การตรวจสอบสูตรเซรั่มลดริ้วรอย: ความเข้ากันได้และเนื้อสัมผัส

ถามโดย: srns200 เมื่อ: July 29, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ขออนุญาตสอบถามค่ะ อยากสั่งทำserum เพื่อบำรุงผิวและลดริ้วรอยค่ะ แต่ไม่แน่ใจเรื่องความเข้ากันได้ของสารค่ะ รบกวนช่วยตรวจสอบให้ด้วยนะคะ

สูตรที่เสนอมีดังนี้:

  • 4D Hyaluronic: 10%
  • Argireline: 10%
  • Safe B3: 5%
  • Panthenol: 1%
  • Pep- coll: 3%
  • Ectoin: 2%
  • Co enz Q. 10: 0.5%
  • Copper Peptide: 3%
  • Vitamin C ultrafine: 5%
  • Ferulic Acid: 1%
  • Vitamin E dl Tocopherol: 1%
  • Xanthan Gum: 0.5%
  • Skintight: 3%
  • Pitera: 20%
  • Dimethyl Isosorbide: 3%
  • Aqua: 32%

รวม: 100%

อยากได้เซรั่มที่เนื้อไม่เหนียวเหนอะ ทาแล้วรู้สึกสบายผิวค่ะ ควรปรับอะไรบ้างมั้ยคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

คำตอบ

การตรวจสอบสูตรเซรั่มบำรุงผิวและลดริ้วรอย

ขอขอบคุณที่แบ่งปันสูตรเซรั่มที่คุณต้องการสร้างสรรค์ สูตรนี้มีส่วนประกอบออกฤทธิ์ที่ดีเยี่ยมหลายชนิดสำหรับการบำรุงผิวและต่อต้านริ้วรอย เรามาตรวจสอบความเข้ากันได้และปัญหาเรื่องเนื้อสัมผัสที่อาจเกิดขึ้นกันค่ะ

ข้อควรพิจารณาด้านความเข้ากันได้และความเสถียร

  1. วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) และ Copper Peptide: ส่วนประกอบสำคัญสองชนิดนี้มีความต้องการค่า pH ที่แตกต่างกันเพื่อให้มีความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุด L-Ascorbic Acid ต้องการค่า pH ต่ำ (ประมาณ 3.5-4.0) ในขณะที่ Copper Peptide มีความเสถียรที่สุดที่ค่า pH สูงกว่า (4.5-7.4) การนำมารวมกันในสูตรเดียวที่ค่า pH ที่เหมาะสมของแต่ละตัวเป็นเรื่องที่ท้าทาย และอาจทำให้ส่วนประกอบใดส่วนประกอบหนึ่งหรือทั้งสองเสื่อมสภาพได้ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ส่วนประกอบเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์แยกกัน หรือใช้ในเวลาที่ต่างกันของวัน
  2. Ferulic Acid และ Vitamin E (dl-alpha tocopherol): สูตรของคุณมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ (Aqua 32% บวกกับน้ำจากส่วนประกอบที่เป็นของเหลวอื่นๆ) Ferulic Acid ไม่ละลายในน้ำและต้องใช้ตัวทำละลาย เช่น Ethoxydiglycol หรือ ethanol ส่วน Vitamin E (dl-alpha tocopherol) ละลายในน้ำมัน หากไม่มีสารช่วยละลาย (solubilizers) หรือสารอิมัลซิไฟเออร์ (emulsifiers) ที่เหมาะสม ส่วนประกอบเหล่านี้จะไม่ละลายและกระจายตัวในเซรั่มของคุณอย่างเหมาะสม ซึ่งจะลดประสิทธิภาพและอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและลักษณะของผลิตภัณฑ์
  3. Coenzyme Q10: คุณระบุ "Co enz Q. 10" เรามีทั้งชนิดที่ละลายในน้ำมันและชนิดที่ละลายในน้ำ (แบบ Encapsulate) สำหรับเซรั่มที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ Coenzyme Q10 ชนิดละลายในน้ำ (10% Encapsulate Powder) จะเหมาะสมกว่า แม้ว่าจะทำให้เซรั่มมีลักษณะขุ่น ส่วนชนิดที่ละลายในน้ำมันจะต้องใช้สารอิมัลซิไฟเออร์ ทั้งสองรูปแบบควรได้รับการปกป้องจากแสงและการเกิดออกซิเดชัน

เนื้อสัมผัส (ความเหนียวเหนอะหนะ)

ความเข้มข้นของส่วนประกอบบางชนิดในสูตรที่คุณเสนอ โดยเฉพาะ 4D Hyaluronic Acid (10%) และ Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) (20%) ค่อนข้างสูงสำหรับเซรั่ม และเป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะหรือหนักผิว แม้ว่าส่วนประกอบเหล่านี้จะดีเยี่ยมสำหรับการให้ความชุ่มชื้นและการปรับสภาพผิว แต่การใช้ในปริมาณที่สูงมากในรูปแบบเซรั่มอาจทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ไม่พึงประสงค์

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง

เพื่อแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้และเพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่ไม่เหนียวเหนอะหนะและสบายผิว ลองพิจารณาการปรับปรุงดังนี้:

  1. แก้ไขปัญหาความไม่เข้ากันของ Vitamin C และ Copper Peptide: ตัดสินใจว่าส่วนประกอบใดมีความสำคัญกว่าสำหรับเซรั่มนี้ หรือวางแผนที่จะใช้ในผลิตภัณฑ์แยกกัน
    • หากให้ความสำคัญกับ Vitamin C (L-Ascorbic Acid) ให้ปรับค่า pH ของสูตรให้ต่ำ (3.5-4.0) และตัด Copper Peptide ออก นอกจากนี้ คุณจะต้องจัดการกับปัญหาการละลายของ Ferulic Acid และ Vitamin E ด้วย
    • หากให้ความสำคัญกับ Copper Peptide ให้ปรับค่า pH ของสูตรให้อยู่ในช่วง 4.5-7.4 และตัด L-Ascorbic Acid และ Ferulic Acid ออก (เว้นแต่จะใช้สารอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ หรือเพิ่มสารช่วยละลาย/อิมัลซิไฟเออร์)
  2. แก้ไขปัญหาการละลายของ Ferulic Acid และ Vitamin E: หากคุณต้องการรวมส่วนประกอบเหล่านี้ไว้ในเซรั่มที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ คุณจะต้องเพิ่มตัวทำละลายที่เหมาะสม (สำหรับ Ferulic Acid) และสารช่วยละลาย/อิมัลซิไฟเออร์ (สำหรับ Vitamin E และ CoQ10 ชนิดละลายในน้ำมัน หากใช้) หรือพิจารณาใช้สารอนุพันธ์ของ Vitamin C, Vitamin E และ CoQ10 ที่ละลายน้ำได้ หรือตัด Ferulic Acid และ Vitamin E ออกเพื่อให้ได้สูตรที่เป็นน้ำที่เรียบง่ายขึ้น
  3. ปรับปรุงเนื้อสัมผัส:
    • ลดความเข้มข้นของ 4D Hyaluronic Acid สำหรับผิวธรรมดา ปริมาณ 2-5% ก็เพียงพอสำหรับการให้ความชุ่มชื้นที่ดีโดยไม่เหนียวเหนอะหนะมากเกินไป สำหรับผิวแห้ง อาจใช้ได้ถึง 5-8%
    • ลดความเข้มข้นของ Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) แม้ว่าจะใช้ได้ในปริมาณสูง แต่ 5-10% ก็มักจะมีประสิทธิภาพในการให้ประโยชน์โดยไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะมากนัก
    • ปริมาณ Xanthan Gum (0.5%) เหมาะสมสำหรับการเพิ่มความหนืด แต่ก็มีส่วนทำให้เนื้อเจลเหนียว การลดปริมาณลงเล็กน้อยอาจช่วยได้หากเนื้อสัมผัสยังคงข้นเกินไปหลังจากปรับ Hyaluronic Acid และ Pitera แล้ว
    • DMAE (Skintight) ที่ 3% อยู่ในช่วงที่แนะนำ แต่ก็อาจเพิ่มความรู้สึกเหนอะหนะได้ หากเนื้อสัมผัสยังคงเป็นปัญหาหลังจากการปรับปรุงอื่นๆ อาจพิจารณาลดปริมาณลงเล็กน้อยได้ แต่ 3% เป็นปริมาณที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับ
  4. รวมส่วนประกอบที่จำเป็น: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสูตรทั้งหมดรวมกันได้ 100% และมีระบบสารกันเสีย (preservative) และสารปรับค่า pH ที่เหมาะสมเพื่อรักษาความเสถียรและความปลอดภัย

ส่วนประกอบที่แนะนำ (อิงจากรายการของคุณและการปรับปรุง)

สมมติว่าคุณเลือกที่จะให้ความสำคัญกับ Copper Peptide และสร้างเซรั่มที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำและมีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น รายการส่วนประกอบที่ปรับปรุงแล้วอาจเน้นที่:

  • 4D Hyaluronic Acid (ในปริมาณที่ลดลง เช่น 2-5%) - สำหรับให้ความชุ่มชื้น
  • Argireline (Acetyl Hexapeptide-8) (ตามที่คุณต้องการ 10%) - สำหรับลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
  • Safe B3 (Vitamin B3, Niacinamide) (ตามที่คุณต้องการ 5%) - สำหรับเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และสุขภาพผิวโดยรวม
  • Panthenol (Pro-Vitamin B5) (ตามที่คุณต้องการ 1%) - สำหรับให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
  • Pep-Coll (Palmitoyl tripeptide-5) (ตามที่คุณต้องการ 3%) - สำหรับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • Ectoin (ตามที่คุณต้องการ 2%) - สำหรับปกป้องเซลล์และให้ความชุ่มชื้น
  • Coenzyme Q10 (ชนิดละลายน้ำ) (ตามที่คุณต้องการ 0.5%) - สำหรับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ (หมายเหตุ: จะทำให้ขุ่น)
  • Copper Peptide (GHK-Cu) (ตามที่คุณต้องการ 3%) - สำหรับซ่อมแซมผิวและต่อต้านริ้วรอย
  • Xanthan Gum (ที่ 0.5% หรือน้อยกว่าเล็กน้อยหากจำเป็นสำหรับเนื้อสัมผัส) - สำหรับเพิ่มความหนืด
  • Skintight (DMAE) (ตามที่คุณต้องการ 3%) - สำหรับยกกระชับ
  • Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) (ในปริมาณที่ลดลง เช่น 5-10%) - สำหรับปรับสภาพผิวและฟื้นฟูผิว
  • Dimethyl Isosorbide (DMI) (ตามที่คุณต้องการ 3%) - เป็นสารช่วยนำพาเข้าสู่ผิว
  • Aqua (ปรับปริมาณเพื่อให้รวมกับส่วนประกอบอื่นๆ เป็น 100% รวมถึงสารกันเสียและสารปรับค่า pH)
  • สารกันเสีย (ตามความจำเป็น)
  • สารปรับค่า pH (เพื่อปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วง 4.5-6.5)

การผสมผสานนี้เน้นการให้ความชุ่มชื้น การลดริ้วรอย และสุขภาพผิว ในขณะเดียวกันก็แก้ไขปัญหาเรื่องเนื้อสัมผัสโดยการลดส่วนประกอบที่มีความหนืดสูงลง อย่าลืมทดสอบความเข้ากันได้และความเสถียรเสมอเมื่อสร้างสูตรใหม่ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง
Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
DMAE (SkinTight MD™) Liquid
DMAE (SkinTight MD™) Liquid
เครื่องสำอาง
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
เครื่องสำอาง
Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder
Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder
เครื่องสำอาง
Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)
Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)
เครื่องสำอาง
Dimethyl Isosorbide (DMI)
Dimethyl Isosorbide (DMI)
เครื่องสำอาง
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
เครื่องสำอาง
4D Hyaluronic Acid
4D Hyaluronic Acid
เครื่องสำอาง
Coenzyme Q10 (10%, Encapsulate Powder, Water-Soluble)
Coenzyme Q10 (10%, Encapsulate Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง