สวัสดีค่ะ

นี่คือการประเมินสูตรเซรั่มลดริ้วรอยและให้ความชุ่มชื้นที่คุณเสนอ พร้อมคำแนะนำบางประการค่ะ

การประเมินสูตรเซรั่ม

สูตรของคุณประกอบด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ครอบคลุม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ปัญหาผิวหลายด้าน เช่น ริ้วรอย ความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส และการควบคุมความมัน นี่คือการพิจารณาส่วนผสมและการปรับเปลี่ยนที่แนะนำ:

ส่วนผสมและความเข้มข้น

• Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate) 10%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (5-100%) มีคุณสมบัติช่วยในการซ่อมแซม DNA ของผิว
• Matrixyl 3000 (Pal-GHK, Pal-GQPR) 5%: ความเข้มข้นนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดของช่วงที่แนะนำ (3-5%) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 5%: นี่คืออัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไป (1-10%, แนะนำ 5%) Niacinamide มีประโยชน์หลายอย่าง รวมถึงลดริ้วรอย จุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื้น ควบคุมความมัน และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
• Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline) 10%: ความเข้มข้นนี้อยู่ที่อัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ (3-10%) ทำงานโดยการคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ สามารถใช้ร่วมกับ Matrixyl 3000 ได้ดี
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) 5%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-8%) ทำงานเสริมฤทธิ์กับ Niacinamide เพื่อความกระจ่างใส และยังช่วยกระตุ้นการผลิต Hyaluronic Acid คำอธิบายผลิตภัณฑ์แนะนำให้ใช้ GlucoBright 4% ร่วมกับ Niacinamide 2-4% เพื่อเสริมฤทธิ์กันอย่างเหมาะสม แต่ 5% ของแต่ละตัวก็ยังอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ตามขีดจำกัดของแต่ละส่วนผสม
• Licorice Extract (Glabridin 4.5%) 1%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-2%) Glabridin มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดการระคายเคือง
• Zinc PCA 1%: ความเข้มข้นนี้อยู่ที่อัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ (0.2-1.0%) ซึ่งมักใช้สำหรับผิวที่มีความมันหรือเป็นสิวง่าย หากจุดประสงค์หลักของคุณคือการลดริ้วรอยและให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ได้เน้นเรื่องความมันหรือสิวเป็นพิเศษ การใช้ความเข้มข้นที่ต่ำกว่า (เช่น 0.2-0.5%) อาจเพียงพอสำหรับคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน และช่วยลดความซับซ้อนในการปรับค่า pH ของสูตร
• 20nm Silver Pure™ (Nano Silver) 1%: อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Nano Silver 20nm Powder นั้นต่ำกว่ามาก โดยทั่วไปอยู่ที่ 0.01-0.1% การใช้ 1% สูงกว่าที่แนะนำอย่างมาก และอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความเสถียรของสูตร (เนื่องจากเป็นผงที่ไม่ละลาย) และอาจมีข้อกังวลด้านความปลอดภัย เนื่องจากเป็นสารต้านจุลชีพเป็นหลัก เมื่อมี Mild Preserved Eco อยู่แล้ว ความจำเป็นในการใช้ Nano Silver ในความเข้มข้นสูงขนาดนี้เพื่อการกันเสียจึงเป็นที่น่าสงสัย ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ลดความเข้มข้นของ Nano Silver ลงเหลือ 0.1% หรือน้อยกว่า หรือพิจารณาไม่ใส่เลยหากระบบกันเสียเพียงพอด้วย Mild Preserved Eco
• Superoxide Dismutase (SOD) 0.5%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-1%) SOD เป็นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
• Wrinkle-Fill™ (Acetyl-Tyrosine) 1%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-2%) ช่วยเสริมการทำงานของเปปไทด์ในการลดริ้วรอยและปรับปรุงความกระชับของผิว โปรดทราบว่า Acetyl-Tyrosine มีความเป็นกรด ซึ่งจะส่งผลต่อค่า pH สุดท้ายของสูตร
• Wrinkle-Lax™ 0.3%: ความเข้มข้นนี้อยู่ที่ระดับต่ำสุดของช่วงที่แนะนำ (0.3-0.5%) ช่วยคลายริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ
• Dimethyl Isosorbide (DMI) 3%: นี่คืออัตราที่แนะนำสำหรับการทำหน้าที่เป็นสารนำพา (1-10%, แนะนำ 3% สำหรับการนำพา) จะช่วยให้ส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
• Mild Preserved Eco™ 1%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับเครื่องสำอางทั่วไป (0.5-2.0%, ใช้ทั่วไป 1.0-1.5%) ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียในสูตร

ข้อควรพิจารณาในการทำสูตร

• การปรับค่า pH: เนื่องจากส่วนผสมหลายชนิดมีข้อกำหนดค่า pH เฉพาะสำหรับความสามารถในการละลายและความเสถียร (Niacinamide 4-7, Zinc PCA 4-6, Acetyl Hexapeptide-8 3.5-6.5, GlucoBright 3-7, Wrinkle-Fill มีความเป็นกรด) การปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ การตั้งเป้าค่า pH ระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 น่าจะเหมาะสมกับส่วนผสมส่วนใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ขั้นตอนการผสม: ให้ความสำคัญกับคำแนะนำในการผสมสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน (Peptides, Repair Activator, Licorice Extract, Wrinkle-Lax, SOD) ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 40°C (หรือ 60°C สำหรับ Wrinkle-Lax) เพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพ SOD ควรผสมในเบสที่ไม่มีน้ำ หรือใช้สารเพิ่มความข้นแบบโพลีเมอร์ในเบสน้ำเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
• ความสามารถในการละลาย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบสของสูตรสามารถรองรับทั้งส่วนประกอบที่ละลายในน้ำและ Isododecane ที่ละลายในน้ำมันได้ จำเป็นต้องมีระบบอิมัลชันที่เหมาะสม
• การเก็บรักษา: เนื่องจากส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด (Repair Activator, Peptides, Licorice Extract, SOD, Wrinkle-Fill) จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นเพื่อการเก็บรักษาในระยะยาว จึงแนะนำให้เก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในตู้เย็นเพื่อความเสถียรสูงสุด

สรุปคำแนะนำ

1. ลด Nano Silver: การปรับเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดคือการลดความเข้มข้นของ Nano Silver ลงอย่างมากจาก 1% เหลือไม่เกิน 0.1% ตามที่แนะนำ หรือนำออกไปเลยหากระบบกันเสียเพียงพอ
2. พิจารณาความเข้มข้นของ Zinc PCA: หากเซรั่มไม่ได้เน้นสำหรับผิวที่มีความมันหรือเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ คุณอาจพิจารณาลดความเข้มข้นของ Zinc PCA ลงเหลือ 0.2-0.5%
3. ตรวจสอบความเข้ากันได้: สร้างเบสของสูตรอย่างระมัดระวังเพื่อให้สามารถรองรับส่วนประกอบทั้งที่ละลายในน้ำและละลายในน้ำมัน เช่น Isododecane ได้
4. ควบคุมค่า pH: ปรับค่า pH สุดท้ายให้แม่นยำอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง 4.0 ถึง 6.0
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำการผสม: ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอุณหภูมิและขั้นตอนการผสมเฉพาะสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิดอย่างเคร่งครัด
6. แนะนำการเก็บในตู้เย็น: แนะนำให้ผู้ใช้เก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในตู้เย็นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน

โดยรวมแล้ว สูตรของคุณอุดมไปด้วยส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ การจัดการความเข้มข้นของ Nano Silver และการควบคุมค่า pH และการผสมอย่างระมัดระวัง จะช่วยให้คุณได้เซรั่มลดริ้วรอยและให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูงค่ะ