและสร้างฟอง และสารที่ทำให้เกิดเนื้อมุก (Pearling Agent) เพื่อให้ได้ลักษณะตามที่ต้องการ
ส่วนประกอบหลัก:
สารลดแรงตึงผิว (Surfactants): เป็นสารทำความสะอาดหลัก การผสมผสานสารลดแรงตึงผิวหลายชนิดมักจะให้ประสิทธิภาพและความอ่อนโยนที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น:
- Cocamidopropyl Betaine: สารลดแรงตึงผิวแบบ Amphoteric ที่อ่อนโยน ช่วยเสริมฟอง
- IseFoam™ (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate): สารลดแรงตึงผิวแบบ Anionic ที่อ่อนโยนและให้ฟองได้ดี
- Cond-Foam™ (Sodium Lauroyl Sarcosinate): สารลดแรงตึงผิวแบบ Anionic ที่อ่อนโยนและมีคุณสมบัติเป็น Hair/Skin Conditioning
- Sophorolipid (Natural Surfactant): สารลดแรงตึงผิวจากธรรมชาติที่อ่อนโยน
- Sodium Lauroyl Lactylate: สารลดแรงตึงผิวแบบ Anionic ที่อ่อนโยน ช่วยเสริมฟองและเป็นสารช่วยคงตัว
สารที่ทำให้เกิดเนื้อมุก (Pearling Agent): ส่วนประกอบนี้จะให้ลักษณะเป็นเนื้อมุกหรือประกายมุก สารที่นิยมใช้คือ Glycol Distearate ซึ่งมีจำหน่ายในชื่อ emulPearl™ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Glyceryl Distearate ได้เช่นกัน
สารเพิ่มความหนืด (ไม่บังคับแต่แนะนำ): เพื่อให้ได้ความหนืดและความคงตัวที่เหมาะสมสำหรับโฟมล้างหน้า มักจะใช้สารเพิ่มความหนืดที่เข้ากันได้กับสารลดแรงตึงผิว FaceFoam-LC™ เป็นตัวอย่างของสารเพิ่มความหนืดแบบ Crystal Thickener ที่ใช้สำหรับสารลดแรงตึงผิวโดยเฉพาะ
เคล็ดลับในการปรุง:
- ผสมสารลดแรงตึงผิวหลัก (เช่น Sodium Lauroyl Methyl Isethionate หรือ Sodium Lauroyl Sarcosinate) กับสารลดแรงตึงผิวรอง (เช่น Cocamidopropyl Betaine หรือ Sophorolipid) เพื่อปรับสมดุลระหว่างพลังการทำความสะอาด คุณภาพฟอง และความอ่อนโยน
- ในการใส่สารที่ทำให้เกิดเนื้อมุก เช่น emulPearl™ หรือ Glyceryl Distearate โดยทั่วไปจะต้องให้ความร้อนและผสมในส่วนของน้ำมันหรือสารลดแรงตึงผิวจนละลาย (ประมาณ 60-80°C สำหรับ emulPearl™) ก่อนนำไปรวมกับส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตร
- เติมสารเพิ่มความหนืด (เช่น FaceFoam-LC™) ลงในส่วนของน้ำและผสมให้กระจายตัวหรือละลายตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนประกอบทั้งหมดเข้ากันได้ดี และผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงในแต่ละขั้นตอน
- ปรับค่า pH ของสูตรสำเร็จให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารลดแรงตึงผิวที่เลือกใช้และความเข้ากันได้กับผิว (โดยทั่วไปมีค่าเป็นกรดเล็กน้อย ประมาณ pH 5.5-6.5 สำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า)
โปรดจำไว้ว่า ให้เริ่มต้นด้วยโครงสร้างสูตรพื้นฐานและปรับเปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบแต่ละชนิดตามความต้องการของฟอง ความรู้สึกในการทำความสะอาด ความหนืด และลักษณะเนื้อมุกที่ต้องการ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Cocamidopropyl Betaine

emulPearl™ (Pearlizer, Flakes/Pellets)

IseFoam™ (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate)

Cond-Foam™ (Sodium Lauroyl Sarcosinate, Liquid)

Sophorolipid (Natural Surfactant, 50%)

Glyceryl Distearate

Sodium Lauroyl Lactylate (Gentle Anionic Surfactant)
