การตรวจสอบสูตรอิมัลชันลดริ้วรอย รักษาสิว และผิวกระจ่างใส
คำถาม
ผมขอรบกวนช่วยตรวจสอบสูตรอิมัลชันบำรุงผิวของผม ซึ่งมีเป้าหมายในการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย สิว และผิวกระจ่างใสครับ ด้านล่างนี้คือส่วนผสมและขั้นตอนการทำที่ผมเสนอไว้ รบกวนช่วยตรวจสอบความเข้ากันได้ ความเสถียร และขั้นตอนการผลิตที่เหมาะสมด้วยครับ
เฟสน้ำ (DI Water 50% และที่เหลือสำหรับปรับ pH และเนื้อสัมผัส):
Disodium EDTA
0.2%Lecithin gel
1.5%Propylene Glycol
5%Propanediol
3%Mild preserved COS
1%Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
2%Acacia Salicylic Acid
2%Safe-B3
4%GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
4%Micromul™ EGCG
2%Micromul™ 10HDA
3%Propolis Extract (Liquid, Water-Soluble, High Flavonoids)
2%
การปรับค่า pH (ก่อนใส่เฟสน้ำมัน, เป้าหมาย pH 5-5.5, เหมาะสำหรับ Actin AC และสารอื่นๆ ที่เสถียร):
- สารปรับค่า pH (ด่าง):
L-arginine
,AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized)
- สารปรับค่า pH (กรด):
Citric acid
,Malic acid
เฟสน้ำมัน:
Dimethyl Isosorbide (DMI)
2%Bakuchiol-Eco
1%Protec™ OX
0.1%Protec™ UV
0.1%Squalane
3%Actin AC
3%Lipidsoft cyclo
3%Phosphomax
1%Xanthan gum
0.3%
ขั้นตอนสุดท้าย:
- ตรวจสอบ pH และเนื้อสัมผัสก่อนจบกระบวนการ
- อาจใช้
glycol
หรือLipidsoft
เล็กน้อยเพื่อปรับเนื้อสัมผัส - อาจเติม
LecithinGel
เพิ่มเติมหากสูตรยังประสานกันไม่ดี - ปรับ pH ขั้นสุดท้ายให้อยู่ในช่วง 5-5.5
- เติม
DI water
ให้ครบ 100%.
คำตอบ
การตรวจสอบสูตร: อิมัลชันบำรุงผิวขั้นสูง
สูตรนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยเน้นไปที่การต่อต้านริ้วรอย การรักษาสิว และการปรับผิวกระจ่างใส โดยใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่คัดสรรมาอย่างดี นี่คือการตรวจสอบโดยละเอียด:
ส่วนผสมในเฟสน้ำ
เฟสน้ำอุดมไปด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์และสารให้ความชุ่มชื้น:
- Disodium EDTA (0.2%): ยอดเยี่ยมสำหรับการจับไอออนโลหะ ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตร และปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อประจุ เช่น Bakuchiol-Eco และ Actin AC
- LecithinGel™ (1.5%): สารประสานน้ำ-น้ำมันและสารเพิ่มความหนืดที่หลากหลาย ให้เนื้อสัมผัสแบบครีมและช่วยในการซึมผ่านของส่วนผสม อัตราการใช้เหมาะสม
- Propylene Glycol (5%) & Propanediol (3%): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยในการละลายของส่วนผสมที่ละลายน้ำได้อื่นๆ Propanediol เป็นทางเลือกจากธรรมชาติแทน Propylene Glycol ซึ่งให้ความรู้สึกที่ดีต่อผิว
- Mild Preserved™ COS (1%): สารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสำหรับช่วง pH เป้าหมาย ช่วยให้สูตรมีความเสถียรทางจุลินทรีย์
- Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble) (2%): เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณสมบัติลดการอักเสบ รักษาสิว และควบคุมความมัน ช่วง pH ที่แนะนำ (3.5-6.5) เข้ากันได้กับ pH เป้าหมายของคุณ
- Acacia Salicylic Acid (2%): Salicylic Acid ชนิดที่ละลายน้ำได้นี้มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวและรักษาสิว โดยลดการระคายเคือง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวแพ้ง่าย
- Safe-B3™ (Niacinamide) (4%): ส่วนผสมอเนกประสงค์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ (hyperpigmentation) เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว และควบคุมความมัน ความเข้มข้น 4% มีประสิทธิภาพ และช่วง pH ที่เหมาะสม (4.0-7.0) เข้ากันได้ดีกับสูตรของคุณ
- GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) (4%): เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Safe-B3™ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติ ความเข้ากันได้ของ pH (3-7) ก็ดีเช่นกัน
- Micromul™ EGCG (2%): EGCG ในรูปแบบไมโครอิมัลชันนี้ให้ประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระอย่างมีประสิทธิภาพสูง การกักเก็บความชุ่มชื้น และการปรับผิวกระจ่างใส ควรเติมลงในเฟสน้ำโดยหลีกเลี่ยงความร้อน
- Micromul™ 10HDA (3%): มีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพ ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยสมานแผล ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวโดยรวมและการจัดการสิว
- Propolis Extract (Liquid, Water-Soluble, High Flavonoids) (2%): เป็นที่รู้จักกันดีในคุณสมบัติลดการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดสิวและปลอบประโลมผิว ควรเติมโดยหลีกเลี่ยงความร้อน
ส่วนผสมในเฟสน้ำมัน
เฟสน้ำมันประกอบด้วยสารให้ความชุ่มชื้น ส่วนผสมออกฤทธิ์ และสารป้องกัน:
- Dimethyl Isosorbide (DMI) (2%): เป็นสารนำพาที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Bakuchiol-Eco ความเข้มข้น 2% อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับการนำพาสารเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
- Bakuchiol-Eco™ (1%): เป็นทางเลือกจากธรรมชาติแทนเรตินอลที่ให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยโดยไม่ระคายเคืองผิว สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงความไวต่อความร้อนและข้อกำหนด pH (ต่ำกว่า 6.5, เหมาะสมที่สุด 3.5-6.5) ซึ่งสูตรของคุณได้คำนึงถึง pH เป้าหมายและการมี Disodium EDTA อยู่แล้ว
- Protec™ OX (0.1%) & Protec™ UV (0.1%): เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อการเสื่อมสภาพจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและการเสื่อมสภาพจากรังสียูวีตามลำดับ Protec™ OX ต้องใช้ความร้อน (70-80°C) ในการละลาย ในขณะที่ Protec™ UV สามารถผสมในน้ำมันได้
- Squalane (3%): สารให้ความชุ่มชื้นที่เข้ากันได้ดีกับผิว ให้ความชุ่มชื้นและให้ความรู้สึกเรียบเนียนต่อผิว มีความไวต่อความร้อนและควรเติมอย่างระมัดระวัง
- Actin AC (3%): สารออกฤทธิ์รักษาสิวแบบ 5-in-1 ที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยควบคุมความมัน ลดการอักเสบและรอยดำหลังการอักเสบ และมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย มีความไวต่อความร้อน (หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 50°C) และต้องมี pH ต่ำกว่า 6.0 (เหมาะที่สุด 3.5-5.5)
- LipidSoft™ Cyclo (3%): ทางเลือกแทนซิลิโคนที่ให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และช่วยเพิ่มการเกลี่ย
- PhosphoMax™ (1%): สารอิมัลซิไฟเออร์จากธรรมชาติชนิดฟอสโฟลิพิด สามารถทนความร้อนได้ถึง 80°C และแนะนำให้ใช้ร่วมกับ Xanthan Gum เพื่อความเสถียรของอิมัลชัน ซึ่งคุณได้รวมไว้แล้ว
- Xanthan Gum (0.3%): สารเพิ่มความหนืดนี้จำเป็นสำหรับการทำให้อิมัลชันคงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ PhosphoMax™ เป็นอิมัลซิไฟเออร์หลัก
การปรับค่า pH
ค่า pH เป้าหมายของคุณที่ 5-5.5 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Actin AC
(3.5-5.5), Licorice Extract
(3.5-6.5), Bakuchiol-Eco™
(3.5-6.5), Safe-B3™
(4.0-7.0) และ GlucoBright™
(3-7)
- L-arginine & AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized): สารปรับค่า pH ที่เป็นด่างที่ดี AMP เหมาะอย่างยิ่งสำหรับความเสถียร
- Citric Acid & Malic Acid: สารปรับค่า pH ที่เป็นกรดมาตรฐาน
ข้อควรพิจารณาในการผสมและความเสถียร
ความท้าทายหลักคือการรวมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนเข้ากับส่วนผสมที่ต้องใช้ความร้อนในการละลาย
- ลำดับการผสมที่แนะนำ:
- เฟสน้ำ (ให้ความร้อน): รวม DI Water, Disodium EDTA, Propylene Glycol, Propanediol และ Xanthan Gum ให้ความร้อนในเฟสนี้เพื่อละลาย Xanthan Gum และเตรียมพร้อมสำหรับการทำอิมัลชัน
- เฟสน้ำมัน (ให้ความร้อน): รวม DMI, Protec™ OX, Protec™ UV, LipidSoft™ Cyclo และ PhosphoMax™ ให้ความร้อนในเฟสนี้ถึง 70-80°C เพื่อละลาย Protec™ OX และ PhosphoMax™
- การทำอิมัลชัน: ค่อยๆ เติมเฟสน้ำมันที่ร้อนลงในเฟสน้ำที่ร้อน โดยคน/โฮโมจีไนซ์อย่างต่อเนื่อง
- การทำให้เย็นลง: ปล่อยให้อิมัลชันเย็นลงจนต่ำกว่า 50°C หรือดีที่สุดคือต่ำกว่า 45°C
- เติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน: เมื่อเย็นลงแล้ว ให้เติม Licorice Extract, Acacia Salicylic Acid, Safe-B3™, GlucoBright™, Micromul™ EGCG, Micromul™ 10HDA, Propolis Extract, Bakuchiol-Eco™, Squalane และ Actin AC ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผสมเข้ากันอย่างทั่วถึงหลังจากการเติมแต่ละครั้ง
- การปรับค่า pH: ปรับค่า pH เป็น 5-5.5 โดยใช้ L-arginine/AMP หรือ Citric Acid/Malic Acid
- การปรับขั้นสุดท้าย: ปรับเนื้อสัมผัสด้วยไกลคอลเพิ่มเติม, LipidSoft™ หรือ LecithinGel™ ตามความจำเป็น เติม DI water ที่เหลือให้ครบ 100%.
การประเมินโดยรวม
สูตรนี้ครอบคลุมและมุ่งเป้าไปที่ปัญหาผิวหลายประการอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกส่วนผสมมีความเสริมฤทธิ์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรวมกันของ Safe-B3™
และ GlucoBright™
สำหรับการปรับผิวกระจ่างใส และ Acacia Salicylic Acid
, Actin AC
, Micromul™ 10HDA
และ Propolis Extract
สำหรับการจัดการสิว การรวม DMI
และ LecithinGel™
จะช่วยในการซึมผ่านและความเสถียรของสารออกฤทธิ์ การใส่ใจอย่างรอบคอบในกระบวนการผสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับอุณหภูมิ จะเป็นกุญแจสำคัญในการรับรองความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสมทั้งหมด.
การตอบกลับติดตาม
คำถาม:
ฉันกำลังพัฒนาสูตรอิมัลชันและสงสัยว่าสามารถใช้วิธีการผลิตแบบ Cold Process ได้หรือไม่ สูตรปัจจุบันของฉันมีส่วนผสมหลายอย่าง และฉันกำลังพิจารณาแนวทางดังต่อไปนี้:
- ละลาย
Protec™ OX
ในCaprylic/Capric Triglyceride
เพื่อให้เป็นของเหลว - ละลาย
Xanthan Gum
ในDI water
เพื่อให้เป็นของเหลว
หลังจากเตรียมส่วนผสมทั้งสองนี้ให้เป็นของเหลวแล้ว สามารถนำมารวมกันโดยใช้กระบวนการ Cold Process เพื่อสร้างอิมัลชันที่เสถียรได้หรือไม่?
ฉันพยายามหลีกเลี่ยงความร้อนเนื่องจากมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนอื่นๆ ในสูตรของฉัน เช่น Licorice Extract
, Acacia Salicylic Acid
, Safe-B3™
, GlucoBright™
, Micromul™ EGCG
, Micromul™ 10HDA
, Propolis Extract
, Bakuchiol-Eco™
, Squalane
, และ Actin AC
สูตรของฉันยังรวมถึง Protec™ UV
, LipidSoft™ Cyclo
, PhosphoMax™
, DMI
, Disodium EDTA
, Propylene Glycol
, และ Propanediol
ด้วย
คำตอบ:
ความเป็นไปได้ของกระบวนการผลิตแบบ Cold Process สำหรับสูตรอิมัลชันของคุณ
เป็นความคิดที่ดีที่จะพยายามปรับสูตรให้เป็นกระบวนการผลิตแบบ Cold Process โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน อย่างไรก็ตาม จากคุณสมบัติของส่วนผสมหลักบางชนิด กระบวนการผลิตแบบ Cold Process (ที่ไม่ใช้ความร้อนเลย) ไม่สามารถทำได้จริง สำหรับสูตรนี้
เหตุผลคือ:
- Protec™ OX: ส่วนผสมนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการความร้อนที่ 70-80°C เพื่อให้ละลายได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าคุณจะสามารถใช้
Caprylic/Capric Triglyceride
เป็นตัวทำละลายสำหรับส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันได้ แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้Protec™ OX
ละลายที่อุณหภูมิห้องได้ คุณยังคงต้องให้ความร้อนกับเฟสน้ำมันที่มีProtec™ OX
เพื่อให้แน่ใจว่าละลายและรวมเข้ากับสูตรได้อย่างสมบูรณ์ - Xanthan Gum: แม้ว่า
Xanthan Gum
จะสามารถกระจายตัวในน้ำเย็นได้ แต่จะใช้เวลาในการไฮเดรตนานกว่ามากและอาจจับตัวเป็นก้อนได้หากไม่กระจายตัวอย่างเหมาะสมด้วยแรงเฉือนสูง หรือโดยการกระจายตัวล่วงหน้าในสารให้ความชุ่มชื้น เช่นPropylene Glycol
หรือPropanediol
(ซึ่งคุณมีอยู่ในสูตรอยู่แล้ว) ก่อนที่จะเติมลงในน้ำ แม้กระนั้น การให้ความร้อนกับเฟสน้ำโดยทั่วไปจะช่วยให้ได้เจลที่เรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้น - PhosphoMax™: อิมัลซิไฟเออร์นี้ถูกออกแบบมาให้ทนความร้อนได้ถึง 80°C ซึ่งบ่งชี้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะใช้ในอิมัลชันที่ผลิตด้วยกระบวนการร้อน แม้ว่าอิมัลซิไฟเออร์บางชนิดจะทำงานในกระบวนการเย็นได้ แต่
PhosphoMax™
เมื่อใช้ร่วมกับXanthan Gum
มักจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเฟสน้ำมัน (และบ่อยครั้งที่เฟสน้ำด้วย) ได้รับความร้อนเพื่อการสร้างอิมัลชันที่เสถียร
แนวทางที่แนะนำ: กระบวนการผลิตแบบ Hot Process ที่ปรับปรุงแล้ว
จากข้อพิจารณาเหล่านี้ วิธีที่มีประสิทธิภาพและเสถียรที่สุดในการสร้างอิมัลชันนี้ยังคงเป็น กระบวนการผลิตแบบ Hot Process ที่ปรับปรุงแล้ว (หรือกระบวนการอุ่น) ตามที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ:
- การให้ความร้อนกับเฟสน้ำมัน: ให้ความร้อนกับเฟสน้ำมัน (ที่มี
Protec™ OX
,Protec™ UV
,LipidSoft™ Cyclo
,PhosphoMax™
และDMI
) ถึง 70-80°C เพื่อให้แน่ใจว่าProtec™ OX
และPhosphoMax™
ละลายได้อย่างสมบูรณ์และพร้อมสำหรับการสร้างอิมัลชัน - การให้ความร้อนกับเฟสน้ำ: ให้ความร้อนกับเฟสน้ำ (ที่มี
Disodium EDTA
,Propylene Glycol
,Propanediol
และXanthan Gum
) ที่อุณหภูมิใกล้เคียงกัน (70-80°C) เพื่อให้แน่ใจว่าXanthan Gum
ไฮเดรตอย่างเหมาะสมและเพื่อให้ตรงกับอุณหภูมิของเฟสน้ำมันสำหรับการสร้างอิมัลชันที่เสถียร - การสร้างอิมัลชัน: รวมเฟสที่ให้ความร้อนเข้าด้วยกัน
- การทำให้เย็นลง: สิ่งสำคัญคือต้องปล่อยให้อิมัลชันเย็นลงอย่างมาก (ต่ำกว่า 50°C โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ำกว่า 45°C) ก่อนที่จะเติมส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน
- การเติมส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน: เมื่อเย็นลงแล้ว ให้เติม
Licorice Extract
,Acacia Salicylic Acid
,Safe-B3™
,GlucoBright™
,Micromul™ EGCG
,Micromul™ 10HDA
,Propolis Extract
,Bakuchiol-Eco™
,Squalane
และActin AC
- การปรับแต่งขั้นสุดท้าย: ปรับ pH และเนื้อสัมผัสตามต้องการ
วิธีนี้ช่วยให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดละลายและทำงานได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนอันมีค่าของคุณ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Squalane (Olive)

Propylene Glycol (USP)

Disodium EDTA

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Propanediol (1,3-Propanediol) (e.q. Zemea)

Dimethyl Isosorbide (DMI)

L-Arginine

AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized)

Acacia Salicylic Acid

LipidSoft™ Cyclo (e.q. Cetiol Ultimate)

Bakuchiol-Eco ™ (Natural Retinol, 98% Pure, India)

LecithinGel™

Malic Acid (DL-Malic Acid)

PhosphoMax™ (Natural Phospholipid Emulsifier)
