การประเมินสูตรเซรั่มและขั้นตอนการผสม

ถามโดย: marie_yoi เมื่อ: February 12, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันได้ปรุงสูตรเซรั่มโดยใช้ส่วนผสมและสัดส่วนดังนี้ค่ะ:

  1. Hydroxyethyl Cellulose 1%
  2. Glycerine 3%
  3. Vitamin B3 4%
  4. Acetyl glucosamine 4%
  5. Cordycep extract 3%
  6. Glydant (สารกันเสีย) 0.5%
  7. Dimethyl Isosorbide 3%
  8. น้ำกลั่นปราศจากเชื้อ 81.5%

ขั้นตอนการผสมของดิฉันคือ:

  1. แบ่ง น้ำกลั่น ออกเป็น 2 ส่วน นำส่วนหนึ่งมาผสมกับข้อ 1 (Hydroxyethyl Cellulose) ใช้ความร้อน 70°C จนเป็นเนื้อเจล
  2. นำข้อ 2, 3, 4, 5, และ 7 ผสมกับ น้ำกลั่น อีกส่วนที่แบ่งไว้
  3. ค่อยๆ เทจากข้อ 2 ผสมกับเนื้อเจลที่ได้
  4. เติมข้อ 6 (Glydant)

จากข้อมูลนี้ ดิฉันมีคำถามดังนี้ค่ะ:

  • สูตรนี้สามารถผลิตได้ไหมคะ
  • ควรจะเติมอะไรลงในสูตรนี้อีกไหมคะ
  • ขั้นตอนในการผสมถูกต้องไหมคะ

คำตอบ

การประเมินสูตรเซรั่ม

สูตรเซรั่มนี้ประกอบด้วยส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหลายชนิด ทั้งในด้านความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส จากส่วนผสมที่ระบุและหลักการทั่วไปในการปรุงเครื่องสำอาง สามารถประเมินได้ดังนี้:

สูตรนี้สามารถผลิตได้ไหมคะ

ได้ค่ะ สูตรนี้โดยทั่วไปสามารถผลิตได้ ส่วนผสมที่ระบุเป็นส่วนผสมที่นิยมใช้ในเครื่องสำอางและเข้ากันได้ดีในระบบที่เป็นน้ำ

  • Hydroxyethyl Cellulose เป็นสารก่อเจลชนิดไม่มีประจุมาตรฐาน
  • Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ละลายน้ำได้ดีมาก
  • Vitamin B3 (Niacinamide) และ Acetyl Glucosamine เป็นสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งทราบกันดีว่ามีประโยชน์ในการทำให้ผิวกระจ่างใสและอื่นๆ และทำงานร่วมกันได้ดี
  • Dimethyl Isosorbide เป็นสารช่วยนำพา (penetration enhancer) ที่ช่วยนำพาสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำเข้าสู่ผิวได้ดี
  • DMDM Hydantoin (คาดว่าเป็นสารกันเสีย Glydant ที่ใช้) เป็นสารกันเสียที่ละลายน้ำได้และเหมาะสมกับสูตรลักษณะนี้

เปอร์เซ็นต์การใช้ส่วนผสมแต่ละชนิดอยู่ในช่วงที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ควรจะเติมอะไรลงในสูตรนี้อีกไหมคะ

แม้ว่าสูตรหลักจะใช้งานได้ดี แต่คุณอาจพิจารณาเพิ่มส่วนประกอบบางอย่างเพื่อปรับปรุงความเสถียรและประสิทธิภาพ:

  • สารปรับค่า pH: Vitamin B3 (Niacinamide) และ Acetyl Glucosamine มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นกลาง (เหมาะที่สุดระหว่าง pH 4.0 ถึง 7.0) คุณควรวัดค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายและปรับหากจำเป็น โดยใช้กรดเจือจาง (เช่น สารละลาย Citric Acid หรือ Lactic Acid) หรือเบส (เช่น สารละลาย Sodium Hydroxide)
  • สารคีเลต (Chelating Agent): การเพิ่มสารคีเลต เช่น Disodium EDTA สามารถช่วยปรับปรุงความเสถียรของสูตรได้ โดยจะจับกับไอออนของโลหะที่อาจมีอยู่ในน้ำหรือส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีหรือการเสื่อมสภาพของสารออกฤทธิ์ได้
  • การกลบกลิ่น: Dimethyl Isosorbide อาจมีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายอีเทอร์ หากกลิ่นนี้ไม่เป็นที่ต้องการ คุณอาจพิจารณาเพิ่มน้ำหอมเล็กน้อยหรือสารกลบกลิ่น
  • สารสกัดเห็ดหลินจือ (Cordycep extract): ข้อมูลเกี่ยวกับสารสกัดเห็ดหลินจือที่คุณใช้โดยเฉพาะไม่มีอยู่ในฐานข้อมูลของเรา โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหมาะสมสำหรับใช้ในเครื่องสำอางและละลายน้ำได้สำหรับสูตรนี้

ขั้นตอนในการผสมถูกต้องไหมคะ

ขั้นตอนทั่วไปในการผสมของคุณส่วนใหญ่ถูกต้อง แต่มีการปรับปรุงเล็กน้อยที่อาจช่วยให้กระบวนการดีขึ้น:

  1. ขั้นตอนที่ 1: การทำให้น้ำส่วนหนึ่งร้อนถึง 70°C และค่อยๆ โปรย Hydroxyethyl Cellulose ลงไปพร้อมคนอย่างต่อเนื่อง เป็นวิธีที่ถูกต้องในการทำให้ HEC อิ่มตัวและขึ้นเจล
  2. ขั้นตอนที่ 2: การผสม Glycerin, Vitamin B3, Acetyl Glucosamine, สารสกัดเห็ดหลินจือ และ Dimethyl Isosorbide กับน้ำส่วนที่เหลือก็ถูกต้อง เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้ละลายน้ำได้ Dimethyl Isosorbide ทนความร้อนได้ ดังนั้นอุณหภูมิของน้ำส่วนนี้จึงยืดหยุ่นได้ แต่อุณหภูมิห้องก็ใช้ได้ดี
  3. ขั้นตอนที่ 3: การค่อยๆ เทส่วนผสมจากขั้นตอนที่ 2 ลงในเจลจากขั้นตอนที่ 1 พร้อมคน เป็นขั้นตอนมาตรฐานในการรวมเฟสน้ำเข้ากับเบสเจล
  4. ขั้นตอนที่ 4: การเติมสารกันเสีย (DMDM Hydantoin) ในขั้นตอนสุดท้ายเหมาะสม สารกันเสียมักถูกเติมในขั้นตอนการเย็นตัวลง โดยทั่วไปที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C เพื่อให้แน่ใจในประสิทธิภาพและความเสถียร แม้ว่า DMDM Hydantoin จะทนอุณหภูมิสูงได้ถึง 80°C ก็ตาม

ข้อเสนอแนะขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุง:

  1. ทำให้น้ำบริสุทธิ์ประมาณ 70% ของปริมาณทั้งหมดร้อนถึง 70°C ค่อยๆ โปรย Hydroxyethyl Cellulose ลงไปพร้อมคนอย่างต่อเนื่องจนได้เนื้อเจลที่เนียนสม่ำเสมอ พักไว้ให้เย็น
  2. ในภาชนะแยกต่างหาก ผสมน้ำบริสุทธิ์ส่วนที่เหลือ 30% (ที่อุณหภูมิห้อง) กับ Glycerin, Vitamin B3, Acetyl Glucosamine, สารสกัดเห็ดหลินจือ และ Dimethyl Isosorbide คนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี
  3. เมื่อเจล Hydroxyethyl Cellulose เย็นลงถึงอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ค่อยๆ เทส่วนผสมจากขั้นตอนที่ 2 ลงในเจลพร้อมคนเบาๆ จนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  4. เติมสารกันเสีย (DMDM Hydantoin) และคนให้กระจายทั่ว
  5. วัดค่า pH ของเซรั่มสุดท้าย ปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่ต้องการ (เหมาะที่สุด 4.0-7.0) โดยใช้สารปรับค่า pH ที่เหมาะสมหากจำเป็น
  6. หากต้องการ สามารถเพิ่มน้ำหอมหรือสารกลบกลิ่นและคนให้เข้ากัน

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (4500mPa.s)
Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (4500mPa.s)
เครื่องสำอาง
Dimethyl Isosorbide (DMI)
Dimethyl Isosorbide (DMI)
เครื่องสำอาง
Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2800mPa.s)
Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2800mPa.s)
เครื่องสำอาง
Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2000mPa.s) (Super Clear Gel)
Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2000mPa.s) (Super Clear Gel)
เครื่องสำอาง
DMDM Hydantoin
DMDM Hydantoin
เครื่องสำอาง
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
เครื่องสำอาง