การทำครีมลดรอยแผลเป็นและลดการอักเสบ: การปรับสูตร เครื่องมือ การฆ่าเชื้อ และการเปรียบเทียบสารกันเสีย
คำถาม
ต้องการทำครีมสำหรับลดรอยแผลเป็นและลดการอักเสบจากสิว/แผล สูตรเดิมมีส่วนผสมของ Water/Rose Water, Satin Cream Maker, Argan Oil (15%), และ Tomato Extract (เดิมใช้สูงกว่านี้) ต้องการปรับสูตรดังนี้: ลด Tomato Extract เหลือ 5% และเพิ่ม Vitamin B5 (Panthenol) 3%
1. เมื่อปรับสูตรแล้ว สัดส่วนรวมจะเป็น 98% จำเป็นต้องปรับสัดส่วน Water/Rose Water ให้ครบ 100% หรือไม่?
2. Argan Oil 15% เหมาะสมสำหรับผิวธรรมดาหรือไม่ หรือจะทำให้เนื้อครีมหนักไป?
3. สำหรับการทำในปริมาณน้อย (100 กรัม) สามารถใช้เครื่องมือธรรมดา เช่น ช้อน หรือตะกร้อมือ ในการผสม โดยเฉพาะขั้นตอนการทำ Emulsion ได้หรือไม่?
4. การฆ่าเชื้อเครื่องมือ เช่น ชามผสมและอุปกรณ์ โดยการต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 3 นาทีและผึ่งให้แห้ง เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการทำเครื่องสำอางใช้เองที่บ้านหรือไม่?
5. เรื่องสารกันเสีย กำลังพิจารณาเปลี่ยนจาก Phenonip P4 เป็น Mild Preserved Eco สารกันเสียตัวใดดีกว่าสำหรับครีมนี้ เมื่อพิจารณาถึงต้นทุน ความอ่อนโยน ประสิทธิภาพการกันเสีย และความง่ายในการใช้งาน (โดยเฉพาะเมื่อบรรจุในกระปุกธรรมดา)?
คำตอบ
คำแนะนำการปรับสูตรครีมลดรอยแผลเป็นและลดการอักเสบ
จากสูตรที่คุณ ns2595 แจ้งมาและคำถามเพิ่มเติม มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ
สัดส่วนของสูตร
สูตรแรกที่คุณ ns2595 แจ้งมามีสัดส่วนรวม 100% พอดีค่ะ ส่วนสูตรที่ปรับใหม่ (ลด Tomato Extract เหลือ 5% และเพิ่ม Vitamin B5 3%) จะรวมเป็น 98% ค่ะ คุณจะต้องปรับสัดส่วนของ Water หรือ Rose Water เพิ่มเติมเพื่อให้ครบ 100% นะคะ
- การลดสัดส่วนของ Tomato Extract ลงเป็นความคิดที่ดีค่ะ เนื่องจากสารสกัดมะเขือเทศความเข้มข้นสูงอาจทำให้เนื้อครีมมีสีเข้มได้ตามที่ทีมงานแจ้งค่ะ
- การเพิ่ม Vitamin B5 (Panthenol) 3% มีประโยชน์ค่ะ Panthenol มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และช่วยสมานแผลได้ดี ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดรอยแผลเป็นและการอักเสบจากสิวหรือแผลค่ะ
- สัดส่วนของ Argan Oil 15% สำหรับผิวธรรมดาอาจจะไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนอะหนะมากนัก ขึ้นอยู่กับความรู้สึกส่วนบุคคลและเนื้อสัมผัสที่ชอบค่ะ หากรู้สึกว่าหนักไปในภายหลังก็สามารถลดสัดส่วนของน้ำมันลงและเพิ่มส่วนของน้ำแทนได้ โดยต้องมั่นใจว่าสารประสานเนื้อครีม (Satin Cream Maker) ยังคงเพียงพอสำหรับสัดส่วนน้ำมันที่ใช้ค่ะ
เครื่องมือและวิธีการผสม
- สำหรับการทำในปริมาณน้อย (100 กรัม) การใช้ช้อนหรือตะกร้อมือขนาดเล็ก (เช่น ที่ซื้อจาก Daiso) สามารถใช้ผสมได้ค่ะ การใช้ตะกร้อมืออาจช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในขั้นตอนการทำ Emulsion ที่ต้องคนให้เข้ากันดีค่ะ
- ความเข้าใจเรื่องการฆ่าเชื้อเครื่องมือโดยการต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 3 นาทีและผึ่งให้แห้งนั้นถูกต้องและเหมาะสมสำหรับการทำเครื่องสำอางใช้เองในบ้านค่ะ ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ
การเลือกใช้สารกันเสีย
คุณ ns2595 สอบถามเรื่องการเปลี่ยนจาก Phenonip P4 เป็น Mild Preserved Eco ตามข้อมูลที่ทีมงานให้ไว้ สารกันเสียทั้งสองชนิดมีข้อดีข้อเสียต่างกันค่ะ
- Mild Preserved Eco: อ่อนโยนกว่า ราคาสูงกว่า ประสิทธิภาพในการกันเสียน้อยกว่า และใช้งานยากกว่า (ไม่ละลายน้ำโดยตรง)
- Phenonip P4 (Para-Preserve): ไม่อ่อนโยนเท่า ราคาถูกกว่า ประสิทธิภาพในการกันเสียดีกว่า และใช้งานง่ายกว่า (ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน)
เนื่องจากคุณจะบรรจุครีมในกระปุกแบบหมุนธรรมดา (ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากการใช้นิ้วตักได้มากกว่าบรรจุภัณฑ์แบบปั๊ม) การใช้สารกันเสียที่มีประสิทธิภาพดีอย่าง Phenonip P4 อาจให้การปกป้องที่ดีกว่าค่ะ อย่างไรก็ตาม หากความอ่อนโยนต่อผิวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและคุณระมัดระวังเรื่องสุขอนามัยในการใช้งาน Mild Preserved Eco ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่คุณให้ความสำคัญค่ะ
โดยสรุป สูตรที่คุณปรับใหม่โดยลด Tomato Extract และเพิ่ม Vitamin B5 ดูน่าสนใจสำหรับวัตถุประสงค์เรื่องรอยแผลเป็นและการอักเสบค่ะ ให้ปรับสัดส่วนของส่วนที่เป็นน้ำให้ครบ 100% และเลือกสารกันเสียที่เหมาะสมกับความต้องการและวิธีการใช้งานของคุณค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
Argan Oil (Organic - Virgin - Deodorized)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Satin Cream Maker™
Para-Preserve (eq. Phenonip P4)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Tomato Extract (Lycopene)
Rose Water (Rosa Damascena)
