การทำเซรั่มวิตามินซี L-Ascorbic Acid เนื้อเจล
คำถาม
ต้องการทำเซรั่มวิตามินซีโดยใช้ผง Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) และต้องการให้ได้ เนื้อเจล
- สามารถใช้ Light Cream Maker™ (ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำสำหรับสูตรครีมร่วมกับ Perfect-C™) ได้หรือไม่? จะได้เนื้อเจลไหม หรือว่าใช้ได้แค่เนื้อครีม/โลชั่น?
- มีสารก่อเจลตัวไหนที่เหมาะสมสำหรับเซรั่ม L-Ascorbic Acid ที่มีเบสเป็นน้ำ โดยคำนึงถึงค่า pH ที่ต้องต่ำ (ประมาณ 2.0-4.0 แต่สำหรับเครื่องสำอางควรมีค่าอย่างน้อย 3.5)?
- ขั้นตอนทั่วไปในการทำเซรั่มดังกล่าวเป็นอย่างไร รวมถึงลำดับการใส่ส่วนผสมต่างๆ เช่น Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine), Disodium EDTA, สารก่อเจลที่เลือก (เช่น Sepimax Zen หรือ Aristoflex AVC) และการปรับค่า pH?
คำตอบ
การทำเซรั่มวิตามินซีเนื้อเจล
คุณสนใจที่จะทำเซรั่มโดยใช้ L-Ascorbic Acid วิตามินซีชนิดนี้ละลายในน้ำ แต่ต้องการค่า pH ต่ำ (ประมาณ 2.0-4.0 โดยทั่วไปสำหรับเครื่องสำอางต้องมีค่า pH 3.5 ขึ้นไป) เพื่อให้คงตัวและมีประสิทธิภาพ
Light Cream Maker™ ใช้ทำเนื้อเจลได้หรือไม่?
ไม่ได้ Light Cream Maker™ ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสารอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นสำหรับทำเนื้อครีมหรือโลชั่น (อิมัลชันแบบน้ำในน้ำมัน) แม้ว่าจะช่วยเพิ่มความข้นในส่วนของน้ำได้ แต่จะได้เนื้อสัมผัสแบบครีม ไม่ใช่เจลใส จึงไม่เหมาะที่จะใช้แทนสารก่อเจลหากคุณต้องการเนื้อเจลโดยเฉพาะ
คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ให้ใช้ Light Cream Maker™ ร่วมกับ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) เป็นสูตรสำหรับทำ ครีม เนื่องจาก Perfect-C™ เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งเป็นสูตรที่แตกต่างจากเซรั่มวิตามินซี L-Ascorbic Acid ที่มีเบสเป็นน้ำ
การทำเนื้อเจลด้วย L-Ascorbic Acid
ในการสร้างเนื้อเจลสำหรับเซรั่ม L-Ascorbic Acid ที่มีเบสเป็นน้ำ คุณต้องใช้สารก่อเจลที่เข้ากันได้กับค่า pH ต่ำที่จำเป็น (2.0-4.0) สารก่อเจลทั่วไปหลายชนิดทำงานได้ไม่ดีหรือไม่คงตัวในสภาวะที่เป็นกรดสูง
จากข้อมูลที่มี Sepimax Zen ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นสารเพิ่มความข้น/สารช่วยคงตัวอิมัลชันที่ทนต่อเกลือและค่า pH ได้สูง และสามารถสร้างเนื้อเจลในส่วนของน้ำได้ Aristoflex AVC เป็นสารก่อเจลสำหรับสูตรน้ำอีกชนิดหนึ่ง แต่ความทนทานต่อค่า pH ต่ำที่จำเป็นสำหรับ L-Ascorbic Acid นั้นไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนเท่า Sepimax Zen
ขั้นตอนทั่วไปในการทำเซรั่ม L-Ascorbic Acid เนื้อเจล (ต้องใช้สารก่อเจลที่เข้ากันได้กับค่า pH ต่ำ)
หากคุณต้องการทำเซรั่มเนื้อเจลโดยใช้ L-Ascorbic Acid และสารก่อเจลที่เข้ากันได้กับค่า pH ต่ำ เช่น Sepimax Zen ขั้นตอนทั่วไปจะประกอบด้วย:
- ละลายผง Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) ในส่วนของน้ำ
- ใส่ Disodium EDTA ในส่วนของน้ำตามคำแนะนำ เพื่อช่วยให้ L-Ascorbic Acid คงตัวโดยการจับกับไอออนของโลหะ
- ปรับค่า pH ของส่วนของน้ำอย่างระมัดระวังให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ (2.0-4.0 โดยต้องแน่ใจว่ามีค่าอย่างน้อย 3.5 สำหรับการใช้กับผิว)
- เติมสารก่อเจลที่เข้ากันได้กับค่า pH ต่ำที่เลือก (เช่น Sepimax Zen) ลงในส่วนของน้ำ และคนผสมจนได้ความข้นของเจลที่ต้องการ
- ผสมส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้
- ใส่สารกันเสียที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มีค่า pH ต่ำ
กระบวนการนี้ต้องมีการปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง และเลือกส่วนผสมกับสารก่อเจลที่เข้ากันได้ เพื่อให้แน่ใจว่า L-Ascorbic Acid มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพ
สรุปคือ Light Cream Maker™ ใช้สำหรับทำครีม ไม่ใช่เจล หากต้องการทำเซรั่ม L-Ascorbic Acid เนื้อเจล คุณต้องใช้สารก่อเจลที่เข้ากันได้กับค่า pH ต่ำ เช่น Sepimax Zen ส่วนสูตรครีมที่เจ้าหน้าที่แนะนำโดยใช้ Light Cream Maker™ และ Perfect-C™ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเนื้อครีมโดยใช้วิตามินซีคนละชนิดกัน
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Light Cream Maker™

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

Silky Serum Base Plus (Face/Eye, Oil)

Aristoflex AVC
