การทบทวนและปรับปรุงสูตรเซรั่มต่อต้านริ้วรอยและผิวกระจ่างใส
คำถาม
ต้องการทำเซรั่มที่เน้นผลลัพธ์เรื่องช่วยต่อต้านและลดเลือนริ้วรอย รวมถึงช่วยให้ผิวกระจ่างใส
ส่วนประกอบที่ต้องการใช้มีดังนี้ค่ะ:
- น้ำกลั่นบริสุทธิ์ 63.3%
- Repair Activator™ 15%
- Palmaria Palmata Extract 5%
- Natto Gum 5%
- Sea Kelp Extract 3%
- Ume Extract (Anti-Glycation) 3%
- Grape Seed Extract (Proanthocyanidins) 2%
- Light Cream Maker™ 1%
- PiteraEx™ (Saccharomyces Lysate Extract) 1%
- Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus) 1%
- Wrinkle-Lax™ คลายริ้วรอย 0.5%
- Wild Yam Extract (Diosgenin 95%) 0.2%
อยากสอบถามดังนี้ค่ะ:
- สัดส่วนของน้ำกลั่นบริสุทธิ์สามารถทดแทนด้วย Chamomile Water (Anthemis Nobilis) ได้หรือไม่คะ
- ตามสูตรนี้สามารถผสมได้หรือไม่คะ
- คาดหวังผลลัพธ์ (ต่อต้านริ้วรอยและผิวกระจ่างใส) ได้หรือไม่คะ
- ถ้ามีอะไรผิดพลาด อยากให้ช่วยปรับสูตรให้ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
คำตอบ
การทบทวนสูตรเซรั่ม
สูตรของคุณมีการเลือกใช้ส่วนประกอบสำคัญที่ดี ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระจ่างใส
- ส่วนประกอบต่อต้านริ้วรอย: Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate), Sea Kelp Extract, Ume Extract (Anti-Glycation), PiteraEx™ (Saccharomyces Lysate Extract), Wrinkle-Lax™ และ Wild Yam Extract (Diosgenin) มุ่งเป้าไปที่คุณสมบัติต่างๆ ของผิวที่เกี่ยวข้องกับความชรา เช่น การซ่อมแซม DNA, การต้านไกลเคชั่น, การกระตุ้นไฟโบรบลาสต์, การคลายกล้ามเนื้อ และความกระชับของผิว
- ส่วนประกอบช่วยให้ผิวกระจ่างใส: Palmaria Palmata Extract และ Natto Gum ช่วยให้ผิวแลดูสดใสและกระจ่างใสขึ้นอย่างอ่อนโยน
ความเข้มข้นของส่วนประกอบสำคัญในสูตรของคุณโดยทั่วไปอยู่ในช่วงหรือค่อนไปทางสูงของอัตราการใช้ที่แนะนำ ซึ่งบ่งชี้ว่าสูตรมีศักยภาพที่ดีในการให้ผลลัพธ์ด้านการต่อต้านริ้วรอยและผิวกระจ่างใสตามที่ต้องการ
คำตอบสำหรับคำถามของคุณ
สามารถใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์แทนด้วย Chamomile Water (Anthemis Nobilis) ได้หรือไม่?
ได้ค่ะ คุณสามารถใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์แทนด้วย Chamomile Water ได้ Chamomile Water มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว Chamomile Water ที่มีจำหน่ายมีสารกันเสีย (Phenoxyethanol 0.8%) และสูตรของคุณก็มี Phenoxyethanol SA (เทียบเท่า Optiphen Plus) อยู่แล้ว 1% การใช้ Chamomile Water 63.3% จะเพิ่มปริมาณฟีน็อกซีเอทานอลเข้าไปเล็กน้อย แต่ระดับสารกันเสียทั้งหมดในสูตรสุดท้ายควรยังคงอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการกันเสียสูตรนี้สามารถผสมได้หรือไม่?
ได้ค่ะ สูตรนี้สามารถผสมได้ แต่ต้องคำนึงถึงการละลายของส่วนประกอบและลำดับการผสม เนื่องจากส่วนประกอบบางชนิดมีความไวต่อความร้อนต่างกัน ความท้าทายหลักคือการผสม Wild Yam Extract (Diosgenin 95%) ซึ่งเป็นผงที่ละลายได้ในน้ำมันที่มีขั้วสูง เอทานอล หรือสารลดแรงตึงผิว เข้าไปในสูตรที่เป็นเบสหลักเป็นน้ำและใช้ Light Cream Maker™ เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์/สารเพิ่มความข้นคาดหวังผลลัพธ์ (ต่อต้านริ้วรอยและผิวกระจ่างใส) ได้หรือไม่?
จากส่วนประกอบสำคัญและความเข้มข้น สูตรนี้มีศักยภาพสูงในการให้ประโยชน์ด้านการต่อต้านริ้วรอย โดยช่วยลดเลือนริ้วรอย ความกระชับ และการซ่อมแซมผิว นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและปรับปรุงความสดใสของผิวด้วย ดังนั้น คุณสามารถคาดหวังผลลัพธ์ในด้านเหล่านี้ได้อย่างสมเหตุสมผล
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและการปรับปรุงที่แนะนำ
ปัญหาหลักที่อาจเกิดขึ้นคือการละลายผง Wild Yam Extract ได้อย่างมีประสิทธิภาพในโครงสร้างสูตรนี้ ซึ่งไม่มีเฟสน้ำมันที่ชัดเจนซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ในการละลาย Wild Yam Extract Light Cream Maker™ เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์ชนิด O/W ที่ออกแบบมาสำหรับสูตรที่มีเฟสน้ำมัน (สูงสุด 20%) แม้ว่าจะสามารถทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้นในน้ำได้ก็ตาม
นี่คือการปรับปรุงขั้นตอนการผสมที่แนะนำเพื่อจัดการกับการละลายของ Wild Yam Extract และความไวต่อความร้อนของส่วนประกอบอื่นๆ:
ขั้นตอนการผสมที่แนะนำ:
- เตรียมเฟส A (เฟสน้ำ - ส่วนที่ 1): รวม Chamomile Water (หรือน้ำกลั่นบริสุทธิ์), Natto Gum และ Sea Kelp Extract คนเบาๆ จนกระจายตัว/ละลายเข้ากันดี
- เตรียมเฟส B (การละลาย Wild Yam): ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ละลายผง Wild Yam Extract เนื่องจากสูตรของคุณไม่มีเฟสน้ำมัน คุณอาจลองละลายในตัวทำละลายที่เข้ากันได้ในปริมาณเล็กน้อย เช่น เอทานอล (ประมาณ 1-2% ของสูตรทั้งหมด โดยลดปริมาณน้ำลงตามสัดส่วน) หรือสารละลายสารลดแรงตึงผิวที่เหมาะสม การอุ่นเบาๆ (ต่ำกว่า 60°C เป็นเวลาไม่เกิน 10 นาที) อาจช่วยในการละลายได้หากใช้ตัวทำละลายหรือน้ำมัน (หากคุณตัดสินใจเพิ่มเฟสน้ำมันเล็กน้อย)
- รวมเฟส A และ B: เติมส่วนผสม Wild Yam Extract ที่ละลายแล้ว (เฟส B) ลงในเฟส A และผสมให้เข้ากันดี
- เติม Light Cream Maker™ (เฟส C): เติม Light Cream Maker™ ลงในส่วนผสม และคนหรือปั่นด้วยความเร็วต่ำ (ต่ำกว่า 2500 รอบต่อนาที) จนได้ความข้นของเซรั่มตามที่ต้องการ
- เติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน (เฟส D): เมื่อส่วนผสมเย็นลงแล้ว (หากมีการอุ่น) และได้เนื้อเบสแล้ว ค่อยๆ เติมส่วนประกอบที่ไวต่อความร้อนที่เหลือทีละชนิด โดยให้แน่ใจว่าแต่ละชนิดเข้ากันดีก่อนเติมชนิดถัดไป:
- Repair Activator™
- Palmaria Palmata Extract
- Ume Extract (Anti-Glycation)
- Grape Seed Extract (Proanthiocyanidins)
- PiteraEx™ (Saccharomyces Lysate Extract)
- Wrinkle-Lax™
- เติมสารกันเสีย (เฟส E): สุดท้าย เติม Phenoxyethanol SA และผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง
- ตรวจสอบขั้นสุดท้าย: ตรวจสอบค่า pH สุดท้ายของเซรั่ม โดยทั่วไปควรอยู่ในช่วง 4.0-5.5 เพื่อประสิทธิภาพและความเสถียรสูงสุดของส่วนประกอบต่างๆ เช่น Ume Extract และ Wild Yam Extract ปรับค่า pH ด้วยสารปรับค่า pH ที่เหมาะสมหากจำเป็น
ขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุงนี้จะช่วยให้แน่ใจว่า Wild Yam Extract ละลายอย่างเหมาะสม และส่วนประกอบที่ไวต่อความร้อนจะถูกเติมในอุณหภูมิที่รักษาประสิทธิภาพไว้ได้
สูตรนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านริ้วรอยและให้ประโยชน์ด้านความกระจ่างใส การผสมอย่างระมัดระวังจะช่วยให้คุณสร้างเซรั่มที่มีประสิทธิภาพได้ค่ะ.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Sea Kelp Extract

Light Cream Maker™

Natto Gum (Nutto Gum)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Ume Extract (Anti-Glycation)

Grape Seed Extract (Proanthocyanidins)

Wild Yam Extract (Diosgenin 95%)

Wrinkle-Lax™ คลายริ้วรอย

Chamomile Water (Anthemis Nobilis)

Dermal Respiratory Factor
