การคิดค้นสูตรเซรั่มวิตามินซีและโลชั่นให้ความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมที่ระบุ

ถามโดย: ni_nk เมื่อ: August 21, 2012 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำผลิตภัณฑ์ 2 อย่างคือ เซรั่มวิตามินซี และโลชั่นเหลวให้ความชุ่มชื้น โดยใช้ส่วนผสมดังนี้ค่ะ รบกวนแนะนำวิธีการทำและสัดส่วนสำหรับแต่ละสูตร รวมถึงแจ้งด้วยว่าขาดวัตถุดิบสำคัญอะไรเพิ่มเติมบ้างคะ

ส่วนผสมสำหรับเซรั่มวิตามินซี:

  • Glycerin (Vegetable)
  • Sea Kelp Bioferment
  • Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
  • Ferulic Acid
  • DMAE Bitartrate
  • Vitamin B3 (Niacinamide, Niacin)
  • Vitamin E (d-alpha tocopherol)
  • Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine

ส่วนผสมสำหรับโลชั่นเหลวให้ความชุ่มชื้น:

  • Sea Kelp
  • HA
  • DMAE
  • V.B3
  • V.E
  • หมายเหตุ:* เข้าใจจากคำตอบของผู้เชี่ยวชาญว่าการเพิ่มส่วนผสมบางอย่างในเซรั่มวิตามินซีอาจมีความซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และสำหรับโลชั่นที่มี Vitamin E จำเป็นต้องมีอิมัลซิไฟเออร์และสารกันเสีย แต่ยังคงต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางทั่วไปและสัดส่วนสำหรับรายการส่วนผสมเหล่านี้ค่ะ

คำตอบ

การทำเซรั่มและโลชั่นของคุณ

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการทำเซรั่มวิตามินซีและโลชั่นให้ความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมที่คุณมี การสร้างสูตรเครื่องสำอางที่เสถียรและมีประสิทธิภาพอาจมีความซับซ้อน และการให้คำแนะนำทีละขั้นตอนและสัดส่วนที่แม่นยำสำหรับสูตรที่คุณปรับเปลี่ยนเองนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายหากไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการคิดค้นสูตรและการทดสอบอย่างละเอียด

จากส่วนผสมที่คุณระบุและข้อมูลที่มีอยู่:

เซรั่มวิตามินซี (Glycerin, Ferulic, V.C, V.B3, V.E, DMAE, Sea Kelp)

คุณมีรายการส่วนผสมที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับเซรั่มวิตามินซี คุณได้กล่าวถึง:

  • Glycerin (Vegetable): สารให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • Pure-Ferulic Acid™: สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำงานร่วมกับวิตามินซีและอีเพื่อเพิ่มความเสถียรและการป้องกันแสงแดด
  • Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine): วิตามินซีรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย แต่ไม่เสถียรในน้ำและต้องใช้การคิดค้นสูตรอย่างระมัดระวัง โดยทั่วไปจะใช้ที่ค่า pH ต่ำ (2.0-4.0 โดย อย. แนะนำอย่างน้อย 3.5 สำหรับผลิตภัณฑ์ทาผิว) ควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30°C
  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): มีประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดง/รอยดำ ควบคุมความมัน และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เป็นสารที่ละลายน้ำได้และสามารถผสมในส่วนของน้ำได้ เสถียรในช่วง pH 3-8
  • Vitamin E (dl-alpha tocopherol): สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและชะลอวัย เป็นสารที่ละลายในน้ำมัน
  • Sea Kelp Extract: สารสกัดที่ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิว มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ละลายได้ในน้ำหรืออิมัลซิไฟเออร์ แต่ไวต่อความร้อนสูงกว่า 60°C
  • DMAE Bitartrate: (หมายเหตุ: ไม่พบรหัสผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับ DMAE Bitartrate ในผลการค้นหา)

คำตอบจากเจ้าหน้าที่ได้ชี้ให้เห็นอย่างถูกต้องว่า การเพิ่มส่วนผสมอย่าง Sea Kelp Extract และ DMAE เข้าไปในสูตร Vitamin C E Ferulic มาตรฐานนั้นอาจทำได้ยากและไม่แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากอาจส่งผลต่อความเสถียร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ L-ascorbic acid ที่ไม่เสถียร

สูตร Vitamin C E Ferulic มาตรฐานโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการละลาย L-ascorbic acid และ Ferulic acid ในเบส ซึ่งมักใช้ตัวทำละลาย เช่น Ethoxydiglycol สำหรับ Ferulic acid จากนั้นจึงผสม Vitamin E การเพิ่มส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Sea Kelp Extract และ Niacinamide และอาจรวมถึง DMAE ในขณะที่ยังคงรักษาค่า pH ต่ำที่จำเป็นสำหรับความเสถียรของ L-ascorbic acid และทำให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายและเสถียร เป็นความท้าทายในการคิดค้นสูตรที่ซับซ้อน

โลชั่นให้ความชุ่มชื้น (Sea Kelp, HA, DMAE, V.B3, V.E)

สำหรับโลชั่นให้ความชุ่มชื้นของคุณ คุณได้ระบุ:

  • Sea Kelp Extract: ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิว
  • Hyaluronic Acid (Standard Molecule, 1M Daltons): สารให้ความชุ่มชื้นที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวชั้นนอก เป็นผงที่ต้องละลายในน้ำอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจใช้เวลา
  • DMAE Bitartrate: (หมายเหตุ: ไม่พบรหัสผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับ DMAE Bitartrate ในผลการค้นหา)
  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ ให้ประโยชน์หลากหลายต่อผิว
  • Vitamin E (dl-alpha tocopherol): สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำมัน

คำตอบจากเจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำถึงจุดสำคัญสำหรับสูตรนี้อย่างถูกต้อง: เนื่องจากคุณใส่ Vitamin E (ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน) ลงในสิ่งที่คุณอธิบายว่าเป็น "โลชั่นเหลว" (ซึ่งน่าจะเป็นเบสที่เป็นน้ำ) คุณจะต้องมี อิมัลซิไฟเออร์ เพื่อผสมส่วนของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกันและสร้างโลชั่นที่เสถียรซึ่งไม่แยกชั้น เจ้าหน้าที่ได้กล่าวถึง Sepiplus 400 เป็นตัวอย่างอิมัลซิไฟเออร์ (หมายเหตุ: ไม่พบรหัสผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับ Sepiplus 400 ในผลการค้นหา) หากไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ ส่วนประกอบของน้ำมันและน้ำจะไม่เข้ากัน

ส่วนผสมสำคัญที่ขาดไปจากรายการของคุณสำหรับโลชั่นที่เสถียรซึ่งมีส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน ได้แก่:

  • อิมัลซิไฟเออร์: เพื่อผสมส่วนของน้ำมันและน้ำ
  • สารกันเสีย: จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสูตรใดๆ ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และรับรองความปลอดภัยและอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารละลาย Hyaluronic Acid จำเป็นต้องมีสารกันเสีย

สัดส่วนและวิธีการทำ

การกำหนดสัดส่วนและวิธีการผสมที่แม่นยำสำหรับสูตรที่คุณปรับเปลี่ยนเองเหล่านี้อยู่นอกเหนือขอบเขตของคำแนะนำทั่วไปและต้องอาศัยการทดลองคิดค้นสูตร สัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพที่ต้องการ ความเข้ากันได้ของส่วนผสม และความเสถียรโดยรวมของผลิตภัณฑ์สุดท้าย วิธีการผสมก็แตกต่างกันอย่างมากตามส่วนผสมและประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ทำ (เซรั่ม โลชั่น ฯลฯ)

สรุป

แม้ว่าคุณจะเลือกส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ การสร้างสูตรที่เสถียรและมีประสิทธิภาพที่คุณปรับเปลี่ยนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซรั่มวิตามินซีที่ซับซ้อนซึ่งมีสารออกฤทธิ์เพิ่มเติม หรือโลชั่นที่มีทั้งส่วนประกอบของน้ำมันและน้ำ ต้องอาศัยความรู้ด้านการคิดค้นสูตรอย่างรอบคอบ สำหรับโลชั่น จำเป็นต้องเพิ่มอิมัลซิไฟเออร์และสารกันเสีย สำหรับวิธีการและสัดส่วนที่แม่นยำ ควรศึกษาจากสูตรมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบแล้ว หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการคิดค้นสูตร

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule, 1M Daltons)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule, 1M Daltons)
เครื่องสำอาง
Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง