การตรวจสอบสูตร Sleeping Oil และความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ถามโดย: piwthongngarm เมื่อ: November 28, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังจะทำ Sleeping Oil ครับ ขอสอบถามความเป็นไปได้ของสูตรดังต่อไปนี้ครับ ว่าสามารถผสมกันได้ไหม และมีโอกาสที่ค่า pH จะไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการระคายเคือง หรือส่วนผสมบางตัวจะไม่มีประสิทธิภาพครับ

INGREDIENT          %
LipidSoft F             15
Black Cumin Seed Oil        10
Tamanu Oil          10
Rose Hip Oil            10
Grape Seed Oil          9.02
Safflower Oil           7
Squalane            5
Jojoba Oil (Clear)      5
Pomegranate Seed Oil        5
Abyssinian Oil          5
Perfect-C           5
Encapsulated Salicylic      3
Kojic Acid          3
Laurocapram             2
Alpha-Bisabolol         1
Palmitamide MEA         1
Phytosphingosine        1
Bakuchiol           1
Tea Tree Oil            0.50
Vitamin E           0.50
LHA                 0.50
Disodium EDTA           0.20
Licochalcone 20%        0.20
Protex OX           0.05
Protec UV           0.03

คำตอบ

การตรวจสอบสูตรและความเข้ากันได้

สูตร Sleeping Oil ที่คุณเสนอมานี้เป็นสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำ (anhydrous oil-based) ซึ่งเหมาะสมกับการทำเป็นออยล์บำรุงผิวสำหรับกลางคืนโดยทั่วไป อย่างไรก็ตาม มีส่วนผสมบางตัวที่อาจมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ในระบบที่เป็นน้ำมันทั้งหมด รวมถึงโอกาสที่ประสิทธิภาพจะไม่เต็มที่

ส่วนผสมที่เหมาะสมกับเบสที่เป็นน้ำมัน:

LipidSoft F (Ethyl Linoleate): เป็น Emollient Ester ที่ช่วยให้เนื้อสัมผัสดีและปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ละลายในน้ำมันได้ดี
น้ำมันธรรมชาติชนิดต่างๆ (Black Cumin Seed Oil, Tamanu Oil, Rose Hip Oil, Grape Seed Oil, Safflower Oil, Squalane, Jojoba Oil, Pomegranate Seed Oil, Abyssinian Oil): ส่วนผสมเหล่านี้เป็นน้ำมันที่จะเป็นเบสหลักของสูตร สามารถเข้ากันได้ดี
Perfect-C (Ascorbyl Tetraisopalmitate): วิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรและมีประโยชน์ต่อผิวสูง สามารถเข้ากับเบสน้ำมันได้ดี
Kojic Acid Dipalmitate: สารให้ความขาวที่ละลายในน้ำมัน ต้องใช้ความร้อน (60-80°C) ช่วยในการละลายในส่วนของน้ำมัน
Alpha-Bisabolol: สารลดการระคายเคืองที่ละลายในน้ำมัน สามารถเข้ากับเบสน้ำมันได้ดี
Palmitamide MEA: ใช้สำหรับลดการระคายเคือง เป็นผงที่สามารถละลายในน้ำมันบางชนิดได้โดยใช้ความร้อน (ประมาณ 70°C) ต้องแน่ใจว่าละลายหรือกระจายตัวได้ดีในส่วนของน้ำมัน
Phytosphingosine: ใช้ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวและมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ เป็นผงที่ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ และต้องกระจายตัว/ละลายให้เข้ากับส่วนของน้ำมันให้ดี
Bakuchiol: สารที่ละลายในน้ำมัน มีคุณสมบัติคล้ายเรตินอล ควรผสมในส่วนของน้ำมัน หลีกเลี่ยงความร้อนสูงเกินไป
Tea Tree Oil: น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย สามารถผสมเข้ากับเบสน้ำมันได้
Vitamin E (Tocopheryl Acetate): สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำมัน สามารถผสมเข้ากันได้ดี
LHA (Capryloyl Salicylic Acid): Hydroxy Acid ที่ละลายในน้ำมัน ใช้สำหรับการผลัดเซลล์ผิวและรักษาสิว เป็นผงที่ต้องใช้ความร้อน (70-80°C) ช่วยในการละลายในส่วนของน้ำมัน
Protec™ OX: สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำมัน ช่วยปกป้องส่วนผสมในสูตร ต้องใช้ความร้อน (70-80°C) ช่วยในการละลาย
Protec™ UV: สารดูดซับรังสียูวีที่ละลายในน้ำมัน ช่วยปกป้องส่วนผสมในสูตรจากแสง สามารถผสมเข้ากับเบสน้ำมันได้

ส่วนผสมที่อาจมีปัญหาในเบสที่เป็นน้ำมัน:

Encapsulated Salicylic Acid (Liquid, Timed-Release, Wash-Off): คำอธิบายผลิตภัณฑ์ (ID 229) ระบุชัดเจนว่าเป็นชนิด Wash-Off เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วล้างออกเท่านั้น (เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า) ไม่ เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-On เช่น Sleeping Oil การใช้ส่วนผสมนี้ในสูตรของคุณจะไม่ให้ประโยชน์ตามที่ต้องการ เนื่องจากต้องใช้น้ำในการกระตุ้นและปลดปล่อยสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างการล้างออก คุณควรเปลี่ยนไปใช้ Salicylic Acid หรือ LHA รูปแบบอื่นที่เหมาะสำหรับสูตร Leave-On ที่เป็นน้ำมัน หากยังต้องการคุณสมบัติการผลัดเซลล์ผิวเพิ่มเติมจาก LHA ที่มีอยู่แล้ว
Laurocapram (Water Soluble): คำอธิบายผลิตภัณฑ์ (ID 1585) ระบุว่าเป็นชนิด ละลายในน้ำ และเหมาะสำหรับช่วยนำพาส่วนผสมที่ ละลายในน้ำ เข้าสู่ผิว สูตรของคุณเป็นเบสน้ำมัน และส่วนผสมออกฤทธิ์ส่วนใหญ่ละลายในน้ำมัน ส่วนผสมนี้จะไม่ทำหน้าที่เป็นสารช่วยนำพาสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันในสูตรนี้ และอาจไม่ละลายอย่างเหมาะสม คุณควรใช้ Laurocapram ชนิด ละลายในน้ำมัน (ID 840) หากต้องการสารช่วยนำพาสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมัน
Disodium EDTA: เป็นสาร Chelating Agent ที่ใช้หลักในสูตรที่ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เพื่อจับไอออนโลหะในน้ำ ในสูตรน้ำมันที่ไม่มีน้ำ ส่วนผสมนี้จะไม่ละลายและจะยังคงเป็นผงอยู่ แม้ในทางทฤษฎีอาจช่วยจับไอออนโลหะปริมาณน้อยในน้ำมันหรือจากบรรจุภัณฑ์ได้ แต่ประสิทธิภาพจะจำกัดมาก และจะส่งผลเสียต่อเนื้อสัมผัสของออยล์ โดยทั่วไปแล้ว Chelating Agent มีความสำคัญน้อยกว่าในระบบน้ำมันที่ไม่มีน้ำ เมื่อเทียบกับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
Licochalcone A (Licorice Extract 20%): คำอธิบายผลิตภัณฑ์ (ID 1504) ระบุว่าเป็นผงที่ละลายใน Glycol แต่ ไม่สามารถละลายในน้ำได้ และจะไม่ละลายในเบสน้ำมันด้วย จะยังคงเป็นผงกระจายตัวอยู่ในเนื้อออยล์ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื้อสัมผัส และอาจจำกัดประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่ได้ละลายอย่างเหมาะสม คุณจะต้องหาสารสกัดจากชะเอมเทศรูปแบบที่ละลายในน้ำมันได้ หรือใช้สารช่วยละลายที่เหมาะสม หากต้องการใส่สารออกฤทธิ์นี้ให้มีประสิทธิภาพ

ความเหมาะสมของ pH และการระคายเคือง:

ในสูตรน้ำมันที่ไม่มีน้ำ pH ไม่ใช่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อความเสถียรของส่วนผสมหรือการระคายเคืองผิว เหมือนกับในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ โอกาสในการระคายเคืองจะมาจากตัวส่วนผสมเองและความเข้มข้นของส่วนผสมเหล่านั้น

Tea Tree Oil: ที่ความเข้มข้น 0.5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดที่แนะนำสำหรับผิวหน้า Tea Tree Oil อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะกับผิวแพ้ง่าย คุณอาจพิจารณาลดความเข้มข้นลงหากกังวลเรื่องการระคายเคือง
LHA (Capryloyl Salicylic Acid): ที่ความเข้มข้น 0.5% โดยทั่วไปถือว่าค่อนข้างอ่อนโยน แต่คำอธิบายผลิตภัณฑ์แนะนำให้ระมัดระวังการใช้ที่ความเข้มข้นสูงขึ้น (เกิน 2%) เนื่องจากอาจเกิดการระคายเคืองได้
การรวมส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดที่มีศักยภาพ (LHA, Bakuchiol, Perfect-C, Tea Tree Oil, Kojic Acid Dipalmitate) ในสูตรเดียว เพิ่มโอกาสโดยรวมในการเกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย

สรุปและข้อเสนอแนะ

สูตร Sleeping Oil ที่คุณเสนอมามีพื้นฐานที่ดีด้วยน้ำมันและสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันหลายชนิด อย่างไรก็ตาม การใส่ส่วนผสมที่ไม่เหมาะสมกับเบสน้ำมันที่ไม่มีน้ำ (Encapsulated Salicylic Acid ชนิด Wash-Off, Laurocapram ชนิดละลายในน้ำ, ผง Disodium EDTA และ Licochalcone A ที่ไม่ละลายในน้ำมัน) จะทำให้เกิดปัญหาในการผลิต (เนื้อสัมผัส ความเสถียร) และลดประสิทธิภาพของส่วนผสมเหล่านั้น

เพื่อให้ได้ Sleeping Oil ที่มีความเสถียร มีประสิทธิภาพ และเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ควรพิจารณาปรับเปลี่ยนดังนี้:

เปลี่ยน Salicylic Acid ชนิด Wash-Off: นำ Encapsulated Salicylic Acid (Wash-Off) (ID 229) ออก เนื่องจากไม่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-On ใช้ LHA (Capryloyl Salicylic Acid) ที่มีอยู่สำหรับการผลัดเซลล์ผิว หรือหาสาร Salicylic Acid รูปแบบอื่นที่เหมาะสำหรับ Leave-On หากยังต้องการคุณสมบัตินี้เพิ่มเติม
เปลี่ยน Laurocapram ชนิดละลายในน้ำ: หากต้องการสารช่วยนำพาสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมัน ให้เปลี่ยน Laurocapram (Water Soluble) (ID 1585) เป็น Laurocapram (Oil Soluble) (ID 840)
จัดการ Disodium EDTA และ Licochalcone A: ตัด Disodium EDTA (ID 184) ออก เนื่องจากไม่มีประสิทธิภาพในน้ำมันที่ไม่มีน้ำและจะส่งผลต่อเนื้อสัมผัส สำหรับ Licochalcone A (ID 1504) คุณจะต้องหาสารสกัดจากชะเอมเทศรูปแบบที่ละลายในน้ำมันได้ หรือตัดส่วนผสมนี้ออก เนื่องจากรูปแบบผงจะไม่ละลาย
พิจารณาความเข้มข้นของ Tea Tree Oil: ระมัดระวังความเข้มข้น 0.5% ของ Tea Tree Oil ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้สำหรับผิวแพ้ง่าย คุณอาจพิจารณาใช้ความเข้มข้นที่ต่ำลงหากจำเป็น
วิธีการผสมที่ถูกต้อง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมที่เป็นผง เช่น Kojic Acid Dipalmitate, Palmitamide MEA และ LHA ละลายในส่วนของน้ำมันอย่างเหมาะสมโดยใช้ความร้อนตามที่แนะนำในระหว่างการผลิต เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อสัมผัสเป็นเม็ด

การปรับเปลี่ยนเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้สูตร Sleeping Oil ที่มีความเสถียร มีประสิทธิภาพ และเนื้อสัมผัสที่น่าใช้มากขึ้น.