คำแนะนำสำหรับการทำเซรั่ม

ขอบคุณที่สอบถามเข้ามาค่ะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณต้องการทำเซรั่มที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ (ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง มีปัญหารอยดำ รูขุมขนกว้างเล็กน้อย และต้องการให้ผิวขาวกระจ่างใส) ส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นเหมาะสมกับเป้าหมายเหล่านี้ค่ะ

นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและขั้นตอนการผสมที่แนะนำค่ะ

ข้อมูลส่วนผสม

• Vitamin B3 (Niacinamide) 3%: เป็นความเข้มข้นที่ดีในการช่วยลดรอยดำ ลดความมัน และเพิ่มความชุ่มชื้น อัตราส่วนที่แนะนำคือ 1-10% โดยทั่วไปแนะนำที่ 5% เพื่อให้เห็นผลชัดเจน 3% อยู่ในเกณฑ์ที่ให้ประโยชน์ต่อผิวค่ะ
• Witch Hazel 3%: Witch Hazel มีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขน อัตราส่วนที่แนะนำเพื่อให้เห็นผลเรื่องกระชับรูขุมขนคือ 10-100% การใช้ที่ 3% อาจช่วยปลอบประโลมผิวได้บ้าง แต่อาจไม่เพียงพอสำหรับการกระชับรูขุมขนที่ชัดเจน หากเน้นเรื่องนี้เป็นหลัก อาจพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นขึ้นค่ะ
• Alpha Arbutin 2%: เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับผิวให้กระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ 2% เป็นความเข้มข้นที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลเรื่องความขาวกระจ่างใสค่ะ
• Hyaluronic Acid 1%: Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี สำหรับผิวผสมค่อนไปทางแห้ง อัตราส่วนที่ใช้ทั่วไปจะอยู่ที่ 0.1-0.5% การใช้ที่ 1% จะทำให้เนื้อเซรั่มข้นขึ้นเป็นเจลมากขึ้น ซึ่งให้ความชุ่มชื้นสูง แต่อาจรู้สึกหนักหรือเหนอะหนะเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของ Hyaluronic Acid ที่ใช้ Hyaluronic Acid ชนิด Standard Molecule (รหัสสินค้า 79) มักใช้อัตราส่วนที่ต่ำกว่านี้สำหรับเป็นเบสเซรั่มค่ะ
• Bisabolol 1%: ส่วนผสมนี้ช่วยลดการระคายเคืองและปลอบประโลมผิว อัตราส่วนที่แนะนำคือ 1% ค่ะ
• Allantoin 0.5%: Allantoin ช่วยลดการระคายเคืองและส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ 0.5% เป็นอัตราส่วนที่แนะนำ โดยเฉพาะในสูตรที่เป็นเบสน้ำที่ผสมในอุณหภูมิห้อง เนื่องจากข้อจำกัดในการละลายน้ำค่ะ
• Phenoxyethanol 0.5%: เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ 0.5% อยู่ในเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ (0.5-1.0%) การใส่สารกันเสียในสูตรที่เป็นเบสน้ำมีความสำคัญมากเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ค่ะ
• Distilled Water: เป็นส่วนประกอบหลักของเซรั่มค่ะ

ขั้นตอนการผสม (อุณหภูมิห้อง)

การผสมส่วนใหญ่สามารถทำได้ที่อุณหภูมิห้อง แต่การละลาย Hyaluronic Acid ให้มีประสิทธิภาพมักต้องใช้เวลาหรือเทคนิคพิเศษ นี่คือลำดับขั้นตอนที่แนะนำค่ะ

1. เตรียมส่วนน้ำ: ตวง Distilled Water ตามปริมาณที่ต้องการ
2. ละลาย Hyaluronic Acid: ค่อยๆ โปรยผง Hyaluronic Acid ลงในน้ำสะอาด ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหากทำที่อุณหภูมิห้อง คุณสามารถคนหรือเขย่า แล้วตั้งทิ้งไว้หลายชั่วโมงหรือข้ามคืน (หรือนำไปแช่เย็น) จนกว่าผงจะละลายหมดและได้เนื้อเจลที่สม่ำเสมอ การใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงจะช่วยเร่งขั้นตอนนี้ได้มากค่ะ
3. เติมส่วนผสมผงที่ละลายน้ำได้: เมื่อ Hyaluronic Acid ละลายหมดแล้ว เติม Vitamin B3 และ Allantoin ลงในเบสเจล คนให้ละลายจนหมด
4. เติม Bisabolol: เติม Bisabolol เนื่องจาก Bisabolol ละลายในน้ำมัน และสูตรนี้เป็นเบสน้ำ อาจไม่ละลายหรือกระจายตัวได้ดีอย่างสมบูรณ์หากไม่มีสารช่วยละลาย (solubilizer) คนให้เข้ากันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนและสารกันเสีย: เติม Witch Hazel, Alpha Arbutin และ Phenoxyethanol ส่วนผสมเหล่านี้ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิไม่สูงกว่า 40°C (Witch Hazel) และ 30°C (Alpha Arbutin) ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบสของคุณเย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้องแล้วก่อนเติมส่วนผสมเหล่านี้
6. ผสมขั้นสุดท้าย: คนส่วนผสมทั้งหมดเบาๆ จนเข้ากันดี
7. ตรวจสอบค่า pH: แนะนำอย่างยิ่งให้ตรวจสอบค่า pH สุดท้ายของเซรั่ม Alpha Arbutin จะมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพดีที่สุดในช่วง pH 3.5-6.5 Vitamin B3 และ Allantoin ก็ทำงานได้ดีในช่วงนี้เช่นกัน ตั้งเป้าให้ค่า pH สุดท้ายอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุดของส่วนผสมทั้งหมด หากจำเป็นให้ปรับค่า pH ด้วยสารปรับค่า pH เพียงเล็กน้อย

ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณผสมส่วนผสมทั้งหมดที่คุณเลือกไว้เป็นเซรั่มได้ค่ะ อย่าลืมทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้านะคะ