คำแนะนำในการทำสูตรเอสเซนส์/พรีเซรั่ม

เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสแบบเอสเซนส์หรือพรีเซรั่มที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว และมีความข้นระหว่างน้ำกับเซรั่ม ตามที่คุณต้องการ พร้อมทั้งใส่สารออกฤทธิ์ที่คุณระบุไว้ มีข้อควรพิจารณาดังนี้:

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับส่วนผสม

รายการสารออกฤทธิ์ที่คุณเลือกมานั้นดีเยี่ยมสำหรับประโยชน์ต่อผิว อย่างไรก็ตาม สารบางชนิด โดยเฉพาะ Hyaluronic Acid และ Glycosaminoglycans มีคุณสมบัติเพิ่มความหนืดตามธรรมชาติ และอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อใช้ในความเข้มข้นสูง

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับ DMAE ที่ 5% ข้อมูลผลิตภัณฑ์ระบุว่าการใช้ DMAE ในความเข้มข้นที่สูงกว่า 5% อาจทำให้เนื้อสูตรรู้สึก "เหนอะหนะมาก" ดังนั้น การลดความเข้มข้นลงเหลือ 3% ตามที่คุณเสนอจึงเหมาะสมและแนะนำ เพื่อลดโอกาสการเกิดความเหนอะหนะในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์กับผิว

การปรับเนื้อสัมผัสให้ได้ตามต้องการ

เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ข้นกว่าน้ำแต่เบากว่าเซรั่มทั่วไป และซึมซาบเร็วโดยไม่เหนียวเหนอะหนะ คุณจะต้องใช้สารสร้างเนื้อเจลที่เหมาะสม สารเพิ่มความหนืดแบบทั่วไปอาจทำให้รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะได้

จากความต้องการของคุณในเรื่องเนื้อสัมผัสที่ไม่เหนอะหนะและซึมซาบเร็ว สารสร้างเนื้อเจลต่อไปนี้เป็นตัวเลือกที่แนะนำ:

• AnyGel™: สารสร้างเนื้อเจลนี้มีคุณสมบัติเด่นคือให้เนื้อสัมผัสที่ไม่เหนอะหนะ รู้สึกซึมเข้าสู่ผิวทันทีและแห้งไปกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับสูตรที่เป็นน้ำ
• Aristoflex AVC: สามารถให้เนื้อเจลที่ใสสำหรับสูตรน้ำ และเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มความหนืด
• Sepimax Zen: เป็นสารเพิ่มความหนืดที่ทนต่อเกลือและค่า pH ได้ดี เหมาะสำหรับสร้างเนื้อเจลในส่วนของน้ำ

การใช้สารสร้างเนื้อเจลเหล่านี้เพียงชนิดเดียวในปริมาณน้อย (เริ่มต้นที่อัตราส่วนที่แนะนำขั้นต่ำ เช่น 0.5-1.0% และปรับเพิ่มตามความเหมาะสม) จะช่วยให้คุณได้ความหนืดที่ต้องการโดยไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะ

แนวทางการทำสูตรที่แนะนำ

1. เตรียมส่วนของน้ำโดยผสมสารออกฤทธิ์ทั้งหมดของคุณ: PiteraEx (Saccharomyces Ferment Filtrate), Hyaluronic Acid (Japan), Marine Plankton, Dipotassium Glycyrrhizate, Calendula Extract, Glycosaminoglycans และ DMAE (ที่ความเข้มข้น 3%) รวมถึง DMI และน้ำส่วนที่เหลือ
2. ค่อยๆ เติมสารสร้างเนื้อเจลที่คุณเลือก (เช่น AnyGel™, Aristoflex AVC, หรือ Sepimax Zen) ลงในส่วนของน้ำ พร้อมกับคนหรือปั่นจนได้เนื้อสัมผัสเจลตามที่ต้องการ
3. เติมสารกันเสียที่เหมาะสมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความคงตัวและปลอดภัย
4. ปรับค่า pH หากจำเป็น ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารประกอบและการเข้ากันได้กับผิว (โดยทั่วไปสำหรับเอสเซนส์/เซรั่มจะอยู่ที่ pH 5.0-6.0)

ด้วยการเลือกสารสร้างเนื้อเจลอย่างรอบคอบและควบคุมความเข้มข้น คุณจะสามารถสร้างเอสเซนส์หรือพรีเซรั่มที่มีส่วนผสมที่คุณต้องการ พร้อมเนื้อสัมผัสที่น่าใช้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว