การทำเซรั่ม Vitamin C E Ferulic ให้เป็น Oil-Free และความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ถามโดย: officialpon เมื่อ: April 29, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากสูตรเซรั่ม Vitamin C E Ferulic เดิมที่เคยโพสต์ไว้ ต้องการพัฒนาสูตรให้เป็นแบบ Oil-Free สำหรับผิวหน้ามัน นอกจากนี้ มีคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความเข้ากันได้ของส่วนผสมดังนี้:

  • จะปรับเปลี่ยนสูตรเดิมให้เป็น Oil-Free ได้อย่างไร?
  • การใช้ Ferulic Acid 0.2% มีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ เมื่อเทียบกับ 0.5% ที่แนะนำ?
  • Zinc Sulfate สามารถใช้ร่วมกับ Vitamin C (L-ascorbic acid) ในสูตรได้หรือไม่?

คำตอบ

ทางเลือก Oil-Free สำหรับเซรั่ม Vitamin C E Ferulic

คุณกำลังใช้เซรั่ม Vitamin C E Ferulic และต้องการสูตรที่ไม่มีน้ำมัน (oil-free) สำหรับผิวที่มันของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้ Ferulic Acid 0.2% แทน 0.5% และความเข้ากันได้ของ Zinc Sulfate กับ Vitamin C

การสร้างสูตร Oil-Free

คำแนะนำในการตัด Vitamin E (Tocopheryl Acetate) และ Laureth-23 ออกจากสูตรเดิมของคุณเป็นแนวทางที่ดีในการทำให้สูตรเป็น oil-free นี่คือเหตุผล:

  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate): เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน การนำออกช่วยลดความรู้สึกมันบนผิวของเซรั่ม
  • Laureth-23: ส่วนผสมนี้ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ ซึ่งมักใช้ในการรวมเฟสน้ำมันและน้ำในครีมและโลชั่น การนำออกเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการกำจัดเฟสน้ำมัน (Vitamin E) เพื่อให้ได้เซรั่มที่เป็น oil-free อย่างแท้จริง

การนำส่วนประกอบที่ทำให้น้ำมันเหล่านี้ออกไป จะช่วยให้คุณได้สูตรที่ไม่มีน้ำมัน

ความเข้มข้นของ Ferulic Acid

อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Pure-Ferulic Acid โดยทั่วไปคือ 0.5-1% เพื่อประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในสูตรสกินแคร์ การใช้ Ferulic Acid 0.2% ถือว่าต่ำกว่าช่วงที่แนะนำนี้ แม้ว่าจะยังคงให้การปกป้องจากอนุมูลอิสระได้บ้าง แต่ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการช่วยให้ Vitamin C เสถียรและให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยที่ชัดเจน อาจลดลงเมื่อเทียบกับการใช้ที่ความเข้มข้น 0.5% หรือ 1% ขึ้นไป

ความเข้ากันได้ของ Zinc Sulfate และ Vitamin C

ข้อกังวลเกี่ยวกับการผสม Zinc Sulfate และ Vitamin C (L-ascorbic acid) นั้นถูกต้อง L-Ascorbic Acid เป็นที่ทราบกันดีว่าไม่เสถียร โดยเฉพาะในสารละลายที่เป็นน้ำและเมื่อมีไอออนของโลหะบางชนิด ไอออนสังกะสีจาก Zinc Sulfate อาจเร่งการเสื่อมสลายของ L-Ascorbic Acid ได้ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียประสิทธิภาพและความเสถียรของ Vitamin C การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เสถียรซึ่งมีส่วนผสมทั้งสองนี้จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากความไม่เข้ากันทางเคมีนี้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Vitamin C E Ferulic
Vitamin C E Ferulic
เครื่องสำอาง
Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Laureth-23
Laureth-23
เครื่องสำอาง
Zinc Sulfate (Heptahydrate)
Zinc Sulfate (Heptahydrate)
เครื่องสำอาง
Zinc Sulfate (Heptahydrate, 22% Zinc)
Zinc Sulfate (Heptahydrate, 22% Zinc)
เครื่องสำอาง