การตรวจสอบและปรับสูตรเซรั่ม/โลชั่นให้ความชุ่มชื้น: เนื้อสัมผัส การเพิ่มความข้น และคุณภาพน้ำ
คำถาม
จากสูตรที่ให้มา เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร เปรียบเทียบกับโลชั่น Hada Labo ได้อย่างไร และต้องปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มส่วนผสมใดบ้าง (โดยเฉพาะสารสร้างเนื้อเจลและปริมาณ) เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ข้นขึ้น?
สูตร:
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule) 0.5%
- Hyaluronic Acid (Nano Molecule) 0.5%
- WaterLock™ 2%
- MOIST72™ 2.5%
- Panthenol (Pro Vitamin B5) 2.5%
- Soy Extract (Isoflavones / Genistein) 5%
- Phenoxyethanol 0.5%
- น้ำ 86.5%
- รวม: 100%
นอกจากนี้ น้ำชนิดใดที่แนะนำสำหรับการทำเครื่องสำอาง? หากไม่สะดวกหาน้ำกลั่น สามารถใช้น้ำดื่มที่ขายในร้านสะดวกซื้อร่วมกับสารจับประจุได้หรือไม่? หากได้ ควรใช้สารจับประจุชนิดใด (เช่น Disodium EDTA) และใช้ในปริมาณเท่าใด?
คำตอบ
การตรวจสอบสูตรและการปรับเปลี่ยน
สูตรของคุณ:
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule) 0.5%
- Hyaluronic Acid (Nano Molecule) 0.5%
- WaterLock™ 2%
- MOIST72™ 2.5%
- Panthenol (Pro Vitamin B5) 2.5%
- Soy Extract (Isoflavones / Genistein) 5%
- Phenoxyethanol 0.5%
- น้ำ 86.5%
- รวม: 100%
สูตรนี้โดยรวมดีสำหรับผิวแห้งขาดน้ำค่ะ อย่างไรก็ตาม เปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมบางตัวอาจสูงกว่าที่แนะนำ ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพหรือความคุ้มค่าได้ค่ะ
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule) และ Hyaluronic Acid (Nano Molecule): คุณใช้ตัวละ 0.5% รวมเป็น 1.0% สำหรับผิวแห้งมาก ปริมาณ Hyaluronic Acid ทั้งสองชนิดที่แนะนำโดยทั่วไปคือ 0.3-0.5% การใช้ 1.0% อาจทำให้ผลิตภัณฑ์รู้สึกเหนอะหนะได้ คุณอาจพิจารณาลดปริมาณ Hyaluronic Acid ทั้งหมดลงเหลือ 0.5% (เช่น Standard 0.25% + Nano 0.25%) เพื่อลดความเหนอะหนะ ในขณะที่ยังคงให้ความชุ่มชื้นที่ดีค่ะ
- MOIST72™: คุณใช้ 2.5% สำหรับผิวแห้งมากหรือผิวแตก ผลิตภัณฑ์แนะนำให้ใช้ถึง 5% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้น การเพิ่มเปอร์เซ็นต์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อสภาพผิวของคุณค่ะ
- Panthenol (Pro Vitamin B5): คุณใช้ 2.5% คำแนะนำให้เพิ่มเป็น 5% นั้นถูกต้องค่ะ เนื่องจากอัตราการใช้สำหรับผิวคือ 1-10% การใช้ 5% อยู่ในเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถให้ประโยชน์มากขึ้น เช่น ช่วยลดการอักเสบและสมานผิว อย่างไรก็ตาม ตามที่ระบุในรายละเอียดผลิตภัณฑ์ การใช้มากกว่า 5% อาจ ทำให้ผลิตภัณฑ์เหนอะหนะได้ การใช้ 5% เป็นระดับที่เหมาะสมในการลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ให้ระวังผลกระทบต่อเนื้อสัมผัสที่อาจเหนอะหนะขึ้นค่ะ
- Soy Extract (Isoflavones / Genistein): คุณใช้ 5% อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมนี้ (Isoflaqua™) คือ 0.1-1.0% การใช้ 5% สูงกว่าที่แนะนำมาก และอาจไม่ให้ประโยชน์เพิ่มเติมจากความเข้มข้นสูงสุดที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งอาจทำให้สูตรมีราคาสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น ควรลดเปอร์เซ็นต์นี้ให้อยู่ในเกณฑ์ 0.1-1.0% เช่น 0.5% หรือ 1.0% ค่ะ
- Phenoxyethanol: คุณใช้ 0.5% นี่คือปริมาณขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับการกันเสีย ซึ่งเพียงพอสำหรับการกันเสียเบื้องต้น แต่การใช้ 1.0% จะช่วยให้การกันเสียมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจาก Phenoxyethanol เพียงอย่างเดียวไม่ได้ครอบคลุมเชื้อโรคได้กว้างนัก
การปรับเปลี่ยนที่แนะนำ:
เพื่อปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมกับผิวแห้งมากและปรับปรุงเนื้อสัมผัส ลองพิจารณาการปรับเปลี่ยนดังนี้:
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule): 0.25%
- Hyaluronic Acid (Nano Molecule): 0.25%
- WaterLock™: 2%
- MOIST72™: 5%
- Panthenol (Pro Vitamin B5): 5% (หรือคงไว้ที่ 2.5% หากกังวลเรื่องความเหนอะหนะ)
- Soy Extract (Isoflavones / Genistein): 0.5% - 1.0%
- Phenoxyethanol: 0.5% - 1.0%
- น้ำ: ปรับเปอร์เซ็นต์เพื่อให้รวมทั้งหมดได้ 100%
ตัวอย่างสูตรที่ปรับเปลี่ยน (ใช้ HA รวม 0.5%, MOIST72 5%, Panthenol 5%, Soy Extract 1%, Phenoxyethanol 1%):
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule): 0.25%
- Hyaluronic Acid (Nano Molecule): 0.25%
- WaterLock™: 2%
- MOIST72™: 5%
- Panthenol (Pro Vitamin B5): 5%
- Soy Extract (Isoflavones / Genistein): 1%
- Phenoxyethanol: 1%
- น้ำ: 80.5%
- รวม: 100%
การตัดส่วนผสมออก
แม้ว่าคุณ สามารถ ตัดส่วนผสมบางอย่างออกได้ แต่ส่วนผสมแต่ละตัวในสูตรของคุณมีบทบาทสำคัญในการให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย หรือการกันเสีย การตัดส่วนผสมใดๆ ออกมีแนวโน้มที่จะลดประสิทธิภาพโดยรวมหรืออายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ค่ะ โดยทั่วไปแล้ว การปรับเปอร์เซ็นต์ให้อยู่ในระดับที่แนะนำจะดีกว่าการตัดส่วนผสมออกทั้งหมดค่ะ
ชนิดของน้ำ
ตามที่ได้มีการตอบในกระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว น้ำกลั่น (Distilled water) เป็นชนิดของน้ำที่แนะนำสำหรับการทำเครื่องสำอางค่ะ เนื่องจากน้ำกลั่นปราศจากแร่ธาตุและไอออนที่อาจรบกวนความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสมบางชนิด โดยเฉพาะสารสร้างเนื้อเจลและสารจับประจุค่ะ
คุณไม่สามารถใช้น้ำดื่มที่ขายในร้านสะดวกซื้อได้โดยตรงค่ะ
การใช้น้ำดื่มร่วมกับสารจับประจุ
ได้ค่ะ หากไม่สะดวกหาน้ำกลั่น คุณสามารถใช้น้ำสะอาด (เช่น น้ำดื่มกรอง หรือน้ำดื่มต้มสุกหากไม่แน่ใจความสะอาด) ร่วมกับสารจับประจุ (chelating agent) ได้ค่ะ สารจับประจุจะช่วยจับไอออนของโลหะที่อาจมีอยู่ในน้ำที่ไม่ใช่น้ำกลั่น ป้องกันไม่ให้ไอออนเหล่านี้ทำให้สูตรไม่เสถียรหรือส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของสูตรค่ะ
สารจับประจุที่เหมาะสมคือ Disodium EDTA อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Disodium EDTA คือ 0.1-0.2% คุณควรเติมลงในส่วนของน้ำก่อนเติมส่วนผสมอื่นๆ ค่ะ
คุณสามารถหาสาร Disodium EDTA ได้บนเว็บไซต์ของ MySkinRecipes ค่ะ
เนื้อสัมผัสและการเพิ่มความข้น
ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ตอบไว้ สูตรเดิมของคุณจะมีเนื้อสัมผัสเหลว คล้ายกับโลชั่น Hada Labo แต่เนื่องจากปริมาณ Hyaluronic Acid ที่สูง อาจรู้สึกเหนอะหนะกว่าได้ค่ะ
หากคุณต้องการเนื้อสัมผัสที่ข้นขึ้น คุณจำเป็นต้องเติมสารสร้างเนื้อเจล (gel-forming agent หรือ thickener) เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ดูในหมวด "อื่นๆ --> สารสร้างเนื้อเจล (Thickener)" และได้กล่าวถึง Pro Polymer เป็นตัวเลือกค่ะ
Pro Polymer เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่เหมาะสมสำหรับสูตรที่มีน้ำเป็นหลัก และมีความทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ได้ดี ซึ่งเป็นประโยชน์หากคุณใช้น้ำที่ไม่ใช่น้ำกลั่นร่วมกับสารจับประจุ อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับเนื้อเจลทั่วไปคือประมาณ 0.8% คุณสามารถปรับปริมาณนี้ได้ (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 0.5% ถึง 5%) เพื่อให้ได้ความหนืดตามที่คุณต้องการค่ะ ลองเริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ (เช่น 0.5-1.0%) และค่อยๆ เพิ่มหากต้องการค่ะ
วิธีการใช้ Pro Polymer คือ ค่อยๆ โรยผงลงบนส่วนของน้ำในขณะที่คนช้าๆ จนได้เนื้อเจลที่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน หลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูงซึ่งอาจทำลายโครงสร้างของโพลิเมอร์ได้ค่ะ
สรุปแล้ว สูตรของคุณเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี การปรับเปอร์เซ็นต์ของ Hyaluronic Acid, MOIST72™, Panthenol และ Soy Extract ให้อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำจะช่วยปรับสมดุลของสูตรและลดความเหนอะหนะได้ ควรใช้น้ำกลั่น หรือใช้น้ำสะอาดร่วมกับสารจับประจุ เช่น Disodium EDTA หากต้องการเนื้อสัมผัสที่ข้นขึ้น ให้เติมสารสร้างเนื้อเจล เช่น Pro Polymer ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Hyaluronic Acid (Standard Molecule, 1M Daltons)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Disodium EDTA

Pro Polymer™ (Gel Maker)

MOIST72™

WaterLock™ (Polyquaternium-51)

D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)

Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons)
