การตรวจสูตรและปัญหาวัตถุดิบสำหรับกันแดด เซรั่ม เจลลดรอย (หลังเลเซอร์)
คำถาม
ฉันกำลังพัฒนาสูตรเครื่องสำอางหลายรายการ และมีคำถามเกี่ยวกับการละลายของวัตถุดิบ ขั้นตอนการผสม และความเข้ากันได้ โดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ค่ะ
การละลายของวัตถุดิบและการผสม:
- ฉันมี Centella Asiatica Extract (Madecassoside 7.7%) (ID 294) มันละลายในน้ำหรือน้ำมันได้โดยตรง หรือเป็นการกระจายตัวคะ? ฉันควรผสมมันในสูตรอย่างไร โดยเฉพาะถ้าสูตรไม่มีส่วนผสมกลุ่ม Glycol?
- ฉันมี BaicaVital™ (Scutellaria Baicalensis Extract) (ID 1086) และ Hi-EGCG™ (Green Tea Extract) (ID 729) ฉันพบว่ามันละลายยากและจับตัวเป็นก้อน มีวิธีที่ดีที่สุดในการละลายไหมคะ และสามารถผสมในน้ำมันได้หรือไม่? ฉันเคยอ่านเจอว่า Hi-EGCG อาจมีประสิทธิภาพในน้ำมัน
อุปกรณ์การผสม:
- ฉันสามารถใช้เครื่องตีฟองนมลาเต้หรือตะกร้อไฟฟ้า (แบบที่ใช้ตีเบเกอรี่) ช่วยในการคนหรือปั่นส่วนผสมในสูตรได้หรือไม่ โดยเฉพาะกับสารสร้างเนื้อเจลอย่าง Pro Polymer (ID 234)?
การตรวจสูตรและความเข้ากันได้:
- รบกวนช่วยตรวจสอบสูตรที่ฉันเสนอมาและให้คำแนะนำด้วยค่ะ
- สูตรกันแดด: ฉันต้องการทำครีมกันแดด มีสูตรแนะนำที่ให้ค่า SPF/PA สูงๆ และมีเนื้อสัมผัสชุ่มชื้นแบบ Water-in-Oil ไหมคะ?
- สูตร Serum: ฉันกำลังทำสูตรเซรั่มอยู่ สามารถผสมได้ไหมคะ? มีความเข้มข้นที่แนะนำสำหรับ Hi-EGCG™ (ID 729) และ Calendula Extract (ID 123) หรือไม่? มีวัตถุดิบอื่นที่แนะนำให้เพิ่มเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหลังเลเซอร์และควบคุมความมันไหมคะ เช่น Safe-B3™ (ID 74) หรือ Vitamin B5 (ID 111)?
- สูตร Scar Treatment Gel (สำหรับรอยแผลเป็นหลังเลเซอร์): ฉันมีสูตรเจลสำหรับลดรอยแผลเป็น สามารถผสมสูตรนี้ได้ไหมคะ? ฉันใส่ Papaya Enzyme (ID 1036) ไปด้วย เหมาะกับการใช้ทันทีหลังทำเลเซอร์หรือไม่? สามารถเพิ่ม Copper Peptide (GHK-Cu) (ID 272) ในสูตรนี้ได้ไหม และมีประสิทธิภาพสำหรับรอยแผลเป็นหลังเลเซอร์หรือไม่?
ความไวต่อวัตถุดิบ:
- ฉันเคยใช้ Hi-EGCG™ (ID 729) 5% ในสูตรก่อนหน้านี้แล้วรู้สึกแสบร้อนที่หน้า อาการนี้เกิดจากอะไรคะ และฉันควรหลีกเลี่ยงการใช้กับผิวหน้าหรือไม่?
คำตอบ
สวัสดีค่ะ เข้าใจเลยค่ะว่าข้อมูลเรื่องการละลายของ Centella Asiatica Extract อาจจะทำให้สับสนได้นะคะ จากข้อมูลที่ทีมงานได้ให้ไว้ สามารถสรุปและตอบคำถามของคุณได้ดังนี้ค่ะ
เรื่องการละลายของสารสกัด:
- Centella Asiatica Extract (Madecassoside 7.7%) (ID 294): สารสกัดตัวนี้ไม่ได้ละลายในน้ำหรือน้ำมันโดยตรงค่ะ แต่จะกระจายตัวอยู่ในเนื้อสูตรแทน หากในสูตรมีส่วนผสมกลุ่ม Glycol (เช่น Propylene Glycol ID 138, Butylene Glycol ID 320) อยู่ สามารถนำไปกระจายตัวใน Glycol ก่อนได้ แต่ถ้าสูตรไม่มี Glycol ก็สามารถเติมลงในเนื้อสูตรขั้นตอนสุดท้ายแล้วใช้การปั่นหรือคนให้กระจายตัวให้เข้ากันได้ค่ะ (โดยเนื้อสูตรนั้นจะต้องมีสารที่ช่วยในการกระจายตัวอยู่ด้วย เช่น Pro Polymer (ID 234) ที่คุณใช้ในสูตรเจลค่ะ) การนำไปผสมในน้ำมันโดยตรงอาจทำให้เกิดการแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ
- BaicaVital™ (Scutellaria Baicalensis Extract) (ID 1086) และ Hi-EGCG™ (Green Tea Extract) (ID 729): สารสกัดทั้งสองตัวนี้ละลายได้ในน้ำค่ะ ปัญหาการละลายยากและจับตัวเป็นก้อนที่คุณพบ อาจเกิดจากการที่สารสกัดเย็นเกินไป แนะนำให้นำสารสกัดออกมาตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนนำไปผสม หรือใช้น้ำอุ่นเล็กน้อย (ประมาณ 50°C) ในการละลาย จะช่วยให้ละลายได้ง่ายขึ้นมากค่ะ สารสกัดทั้งสองตัวนี้ไม่สามารถผสมในน้ำมันได้ค่ะ (ส่วนเรื่องประสิทธิภาพของ Hi-EGCG ในน้ำมันที่คุณอ่านเจอ อาจเป็นข้อมูลของสารสกัดชาเขียวชนิดอื่น หรือเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนค่ะ)
เรื่องอุปกรณ์การคน/ปั่น:
- สามารถใช้เครื่องตีฟองนมลาเต้หรือตะกร้อไฟฟ้าสำหรับตีเบเกอรี่ในการช่วยคนหรือปั่นส่วนผสมได้เลยค่ะ อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีขึ้นและลดปัญหาการจับตัวเป็นก้อน โดยเฉพาะกับสารสร้างเนื้อเจลอย่าง Pro Polymer (ID 234) ค่ะ
เรื่องการตรวจสูตร:
ทีมงานได้ให้คำแนะนำสำหรับสูตรที่คุณเสนอมาแล้วค่ะ สามารถสรุปได้ดังนี้ค่ะ
สูตรกันแดด: ทีมงานได้แนะนำสูตรกันแดดใหม่เพื่อให้ได้ค่า SPF และ PA ที่สูงขึ้น (ประมาณ SPF40, PA+++) และมีเนื้อสัมผัสแบบ Water-in-Oil ซึ่งน่าจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ สูตรที่แนะนำคือ:
- Water-in-Oil EZ (ID 726) 3%
- Titanium Dioxide 15nm Liquid (ID 724) 20%
- Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™ (ID 248) 10%
- Mild Preserved Eco™ (ID 1001) 1.0%
- Water (ID 838) ส่วนที่เหลือ
- หมายเหตุ: สูตรนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นในการผสมให้เข้ากันค่ะ ไม่สามารถคนด้วยมือได้ค่ะ
สูตร Serum: สูตรที่คุณเสนอมาสามารถผสมได้ค่ะ แต่จำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นในการช่วยผสม ทีมงานแนะนำให้ปรับลดความเข้มข้นของ Hi-EGCG™ (ID 729) ลงเหลือไม่เกิน 2% และ Calendula Extract (ID 123) เหลือ 1.0-1.5% ก็เพียงพอแล้วค่ะ และแนะนำให้พิจารณาเพิ่ม Safe-B3™ (ID 74) 5% และ Vitamin B5 (ID 111) 2% เพื่อช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิวหลังเลเซอร์และควบคุมความมันค่ะ
สูตร Scar Treatment Gel (สำหรับรอยแผลเป็นหลังเลเซอร์): สูตรที่คุณเสนอมาสามารถผสมได้ค่ะ แต่มีข้อแนะนำที่สำคัญคือ ควรงดใช้ Papaya Enzyme (ID 1036) ในช่วงที่ผิวพึ่งผ่านการทำเลเซอร์มา เนื่องจากเป็นสารผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจระคายเคืองผิวที่บอบบางอยู่ได้ค่ะ ส่วนผสมอื่นๆ เข้ากันได้ดีค่ะ Copper Peptide (GHK-Cu) (ID 272) สามารถเติมในสูตรนี้ได้ และจะทำงานได้เต็มที่เมื่อใช้ในช่วงที่ผิวมีการกระตุ้นหรือถูกทำลาย เช่น หลังทำเลเซอร์หรือ Derma roller ค่ะ
เรื่อง Hi-EGCG™ ที่ทำให้แสบร้อน:
จากที่คุณแจ้งว่าเคยใช้ Hi-EGCG™ (ID 729) 5% แล้วมีอาการแสบร้อน ทีมงานแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ในสูตรสำหรับผิวหน้าไปเลยค่ะ เนื่องจากผิวของคุณอาจจะแพ้สารตัวนี้ค่ะ หากต้องการใช้ อาจลองนำไปผสมในความเข้มข้นที่ต่ำมากๆ หรือใช้กับผิวส่วนอื่นของร่างกายที่ไม่แพ้แทนค่ะ และพิจารณาส่วนผสมอื่นๆ ที่มีประโยชน์คล้ายกันแต่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าของคุณแทนค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Calendula Extract (Water Soluble)

Propylene Glycol

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 7%, Liquid)

Butylene Glycol

Silky Serum Base (Face/Eye)

Titanium Dioxide 15nm Liquid (Gloss)

Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)

Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Papaya Enzyme (Papain)
