การทำสบู่ก้อนเนื้อครีม ให้ฟองนุ่มและชุ่มชื้น

เข้าใจว่าคุณต้องการทำสบู่ก้อนที่ให้ฟองครีมนุ่มๆ เหมือนสบู่โดฟ และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และดูขาวขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ คุณได้ระบุส่วนผสมหลายอย่างที่ต้องการใช้

การทำสบู่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีที่เรียกว่า Saponification ซึ่งน้ำมันและสารละลายด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซด์ผสมน้ำสำหรับสบู่ก้อน) จะรวมตัวกันกลายเป็นสบู่ คุณสมบัติเฉพาะของสบู่ รวมถึงลักษณะฟอง ความแข็ง และความรู้สึกชุ่มชื้นบนผิว ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของน้ำมันที่ใช้ รวมถึงปริมาณไขมันส่วนเกิน (superfatting) และส่วนผสมเพิ่มเติมอื่นๆ การคำนวณปริมาณโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่แน่นอนต้องทราบน้ำหนักที่แน่นอนของน้ำมันแต่ละชนิดและค่า SAP (Saponification Value) ซึ่งเป็นการคำนวณที่ซับซ้อนและแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและความบริสุทธิ์ของน้ำมันแต่ละชนิด ดิฉันไม่สามารถคำนวณสัดส่วนที่แน่นอนให้คุณได้

ทำความเข้าใจส่วนผสมของคุณ

จากรายการส่วนผสมของคุณและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ส่วนผสมหลักๆ และบทบาทของส่วนผสมเหล่านั้นมีดังนี้:

• น้ำมันและเนยแข็ง (น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันละหุ่ง, เชียบัตเตอร์): การผสมผสานและสัดส่วนของไขมันเหล่านี้จะกำหนดความแข็ง คุณภาพของฟอง และคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นของสบู่
  • น้ำมันมะพร้าว: ช่วยให้สบู่แข็งและสร้างฟองขนาดใหญ่ ฟองเยอะ การใช้มากเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งได้
  • น้ำมันปาล์ม: ช่วยให้สบู่แข็งและฟองคงตัว
  • น้ำมันรำข้าว และ น้ำมันถั่วเหลือง: เป็นน้ำมันที่อ่อนนุ่มกว่า ช่วยบำรุงผิวและทำให้เกิดฟองครีม น้ำมันรำข้าวยังมีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้น
  • น้ำมันละหุ่ง: มีชื่อเสียงในการช่วยเพิ่มปริมาณฟองและสร้างฟองที่หนาแน่นและคงตัว
  • เชียบัตเตอร์: เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการบำรุงผิวและความชุ่มชื้น ทำให้สบู่นุ่มและให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น
• โซเดียมไฮดรอกไซด์ และน้ำบริสุทธิ์: จำเป็นสำหรับกระบวนการ Saponification เพื่อเปลี่ยนน้ำมันและไขมันให้เป็นสบู่ ปริมาณน้ำส่งผลต่อความเข้มข้นของสารละลายด่างและความเร็วในการเกิด Trace
• กลีเซอรีน: เป็นสาร Humectant ที่ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในสบู่และบนผิว แม้ว่ากลีเซอรีนจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในกระบวนการ Saponification แต่การเติมเพิ่มสามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกชุ่มชื้นให้กับสบู่ได้
• กรดลอริก: เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่พบมากในน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม การเติมกรดลอริกเพิ่มสามารถเพิ่มความแข็งของสบู่และช่วยให้เกิดฟองที่ฟูมากขึ้น
• Sorbitan Oleate และ Glyceryl Monostearate: มักใช้เป็น Emulsifier หรือ Stabilizer ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ในการทำสบู่ อาจใช้ในกระบวนการเฉพาะหรือเบสสบู่บางชนิดเพื่อช่วยในการรวมส่วนผสมหรือปรับปรุงเนื้อสัมผัส Glyceryl Monostearate สามารถช่วยให้เนื้อสบู่มีความครีมมี่
• ไททาเนียมไดออกไซด์: ใช้เพื่อทำให้สบู่มีสีขาวและทึบแสง ไม่ได้มีผลทำให้ผิวของผู้ใช้ขาวขึ้น
• EDTA: เป็นสาร Cheating Agent ที่ช่วยให้สบู่ทำงานได้ดีขึ้นในน้ำกระด้าง โดยจะจับกับไอออนของโลหะ ป้องกันการเกิดคราบสบู่และช่วยให้ฟองดีขึ้น
• BHT (Butylated Hydroxytoluene): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันและไขมันในสบู่เหม็นหืน ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของสบู่
• นมแพะ: ช่วยเพิ่มความครีมมี่ ความชุ่มชื้น และความรู้สึกหรูหราให้กับสบู่ เนื่องจากมีไขมัน โปรตีน และน้ำตาล การใช้นมในการทำสบู่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในขั้นตอนการผสมกับด่างเพื่อป้องกันไม่ให้ไหม้

การทำให้เกิดฟองครีม

เพื่อให้ได้ฟองครีมนุ่มๆ เหมือนวิปครีมตามที่คุณต้องการ คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในการใช้ Creamy Foamer™ (Sodium Methyl Cocoyl Taurate) นั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง ส่วนผสมนี้เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุลบที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อสร้างฟองที่นุ่ม เนียน และคงตัว มักใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีซัลเฟต และสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพของฟองสบู่ของคุณได้อย่างมาก ทำให้ได้ฟองครีมตามที่คุณต้องการ โดยทั่วไปจะผสมในส่วนของน้ำ และอาจต้องใช้ความร้อนเล็กน้อยเพื่อช่วยในการละลาย

เกี่ยวกับการทำให้ผิวขาว

เกี่ยวกับความต้องการให้ผิวดู "ขาวขึ้น" ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ หน้าที่หลักของสบู่คือการทำความสะอาด การทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยเผยผิวที่ดูกระจ่างใสขึ้นได้โดยการขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่สบู่เองไม่ได้มีส่วนผสมที่ทำให้สีผิวขาวขึ้นทางเคมีในทันทีหรือจากการใช้เพียงครั้งเดียว ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นในสูตรที่คุณเสนอ เช่น เชียบัตเตอร์ น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง กลีเซอรีน และนมแพะ จะช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่ม เนียน และชุ่มชื้น ซึ่งสามารถช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้นได้

โปรดจำไว้ว่าการกำหนดสูตรที่แม่นยำต้องอาศัยการคำนวณปริมาณด่างอย่างรอบคอบตามน้ำหนักและค่า SAP ที่แน่นอนของน้ำมันและเนยแข็งที่คุณใช้