การคิดค้นสูตรเครื่องสำอาง คุณสมบัติส่วนผสม และปฏิกิริยาต่อผิว
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการคิดค้นสูตรและส่วนผสมเครื่องสำอางดังนี้ครับ:
กำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Vitamin C E Ferulic รู้สึกคันยิบๆ หรือยุบยิบเมื่อใช้ตอนกลางวัน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นและมีเหงื่อ แต่ไม่มีอาการนี้เมื่อใช้ตอนกลางคืน อยากทราบว่าเกิดจากอะไรครับ?
LipidSoft™ CC เป็นซิลิโคนหรือน้ำมันครับ? แล้วเหมือนกับ Purcellin Oil หรือไม่?
ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีสารกรองรังสีเคมีอย่าง Avobenzone, Octisalate, และ Octocrylene (เช่น SPF Protect Ultra™ II หรือ SPF Protect Ultra™ III) สามารถทำสูตรให้เป็น Oil-Free ได้หรือไม่?
สารต้านการระคายเคืองทำงานอย่างไร? เมื่อส่วนผสมแอคทีฟชนิดหนึ่งมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง ควรเลือกสารต้านการระคายเคืองที่เหมาะสมอย่างไร?
สามารถใช้สารต้านการระคายเคืองหลายชนิดในสูตรเดียวกันได้หรือไม่ครับ?
คำตอบ
คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการคิดค้นสูตร
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับส่วนผสมและสูตรเครื่องสำอาง โดยต่อยอดจากข้อมูลที่ได้รับ:
1. Vitamin C E Ferulic กับอาการคันยิบๆ
อาการคันยิบๆ หรือรู้สึกยุบยิบเมื่อใช้ Vitamin C E Ferulic โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นและมีเหงื่อ เป็นปฏิกิริยาที่พบได้ทั่วไป ดังที่เจ้าหน้าที่ได้กล่าวไว้ โดยทั่วไปเกิดจากความเป็นกรดของวิตามินซี (L-Ascorbic Acid) ความร้อนและเหงื่อสามารถส่งผลต่อค่า pH ของผิวและการทำงานของเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวไวต่อส่วนผสมที่เป็นกรดมากขึ้น อาการนี้มักจะเป็นชั่วคราวและไม่ใช่สัญญาณของการแพ้ ยกเว้นจะมีอาการแดง แสบร้อน หรือบวมอย่างต่อเนื่อง การที่ไม่มีอาการนี้ในเวลากลางคืนซึ่งอากาศเย็นกว่า ก็สนับสนุนคำอธิบายนี้
2. LipidSoft™ CC และ Purcellin Oil
LipidSoft™ CC เป็นสารประเภทเอสเทอร์ โดยเฉพาะ Cetyl Ethylhexanoate ดังที่เจ้าหน้าที่กล่าวถูกต้องว่าไม่ใช่ซิลิโคนและถือเป็น Oil-Free ข้อมูลผลิตภัณฑ์สำหรับ LipidSoft™ CC ยืนยันว่ามีโครงสร้างทางเคมีเหมือนกับ Synthetic Purcellin Oil และถูกใช้ในผลิตภัณฑ์อย่าง Bio-Oil ความแตกต่างระหว่างส่วนผสมสังเคราะห์อย่าง LipidSoft™ CC กับส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ (หากมีโครงสร้างเดียวกันเป๊ะ) อยู่ที่แหล่งที่มาและกระบวนการผลิต ไม่ใช่ที่โครงสร้างทางเคมีหรือคุณสมบัติในการทำงานในสูตร ดังที่เจ้าหน้าที่ได้อธิบายไว้
3. SPF Protect™ และการเคลม Oil-Free
เจ้าหน้าที่กล่าวถูกต้องว่า Avobenzone, Octisalate และ Octocrylene ไม่ใช่น้ำมัน สารเหล่านี้เป็นสารกรองรังสี UV ชนิดเคมี ดังนั้น ผลิตภัณฑ์กันแดดอย่าง SPF Protect Ultra™ II หรือ SPF Protect Ultra™ III ซึ่งมีสารกรองรังสีเคมีเหล่านี้ สามารถถูกพัฒนาสูตรให้เป็น Oil-Free ได้ หากส่วนประกอบอื่นๆ ในเบสของสูตรก็เป็น Oil-Free ด้วย คำว่า ‘น้ำมัน’ ในเครื่องสำอางโดยทั่วไปหมายถึงไตรกลีเซอไรด์และไขมันอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน
4. คุณสมบัติและการเลือกใช้สารต้านการระคายเคือง
สารต้านการระคายเคืองทำงานเพื่อต่อต้านการระคายเคือง ไม่ว่าการระคายเคืองนั้นจะเกิดจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรือส่วนผสมเฉพาะในผลิตภัณฑ์ ดังที่เจ้าหน้าที่ระบุ การระคายเคืองเป็นปฏิกิริยาทั่วไปของผิว เมื่อส่วนผสมแอคทีฟชนิดใดชนิดหนึ่งมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง การเลือกสารต้านการระคายเคืองที่เหมาะสมต้องพิจารณาถึง:
- กลไกของสารแอคทีฟ: สารแอคทีฟก่อให้เกิดการระคายเคืองได้อย่างไร (เช่น ความเป็นกรดสูง, ทำลายเกราะป้องกันผิว, กระตุ้นกระบวนการอักเสบ)?
- การเลือกสารต้านการระคายเคืองที่มีกลไกเสริมกัน: เลือกส่วนผสมที่ต่อต้านกลไกเฉพาะนั้นๆ (เช่น สารบัฟเฟอร์สำหรับความเป็นกรด, สารช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว, สารต้านการอักเสบ)
- ความเข้มข้นและการคิดค้นสูตร: ระดับความเข้มข้นของทั้งสารแอคทีฟและสารต้านการระคายเคือง รวมถึงเบสของสูตรโดยรวม มีผลต่อผลลัพธ์
- การทดสอบ: การทดสอบแบบ Patch Test กับสูตรสำเร็จรูปเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อยืนยันความเข้ากันได้และลดการระคายเคืองให้เหลือน้อยที่สุด
5. การใช้สารต้านการระคายเคืองหลายชนิด
การใช้สารต้านการระคายเคืองหลายชนิดที่มีกลไกการทำงานแตกต่างกันมักจะเป็นประโยชน์ ดังที่เจ้าหน้าที่ได้ชี้ให้เห็น สารต้านการระคายเคืองแต่ละชนิดสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรเทาและป้องกันการระคายเคืองได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการมุ่งเป้าไปที่หลายๆ กลไกที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองของการอักเสบ โดยทั่วไปไม่มีผลเสียที่สำคัญจากการใช้สารต้านการระคายเคืองหลายชนิดร่วมกัน หากเข้ากันได้ในสูตรและใช้ในความเข้มข้นที่เหมาะสม เป้าหมายมักจะเป็นการทำงานร่วมกัน (Synergy) ซึ่งผลรวมจะมีมากกว่าผลของแต่ละชนิด
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)

SPF Protect Ultra™ II
